เคยได้ยินคำพูดนี้มั้ยคะ?
#รู้เขารู้เรารบ100ครั้งชนะ100ครั้ง
เพราะฉะนั้นถ้าอยากใช้ Skincare #ให้ปัง #ให้เห็นผล
เราก็ต้องรู้จักกับโครงสร้างของผิวหนังเราเสียก่อน ฟังดูซับซ้อน แต่จริงๆแล้วเข้าใจง่ายมั่กๆ

เพราะการรู้โครงสร้างของชั้นผิวจะทำให้เราเข้าใจกลไกการทำงานของสารบำรุงประเภทต่างๆที่อยู่ใน Skin care
และเมื่อเข้าใจกลไกการออกฤทธิ์ของสารบำรุงประเภทต่างๆ
ไม่ว่าจะ #moisturizer #Whitening #Antiaging
หรือเคลมใหม่ๆในท้องตลาด
บวกกับควาเข้าใจใน #ประเภทผิว #จุดอ่อน #จุดแข็ง ของผิวเรา
แค่เพียงเท่านี้เราก็จเลือก skincare ได้ถูกต้อง เป๊ะปังแน่นอน

**************************************************************
ไม่รอช้ามาเริ่มกันเลยย
ผิวหนังมนุษย์แบ่งตามโครงสร้างได้ 2 ชั้น คือ ชั้นหนังกำพร้า กับ ชั้นหนังแท้
1. ชั้นหนังกำพร้า (epidermis = อี-พิ-เดอ-มิส)
เป็นผิวชั้นนอกสุด เซลล์ในชั้นนี้ส่วนใหญ่เป็นเซลล์เคอราติโนไซต์ (keratinocyte)
จะเห็นว่าชื่อมันจะคล้ายๆกับคำว่าเคราติน (keratin) เพราะว่าชั้นนี้มีโปรตีนเคราตินเป็นส่วนประกอบหลักๆ นั่นเอง

เจ้าเคราตินจะคอยเพิ่มจำนวนจากด้านล่าง แล้วก็ดันๆๆขึ้นไปด้านบนของผิวเรา
ซึ่งพอดันมาถึงด้านบนก็จะเปลี่ยนเป็นเซลล์ที่ตายแล้ว ที่เราเรียกว่าชั้นขี้ไคลนั่นแหละ
แต่เรียกให้หรูๆตามชื่อจริงก็คือ เซลล์คอร์นีโอไซต์ (corneocyte)
แล้วชั้นขี้ไคลหรือคอร์นีโอไซต์ ก็หลุดลอกไปตามธรรมชาตินั่นเอง
ซึ่งมันจะใช้เวลาราวๆ 26-42 วัน (ตีง่ายๆคือ 28 วันโดยเฉลี่ย) ในการสร้างและผลัดเซลล์ผิว
โดยรวมแล้ว "ชั้น epidermist นี่แหละเป็นชั้นผิวหนังหลัก ที่ skincare จะมาให้การบำรุง"
เลยเป็นสาเหตุว่าเราต้องบำรุงผิวซะตั้งแต่วันนี้
เพื่อที่ 28 วันข้างหน้าจะได้เผยผิวสุขภาพดี
และถ้าเราทำสม่ำเสมอผิวเราก็จะสวยทุกวันยังไงหละ
**************************************************************

2. ชั้นหนังแท้ (dermis = เดอ-มิส)
เป็นชั้นเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (connective tissue) ถ้าพูดง่ายๆคือเป็นชั้นที่จะมีเส้นใยระโยงระยางเต็มไปหมด
มาดูว่ามีอะไรบ้าง
- เส้นใยคอลลาเจน (collagen fiber) --เจอเป็นส่วนใหญ่
- เส้นใยอิลาสติก(elastic fiber)
- เส้นใยร่างแห (reticular fiber)
- เซลล์สร้างเส้นใย (fibroblast)
- เซลล์ของเนื้อเยื่อเส้นใยอื่นๆ
- และมีเซลล์ประสาทรับสัมผัสด้วย
ซึ่งชั้นนี้จะเป็นชั้นที่ยาจะต้องถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี
ต้องมีระบบนำส่งเพื่อลงมาถึงชั้นนี้ให้ได้ (ต้องทะลุผิวชั้นนอกลงมาก่อน) เพื่อที่จะดูดซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อ หรือกระแสเลือด
เพื่อไปออกฤทธิ์ตามบริเวณที่ต้องการต่อไป
**************************************************************
แถมไว้ให้อีกหน่อย
ถัดจากชั้นหนังแท้จะเป็นบริเวณที่มีเนื้อเยื่อสะสมไขมันอยู่เป็นจำนวนมาก
เรียกว่า hypodermis หรือ เนื้อเยื่อไขมัน (subcutaneous tissue) นะคะ
และลงมาด้านล่างสุดก็จะเริ่มเป็นมัดกล้ามเนื้อของเราแล้วค่า (ดูตามรูปเลยจะเพิ่มความเข้าใจได้เยอะทีเดียว)
**************************************************************
และนี่ก็คือโครงสร้างหลักๆของผิวหนังทั้งหมด
ให้เราพอเห็นภาพเป็นไอเดียกันก่อน
งั้นมาสรุปกันอีกทีสั้นๆ
ผิวหนังมี 2 ชั้น คือหนังกำพร้ากับหน้งแท้
1. หนังกำพร้า --จะมีเซลล์เคอราติโนไซต์คอยผลิตและผลัดออกทุกๆ28 วัน
ซึ่งเคอราติโนไซต์ที่ถูกดันมาด้านบนเป็นชั้นขี้ไคลมื่อเล่นหรูๆว่าคอร์นีโอไซต์
หนังกำพร้าถือเป็นส่วนที่ skincare ฤทธิ์ต่างๆจะมาบำรุงให้ผิวสวยได้ค่า
2.หน้งแท้--เป็นชั้นที่เนื้อเยี่อเกี่ยวพันเต็มไปหมด
ชั้นนี้ยาจะถูกออกแบบมาให้ถูกดูดซึมจนมาถึงชั้นนี้แล้วก็เข้าสู่กระแสเลือดไปออกฤทธิ์ตามส่วนต่างๆของร่างกายค่า
**************************************************************
แล้วเดี๋ยวเราจะมาลงลึกกันว่า ชั้นหนังกำพร้า หรือ epidermis
จะไปเกี่ยวข้องกับการบำรุงยังไงบ้าง แบบจัดเต็ม
อย่าลืมติดตามตอนต่อไปกันนะค้าาา
ตอนหน้ายาวนิดนึง แต่รับรองมันส์แน่นอน

#ยิ่งเข้าใจผิวยิ่งบำรุงผิวได้ดียิ่งขึ้น
#เภสัชกรรัก