หน้าหมองไม่กระจ่างใส ทำยังไงดี?
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อน ว่าผิวกระจ่างใส แนว glow glass skin เนี่ย มันไม่ใช่เรื่องของความขาวนะจ๊ะ ไม่ว่าผิวแบบไหนก็สามารถสวยกระจ่างใสดูสุขภาพดีและอ่อนเยาว์ได้ ถ้าได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง
ทีนี้หลายคนก็ไม่เข้าใจคิดว่าการไม่ไปยุ่ง ไม่บำรุงอะไรกับผิวเลย หวังให้ผิวคงสภาพเดิมตลอดกาล คงเป็นไปไม่ได้ เพราะ...ผิวเราเปลี่ยนแปลงทุกวัน ไม่ว่าจะจากปัจจัยภายใน อายุ ฮอร์โมน ความเครียด หรือปัจจัยภายนอก เช่น มลภาวะ แสงแดด การแต่งหน้า สิ่งต่างๆเหล่านี้ ก่อให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงภายในผิวหนัง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังที่ก่อให้เกิดความหมองคล้ำไม่กระจ่างใสประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
① การผลัดเซลล์ผิวที่ช้าลง
เซลผิวชั้นหนังกำพร้าก็เหมือนกับเส้นผม ที่จะมีวงจรการสร้างใหม่และผลัดออกเสมอ โดยเริ่มสร้างจาก stem cell ด้านล่าง จากนั้นค่อยๆเคลื่อนสู่ผิวด้านบนแล้วหลุดออกไป โดยส่วนชั้นบนสุดคือส่วนของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว (stratum corneum) มีหน้าที่สำคัญในการปกป้องร่างกาย แล้วรอการผลัดออก (desquamation) เพื่อให้เซลล์ใหม่แข็งแรงขึ้นมาปกป้องผิวต่อไป ซึ่งวงจรตั้งแต่การสร้างจนถึงผลัดเซล์ผิวที่ตายแล้วออก ใช้เวลา 26-42 วัน (ที่คนส่วนใหญ่กะคร่าวๆกันว่าที่ 28 วัน)
ข่าวร้ายคือเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป ผิวจะมีการผลัดเซลล์ที่ช้าลง ทำให้ซากเซลล์ผิวที่ตายแล้วกองทับถมเหมือนกองขยะ ผิวจึงดูหมองคล้ำไม่เรียบเนียน ลองจินตนาการผิวศอกเข่าที่ด้านๆ นั่นแหละคือตัวอย่างของการที่เซลล์ผิวหนาตัวขึ้น กลายเป็นผิวดูแห้งกร้านหมองคล้ำ
② ความชุ่มชื้นผิวลดลง
ถ้านึกไม่ออกว่าความชุ่มชื้นสำคัญกับความกระจ่างใสยังไง ให้ลองนึกถึงตอนปากแห้งว่าสภาพเป็นยังไง มันดูเทาๆเป็นร่องๆไม่ชุ่มฉ่ำ ผิวหนังเราก็เหมือนกัน พอแห้ง มันก็ดูไม่สดใส
เพราะน้ำในผิวช่วยกระจายแสง
สาเหตุก็หลายอย่าง อายุก็มีส่วนที่ทำให้ผิวแห้ง เพราะ เมื่ออายุมากขึ้น ปริมาณสารที่ช่วยปกป้องผิว (skin barrier) และสารทีเก็บกักความชุ่มชื้นในผิว เช่น NMF (natural moisturizing factor) ก็มีการผลิตลดลงตามอายุ
นอกจากนี้ ตัวเราเองนี่แหละที่ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำร้อน การใช้สารทำความสะอาดผิวหน้าที่ทำลายสารเคลือบผิวดีๆออกหมด รวมถึงการที่อยู่ห้องแอร์ทั้งวัน เกิดการสูญเสียความชื้นออกจากผิวตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้เราสามารถหลีกเลี่ยงป้องกันได้
③ การสร้างเม็ดสีเพิ่มขึ้น (↑ melanin)
ไม่ว่าจะจากแสงแดด มลภาวะ หรือความเครียด ล้วนทำให้เกิดอนุมูลอิสระ (free radical ) ซึ่งเจ้าตัวอนุมูลอิสระนี่ละเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีเมลานินขึ้น
รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมดูแล้วผิวตั้งแต่วันนี้กันนะคะ เลือกสกินแคร์ที่แก้ตรงปัญหาผิวแต่ละส่วน พร้อมปกป้องดูแลผิวให้แข็งแรง
ชอบบทความ ฝากติดตามได้ทางเพจนะคะ
https://www.facebook.com/BeautyDiary-100989591957062
สาเหตุปัญหาผิวหมองคล้ำ รู้แล้วจะได้ดูแลผิวตัวเองอย่างถูกต้อง
หน้าหมองไม่กระจ่างใส ทำยังไงดี?
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อน ว่าผิวกระจ่างใส แนว glow glass skin เนี่ย มันไม่ใช่เรื่องของความขาวนะจ๊ะ ไม่ว่าผิวแบบไหนก็สามารถสวยกระจ่างใสดูสุขภาพดีและอ่อนเยาว์ได้ ถ้าได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง
ทีนี้หลายคนก็ไม่เข้าใจคิดว่าการไม่ไปยุ่ง ไม่บำรุงอะไรกับผิวเลย หวังให้ผิวคงสภาพเดิมตลอดกาล คงเป็นไปไม่ได้ เพราะ...ผิวเราเปลี่ยนแปลงทุกวัน ไม่ว่าจะจากปัจจัยภายใน อายุ ฮอร์โมน ความเครียด หรือปัจจัยภายนอก เช่น มลภาวะ แสงแดด การแต่งหน้า สิ่งต่างๆเหล่านี้ ก่อให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงภายในผิวหนัง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังที่ก่อให้เกิดความหมองคล้ำไม่กระจ่างใสประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
① การผลัดเซลล์ผิวที่ช้าลง
เซลผิวชั้นหนังกำพร้าก็เหมือนกับเส้นผม ที่จะมีวงจรการสร้างใหม่และผลัดออกเสมอ โดยเริ่มสร้างจาก stem cell ด้านล่าง จากนั้นค่อยๆเคลื่อนสู่ผิวด้านบนแล้วหลุดออกไป โดยส่วนชั้นบนสุดคือส่วนของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว (stratum corneum) มีหน้าที่สำคัญในการปกป้องร่างกาย แล้วรอการผลัดออก (desquamation) เพื่อให้เซลล์ใหม่แข็งแรงขึ้นมาปกป้องผิวต่อไป ซึ่งวงจรตั้งแต่การสร้างจนถึงผลัดเซล์ผิวที่ตายแล้วออก ใช้เวลา 26-42 วัน (ที่คนส่วนใหญ่กะคร่าวๆกันว่าที่ 28 วัน)
ข่าวร้ายคือเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป ผิวจะมีการผลัดเซลล์ที่ช้าลง ทำให้ซากเซลล์ผิวที่ตายแล้วกองทับถมเหมือนกองขยะ ผิวจึงดูหมองคล้ำไม่เรียบเนียน ลองจินตนาการผิวศอกเข่าที่ด้านๆ นั่นแหละคือตัวอย่างของการที่เซลล์ผิวหนาตัวขึ้น กลายเป็นผิวดูแห้งกร้านหมองคล้ำ
② ความชุ่มชื้นผิวลดลง
ถ้านึกไม่ออกว่าความชุ่มชื้นสำคัญกับความกระจ่างใสยังไง ให้ลองนึกถึงตอนปากแห้งว่าสภาพเป็นยังไง มันดูเทาๆเป็นร่องๆไม่ชุ่มฉ่ำ ผิวหนังเราก็เหมือนกัน พอแห้ง มันก็ดูไม่สดใส
เพราะน้ำในผิวช่วยกระจายแสง
สาเหตุก็หลายอย่าง อายุก็มีส่วนที่ทำให้ผิวแห้ง เพราะ เมื่ออายุมากขึ้น ปริมาณสารที่ช่วยปกป้องผิว (skin barrier) และสารทีเก็บกักความชุ่มชื้นในผิว เช่น NMF (natural moisturizing factor) ก็มีการผลิตลดลงตามอายุ
นอกจากนี้ ตัวเราเองนี่แหละที่ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำร้อน การใช้สารทำความสะอาดผิวหน้าที่ทำลายสารเคลือบผิวดีๆออกหมด รวมถึงการที่อยู่ห้องแอร์ทั้งวัน เกิดการสูญเสียความชื้นออกจากผิวตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้เราสามารถหลีกเลี่ยงป้องกันได้
③ การสร้างเม็ดสีเพิ่มขึ้น (↑ melanin)
ไม่ว่าจะจากแสงแดด มลภาวะ หรือความเครียด ล้วนทำให้เกิดอนุมูลอิสระ (free radical ) ซึ่งเจ้าตัวอนุมูลอิสระนี่ละเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีเมลานินขึ้น
รู้อย่างนี้แล้วอย่าลืมดูแล้วผิวตั้งแต่วันนี้กันนะคะ เลือกสกินแคร์ที่แก้ตรงปัญหาผิวแต่ละส่วน พร้อมปกป้องดูแลผิวให้แข็งแรง
ชอบบทความ ฝากติดตามได้ทางเพจนะคะ https://www.facebook.com/BeautyDiary-100989591957062