ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 14 ราย ทหารไทยกลับซูดานใต้ป่วยอีก 7 ที่เหลือมาจากฮ่องกง-อินเดีย-ตุรกี
ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 14 ราย มีทหารไทยกลับจากซูดานป่วยเพิ่ม 7 ราย เขตบริหารพิเศษฮ่องกง 3 ราย ตุรกี 1 ราย และครอบครัวชาวอินเดียที่เดินทางมาจากอินเดีย 3 ราย อายุน้อยสุด 9 เดือน
วันนี้ (29 ก.ย.) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 14 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักใน State Quarantine ทั้งหมด โดยมาจากซูดานใต้ 7 ราย เขตบริหารพิเศษฮ่องกง 3 ราย อินเดีย 3 ราย และตุรกี 1 ราย ซึ่งวันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 1 ราย
สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,559 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,445 ราย และตรวจพบในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ จำนวน 621 ราย จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 3,370 ราย ส่วนผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 130 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 59 ราย
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่กลับจากซูดานใต้ 7 ราย เป็นชายไทย อายุระหว่าง 29-53 ปี ทหาร ถึงไทยเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2563 เข้าพัก State Quarantine จ.ชลบุรี วันที่ 26 ก.ย. 2563 ผลตรวจพบเชื้อ
เขตบริหารพิเศษฮ่องกง 3 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 28 ปี (2 ราย) และ 50 ปี รับจ้าง ถึงไทยเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2563 เข้าพัก State Quarantine กรุงเทพมหานคร วันที่ 26 ก.ย. 2563 ผลตรวจพบเชื้อ
อินเดีย 3 ราย 2 ราย เป็นมารดาและบุตรหญิง สัญชาติอินเดีย อายุ 31 ปี และ 9 เดือน และชายสัญชาติอินเดีย อายุ 34 ปี ผู้จัดการบริษัท ถึงไทยเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2563 เข้าพัก Alternative State Quarantine
กรุงเทพมหานคร วันที่ 26 ก.ย. 2563 ผลตรวจพบเชื้อ
ตุรกี 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 44 ปี ว่างงาน ถึงไทยเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2563 เข้าพัก State Quarantine กรุงเทพมหานคร วันที่ 26 ก.ย. 2563 ผลตรวจพบเชื้อ
https://mgronline.com/qol/detail/9630000099490
เล็งตรวจเลือด นทท.ต.ค.หาโควิด ก่อนชงลดวันกักตัว7 วัน
“หมอธีระวัฒน์” แจงยิบเทคนิคตรวจเลือดหาการติดเชื้อโควิด เจอได้แม้ไม่มีอาการ ศึกษาในรพ.จุฬา 98 รายให้ผลดี เล็งเก็บตัวอย่างนทท.คุณภาพเดือน ต.ค. ก่อนลดวันกักตัว นทท. 7 วัน ย้ำรายได้เข้าประเทศต้องลงสู่ชุมชนด้วย 50:50
เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย กล่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าอยู่ระหว่างการศึกษาการตรวจหาการการติดเชื้อโควิด-19 เพื่อนำไปสู่การพิจารณาลดวันกักตัวนักท่องเที่ยวจาก 14 วันเหลือ 7 วัน ว่า ที่ผ่านมา ศูนย์โรคอุบัติใหม่สภากาชาดไทย ได้ทำการเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อหาหลักฐานการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) คือ.....📍
1.ภูมิคุ้มกัน Igm 2.ภูมิคุ้มกัน Igg และ 3. ภูมิคุ้มกันที่สามารถยับยั้งไวรัสได้ โดยการเจาะเลือดที่ปลายนิ้วปริมาณ 0.3-0.5 ซีซี ซึ่งใครก็ตามที่ติดเชื้อโควิด-19 ไม่ว่าจะมีอาการหรือไม่มีอาการก็สามารรถตรวจเจอได้ แต่มีข้อแม้อยู่ว่าหากมีการติดเชื้อใน 4-5 วันอาจจะยังตรวจไม่พบอะไรเลย แต่ถ้าหลังติดเชื้อไปแล้ว 4-5 วัน แม้ไม่มีอาการก็สามารถตรวจเจอ ถ้าผลการตรวจเลือดในช่วงวันที่ 0 และวันที่ 7 หากพบว่าผลเป็นลบเท่าว่าไม่มีการติดเชื้อ แต่ถ้าผลเป็นบวกจะต้องตรวจวิเคราะห์ต่อว่าเป็นเชื้อที่สามารถแพร่โรคต่อได้อีกหรือไม่
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า ทั้งนี้เมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค. ที่ผ่านมา รพ.จุฬาลงกรณ์ ได้เจาะเลือดในกลุ่มผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 98 ราย ซึ่งเข้าโดยเข้าโรงพยาบาล ด้วยอาการเล็กน้อย ปานกลาง หรือหนัก ซึ่งทำในวันที่มีการตรวจยืนยันแล้วว่าเชื้อสามารถแพร่ได้ หรือทำหลังจากนั้น 1 วัน ผลการตรวจพบว่ามีความไว 100% และมีความจำเพาะต่อเชื้อ 100% และมีการตรวจหาหลักฐานการติดเชื้อทั้ง 3 ชนิด โดยการเจาะเลือดตรวจเป็นระยะๆ ในวันที่ 3, 5 และ 7 ผลที่ออกมาก็จะพบความเปลี่ยนแปลงของระดับภูมิคุ้มกันที่แตกต่างตามที่ควรจะเป็น
“ตรงนี้ให้ความมั่นใจสูงสุด แต่ถ้าอยากจะทดสอบอีกก็สามารถทำได้ โดยในเดือนต.ค.นี้จะมีนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามา และมีการกักตัว 14 วันเต็ม โดยเก็บตัวอย่างเลือด และแยงจมูก ในวันที่ 0, 7, 14 ถ้าผ่านไปอย่างเรียบร้อย แล้วพบว่าใน 7วันสามารถบอกได้ 100% วันไม่มีการติดเชื้อก็สามารถนำไปสู่การพิจารณาลดวันกักตัวเหลือ 7 วันได้ โดยตรวจเลือดแค่วันที่ 0 และ 7 ดังนั้นในเดือน ธ.ค.นักท่องเที่ยวก็สามารถเข้ามาได้อย่างสบายใจได้โดยที่จะมีระยะเวลาในการกักตัวแค่ 7 วัน ตรวจเชื้อ 2 ครั้ง” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวด้วยว่า วันนี้มีนักท่องเที่ยวขอเข้ามาในเมืองไทยจำนวนมาก ตอนนี้เราเป็นคนเลือก โดยอาจจะเริ่มที่ประเทศสีเขียว สีเหลือง ส่วนสีแดงอาจจะยังไม่อนุญาต สิ่งที่ทำนี้ทำให้เราได้นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ พอเข้ามาก็เจาะเลือดในวันที่ศูนย์ แล้วให้ผลเป็นลบ จริงๆ อาจจะมีการติดเชื้อแล้วก็ได้ จึงให้กักตัว 5-7 วันจากนั้นก็เจาะเลือดครั้งที่ 2 ถ้ายังให้ผลเป็นลบตรงนี้ก็จะบอกได้ว่าโอกาสติดเชื้อนับว่าน้อยยิ่งกว่าน้อยหรือแทบจะไม่มีเลย ถ้ายังไม่สบายใจ ในวันที่ 7 ก็สามารถตรวจด้วยการแยงจมูกไปตรวจ RT-PCR ด้วยก็ได้ ส่วนตัวเห็นว่ามีหลายประเทศที่สถานการณ์อยู่ในระดับสีเดียว อาทิ นอร์เวย์ สวีเดน เป็นต้น ส่วนใหญ่เข้ามาแล้วอยู่ไทยระยะยาว อย่างไรก็ตาม ล่าสุดประเทศญี่ปุ่นก็ติดต่อขอเข้ามาเที่ยวไทยจำนวนมาก โดยยอมรับมาตรการทุกอย่างของไทย แต่ขอให้มีการกักตัว 7 วันได้หรือไม่ แต่สถานการณ์ของญี่ปุ่นก็พบผู้ติดเชื้อผลุบๆ โผล่ๆ แต่ก็นับเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ อีกทั้งคนญี่ปุ่นก็ได้รับการตรวจหาเชื้อค่อนข้างบ่อย
การเปิดให้นักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามาจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้ ซึ่งปัจจุบันสภากาชาดไทย มีความสามารถในการรองรับการเจาะเลือดปลายนิ้วเพื่อหาหลักฐานการติดเชื้อได้มาถึงวันละ 5,000 รายต่อวัน และสามารถยกระดับรองรับการตรวจฯ ได้มากถึง 10,000 รายต่อวัน ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ครั้งละ 1,000 บาท ตรวจ 2 ครั้ง ก็ 2,000 บาท ทั้งนี้จะมีการตั้งกรรมการร่วมระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้ประกอบการ และพื้นที่ ให้รับทราบกระบวนการทุกอย่าง และรู้ว่าเม็ดเงินที่จะเข้ามาในประเทศนั้นไปที่ไหนบ้าง ย้ำว่า รายได้ที่จากนักท่องเที่ยวที่เข้ามา ต้องมีสัดส่วน 50 : 50 ต้องตกถึงมือคนในชุมชน ไม่ใช่ว่าเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วมีเพียงนายทุนใหญ่ที่ได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศ
อ่านต่อที่ :
https://www.dailynews.co.th/politics/798184
โควิดใกล้ตัว!พม่าติดเชื้ออีก 897 คน ตายเพิ่มวันเดียว 30 ราย
29 ก.ย.63- สถานการณ์การระบาดโควิด-19 หลายประเทศย่านอาเซียนรอบวันที่ผ่านมา ยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะพม่า ล่าสุดติดเชื้อเพิ่ม 897 คน รวมติดเชื้อแล้ว 11,631 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 30 คน รวมเสียชีวิตแล้ว 256 ราย
มาเลเซีย ติดเชื้อเพิ่ม 115 คน รวมติดเชื้อแล้ว 11,034 ราย ที่กู่ไม่กลับแล้วคือฟิลิปปินส์ ติดเชื้อเพิ่ม 3,073 คน รวมติดเชื้อแล้ว 307,288 ราย อินโดนีเซีย ติดเชื้อเพิ่ม 3,509 คน รวม 278,722 ราย
https://www.thaipost.net/main/detail/78943
ปล.ขออภัยมีงานเลี้ยงกลับดึกค่ะ....กระทู้ช้าไป1วัน
🔴มาลาริน/29 ก.ย.ไทยพบโควิด14 ราย กลับจากตปท. เล็งตรวจเลือด นทท.ก่อนชงลดวันกักตัว7 วัน พม่าและอาเซียนติดเชื้อพุ่งไม่หยุด
ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 14 ราย มีทหารไทยกลับจากซูดานป่วยเพิ่ม 7 ราย เขตบริหารพิเศษฮ่องกง 3 ราย ตุรกี 1 ราย และครอบครัวชาวอินเดียที่เดินทางมาจากอินเดีย 3 ราย อายุน้อยสุด 9 เดือน
วันนี้ (29 ก.ย.) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 14 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักใน State Quarantine ทั้งหมด โดยมาจากซูดานใต้ 7 ราย เขตบริหารพิเศษฮ่องกง 3 ราย อินเดีย 3 ราย และตุรกี 1 ราย ซึ่งวันนี้มีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่ม 1 ราย
สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,559 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,445 ราย และตรวจพบในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ จำนวน 621 ราย จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 3,370 ราย ส่วนผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 130 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 59 ราย
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่กลับจากซูดานใต้ 7 ราย เป็นชายไทย อายุระหว่าง 29-53 ปี ทหาร ถึงไทยเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2563 เข้าพัก State Quarantine จ.ชลบุรี วันที่ 26 ก.ย. 2563 ผลตรวจพบเชื้อ
เขตบริหารพิเศษฮ่องกง 3 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 28 ปี (2 ราย) และ 50 ปี รับจ้าง ถึงไทยเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2563 เข้าพัก State Quarantine กรุงเทพมหานคร วันที่ 26 ก.ย. 2563 ผลตรวจพบเชื้อ
อินเดีย 3 ราย 2 ราย เป็นมารดาและบุตรหญิง สัญชาติอินเดีย อายุ 31 ปี และ 9 เดือน และชายสัญชาติอินเดีย อายุ 34 ปี ผู้จัดการบริษัท ถึงไทยเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2563 เข้าพัก Alternative State Quarantine
กรุงเทพมหานคร วันที่ 26 ก.ย. 2563 ผลตรวจพบเชื้อ
ตุรกี 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 44 ปี ว่างงาน ถึงไทยเมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2563 เข้าพัก State Quarantine กรุงเทพมหานคร วันที่ 26 ก.ย. 2563 ผลตรวจพบเชื้อ
https://mgronline.com/qol/detail/9630000099490
เล็งตรวจเลือด นทท.ต.ค.หาโควิด ก่อนชงลดวันกักตัว7 วัน
“หมอธีระวัฒน์” แจงยิบเทคนิคตรวจเลือดหาการติดเชื้อโควิด เจอได้แม้ไม่มีอาการ ศึกษาในรพ.จุฬา 98 รายให้ผลดี เล็งเก็บตัวอย่างนทท.คุณภาพเดือน ต.ค. ก่อนลดวันกักตัว นทท. 7 วัน ย้ำรายได้เข้าประเทศต้องลงสู่ชุมชนด้วย 50:50
เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย กล่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าอยู่ระหว่างการศึกษาการตรวจหาการการติดเชื้อโควิด-19 เพื่อนำไปสู่การพิจารณาลดวันกักตัวนักท่องเที่ยวจาก 14 วันเหลือ 7 วัน ว่า ที่ผ่านมา ศูนย์โรคอุบัติใหม่สภากาชาดไทย ได้ทำการเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อหาหลักฐานการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) คือ.....📍
1.ภูมิคุ้มกัน Igm 2.ภูมิคุ้มกัน Igg และ 3. ภูมิคุ้มกันที่สามารถยับยั้งไวรัสได้ โดยการเจาะเลือดที่ปลายนิ้วปริมาณ 0.3-0.5 ซีซี ซึ่งใครก็ตามที่ติดเชื้อโควิด-19 ไม่ว่าจะมีอาการหรือไม่มีอาการก็สามารรถตรวจเจอได้ แต่มีข้อแม้อยู่ว่าหากมีการติดเชื้อใน 4-5 วันอาจจะยังตรวจไม่พบอะไรเลย แต่ถ้าหลังติดเชื้อไปแล้ว 4-5 วัน แม้ไม่มีอาการก็สามารถตรวจเจอ ถ้าผลการตรวจเลือดในช่วงวันที่ 0 และวันที่ 7 หากพบว่าผลเป็นลบเท่าว่าไม่มีการติดเชื้อ แต่ถ้าผลเป็นบวกจะต้องตรวจวิเคราะห์ต่อว่าเป็นเชื้อที่สามารถแพร่โรคต่อได้อีกหรือไม่
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า ทั้งนี้เมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค. ที่ผ่านมา รพ.จุฬาลงกรณ์ ได้เจาะเลือดในกลุ่มผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 98 ราย ซึ่งเข้าโดยเข้าโรงพยาบาล ด้วยอาการเล็กน้อย ปานกลาง หรือหนัก ซึ่งทำในวันที่มีการตรวจยืนยันแล้วว่าเชื้อสามารถแพร่ได้ หรือทำหลังจากนั้น 1 วัน ผลการตรวจพบว่ามีความไว 100% และมีความจำเพาะต่อเชื้อ 100% และมีการตรวจหาหลักฐานการติดเชื้อทั้ง 3 ชนิด โดยการเจาะเลือดตรวจเป็นระยะๆ ในวันที่ 3, 5 และ 7 ผลที่ออกมาก็จะพบความเปลี่ยนแปลงของระดับภูมิคุ้มกันที่แตกต่างตามที่ควรจะเป็น
“ตรงนี้ให้ความมั่นใจสูงสุด แต่ถ้าอยากจะทดสอบอีกก็สามารถทำได้ โดยในเดือนต.ค.นี้จะมีนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามา และมีการกักตัว 14 วันเต็ม โดยเก็บตัวอย่างเลือด และแยงจมูก ในวันที่ 0, 7, 14 ถ้าผ่านไปอย่างเรียบร้อย แล้วพบว่าใน 7วันสามารถบอกได้ 100% วันไม่มีการติดเชื้อก็สามารถนำไปสู่การพิจารณาลดวันกักตัวเหลือ 7 วันได้ โดยตรวจเลือดแค่วันที่ 0 และ 7 ดังนั้นในเดือน ธ.ค.นักท่องเที่ยวก็สามารถเข้ามาได้อย่างสบายใจได้โดยที่จะมีระยะเวลาในการกักตัวแค่ 7 วัน ตรวจเชื้อ 2 ครั้ง” ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวด้วยว่า วันนี้มีนักท่องเที่ยวขอเข้ามาในเมืองไทยจำนวนมาก ตอนนี้เราเป็นคนเลือก โดยอาจจะเริ่มที่ประเทศสีเขียว สีเหลือง ส่วนสีแดงอาจจะยังไม่อนุญาต สิ่งที่ทำนี้ทำให้เราได้นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ พอเข้ามาก็เจาะเลือดในวันที่ศูนย์ แล้วให้ผลเป็นลบ จริงๆ อาจจะมีการติดเชื้อแล้วก็ได้ จึงให้กักตัว 5-7 วันจากนั้นก็เจาะเลือดครั้งที่ 2 ถ้ายังให้ผลเป็นลบตรงนี้ก็จะบอกได้ว่าโอกาสติดเชื้อนับว่าน้อยยิ่งกว่าน้อยหรือแทบจะไม่มีเลย ถ้ายังไม่สบายใจ ในวันที่ 7 ก็สามารถตรวจด้วยการแยงจมูกไปตรวจ RT-PCR ด้วยก็ได้ ส่วนตัวเห็นว่ามีหลายประเทศที่สถานการณ์อยู่ในระดับสีเดียว อาทิ นอร์เวย์ สวีเดน เป็นต้น ส่วนใหญ่เข้ามาแล้วอยู่ไทยระยะยาว อย่างไรก็ตาม ล่าสุดประเทศญี่ปุ่นก็ติดต่อขอเข้ามาเที่ยวไทยจำนวนมาก โดยยอมรับมาตรการทุกอย่างของไทย แต่ขอให้มีการกักตัว 7 วันได้หรือไม่ แต่สถานการณ์ของญี่ปุ่นก็พบผู้ติดเชื้อผลุบๆ โผล่ๆ แต่ก็นับเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ อีกทั้งคนญี่ปุ่นก็ได้รับการตรวจหาเชื้อค่อนข้างบ่อย
การเปิดให้นักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามาจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้ ซึ่งปัจจุบันสภากาชาดไทย มีความสามารถในการรองรับการเจาะเลือดปลายนิ้วเพื่อหาหลักฐานการติดเชื้อได้มาถึงวันละ 5,000 รายต่อวัน และสามารถยกระดับรองรับการตรวจฯ ได้มากถึง 10,000 รายต่อวัน ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ครั้งละ 1,000 บาท ตรวจ 2 ครั้ง ก็ 2,000 บาท ทั้งนี้จะมีการตั้งกรรมการร่วมระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้ประกอบการ และพื้นที่ ให้รับทราบกระบวนการทุกอย่าง และรู้ว่าเม็ดเงินที่จะเข้ามาในประเทศนั้นไปที่ไหนบ้าง ย้ำว่า รายได้ที่จากนักท่องเที่ยวที่เข้ามา ต้องมีสัดส่วน 50 : 50 ต้องตกถึงมือคนในชุมชน ไม่ใช่ว่าเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วมีเพียงนายทุนใหญ่ที่ได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศ
อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/politics/798184
โควิดใกล้ตัว!พม่าติดเชื้ออีก 897 คน ตายเพิ่มวันเดียว 30 ราย
29 ก.ย.63- สถานการณ์การระบาดโควิด-19 หลายประเทศย่านอาเซียนรอบวันที่ผ่านมา ยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะพม่า ล่าสุดติดเชื้อเพิ่ม 897 คน รวมติดเชื้อแล้ว 11,631 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 30 คน รวมเสียชีวิตแล้ว 256 ราย
มาเลเซีย ติดเชื้อเพิ่ม 115 คน รวมติดเชื้อแล้ว 11,034 ราย ที่กู่ไม่กลับแล้วคือฟิลิปปินส์ ติดเชื้อเพิ่ม 3,073 คน รวมติดเชื้อแล้ว 307,288 ราย อินโดนีเซีย ติดเชื้อเพิ่ม 3,509 คน รวม 278,722 ราย
https://www.thaipost.net/main/detail/78943
ปล.ขออภัยมีงานเลี้ยงกลับดึกค่ะ....กระทู้ช้าไป1วัน