แชร์ประสบการณ์สร้างบ้านในฝันกลางกรุง ตอนที่ 1: วางแผน ตั้งงบ ออกแบบ ตามหาคน(สร้าง)ที่ใช่

สวัสดีค่ะเพื่อนๆสมาชิก ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ขอประเดิมกระทู้แรกโดยการขอมาแชร์ประสบการณ์ตรงจากการสร้างบ้าน (ปัจจุบันยังไม่เสร็จ 100%) เป็นการเดินทางไกลที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ปลายทางช่างหอมหวานยิ่งนัก ชวนให้เราจินตนาการถึงความสุขที่จะได้รับเมื่อบ้านเสร็จ ที่สำคัญคือเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างทาง ที่หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆสมาชิกและได้เหมือนร่วมเดินทางไปกับเราด้วยค่ะ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนมาถึงงานอัพเดทล่าสุดนะคะ

อยากมีบ้านแล้วว~ 
การมีบ้านตัวเองนับเป็นความใฝ่ฝัน (ของทุกคนๆจริงนะ) รวมทั้งคู่ของเราด้วย หลังจากที่แต่งงานมาได้ระยะนึงและคิดว่าคงไม่จากกันไปไหนแล้ว อายุอานามก็ 30+ เราเลยตัดสินใจว่าเราควรจะมีบ้านกันสักที~ เพราะอยู่คอนโดตอนนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์เรื่องพื้นที่ในอนาคต เช่น ถ้ามีลูก พ่อแม่มาเยี่ยม หรือการมีเลี้ยงสัตว์ ตอนนั้นที่บ้านแฟนมีที่ดินเปล่าในกรุงเทพแต่ยังติดที่มีคนเช่ามาอยู่หลายปี เราเลยยังไม่ได้คิดเรื่องการไปสร้างบ้านเอง

งานอดิเรกของเราก็เลยเป็นการตระเวนดูโครงการบ้านจัดสรรทำเลบริเวณโดยรอบกรุงเทพ (น่าจะเกิน 20 โครงการได้) ดูจนทะลุปรุโปร่งแบบไปเป็นเซลล์ได้แล้ว ทั้งเรื่องการดูวัสดุ ผัง ขนาดและการจับจุดที่คล้ายคลึงกัน โดยมีหลายโครงการที่เราถูกใจแต่ก็ยังฟันธงกันไม่ได้ เช่น ชอบผังโครงการนี้แต่ไม่ชอบทำเล คิดในใจว่าถ้าเอาจุดที่เราชอบของแต่ละโครงการมายำกันได้คงดี (ยิงดูเยอะ ยิ่งคิดวนไป)


ภาพตอนไปดูบ้านจัดสรร

ในระหว่างนั้นเราก็ได้วิเคราะห์ข้อดี - ข้อเสียของบ้านเดี่ยวจัดสรรกันออกมา 

ข้อดี
- บ้านสร้างสำเร็จแล้ว สะดวก ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องก่อสร้าง
- มีส่วนรักษาความปลอดภัย
- มีส่วนกลาง มีที่ให้ออกกำลังกาย มีที่พาหมาไปเดินเล่นได้
- มีแบบมาตรฐาน สาธารณูปโภคครบครัน เข้าอยู่ได้เกือบทันที
- มีต้นไม้ปลูกมาให้เลย
ข้อเสีย
 - ทำเลอยู่ไกลออกไปนอกเมือง เข้ามาทำงานและหาพ่อแม่ลำบาก
- ไม่ได้แบบบ้านที่เราต้องการ หน้าตาเหมือนๆกัน
- วัสดุไม่ใช่แบบที่เราชอบ อาจจะต้องมีรื้อหรือต่อเติมอีก
- ต้องเสียค่าส่วนกลางตลอดชีพ
- ไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัว

วางแผน วางงบ ตัดสินใจ~
ข้อสำคัญก่อนมีบ้านเลยคือเรื่องงบ เพราะงบจะช่วยกำหนดทิศทางทุกอย่างของเราไม่ให้กระจัดกระจายและประเมินขีดจำกัดของตัวเองได้
หลังจากที่เราวางแผนเรื่องการเงินในบ้านอย่างละเอียด คำนวนตั้งแต่เงินเก็บ เงินสำรอง จะกู้หรือจะสด หักลบกลบหนี้ คิดรายรับรายจ่ายในอนาคต ก็สรุปได้ว่าเรามีงบสุดที่ประมาณ 5 ล้านบาท รวมค่าเฟอร์นิเจอร์แล้ว

จังหวะที่จะตัดสินใจ คนเช่าที่ดินก็สัญญาใกล้หมดพอดี ก็เลยทำให้เป็นจุดเปลี่ยนว่าเออ ถ้าเรายังหาบ้านจัดสรรที่ใช่ไม่เจอ มาสร้างเองกันสักตั้งไหม? เราเลยได้ลองวิเคราะห์กันใหม่และคิดราคาต่อตารางเมตรที่เรารับไหว

หลังจากที่คิดวนไปมา เปิดเวปดูเทียบราคา สุดท้ายเราก็ตัดสินใจว่ามาสร้างกันเองดีกว่า! ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เพราะดูแล้วก็ไม่ค่อยแตกต่างกับซื้อบ้านเท่าไหร่ (ถ้าคุมงบได้) แถมยังได้อยู่ใกล้บ้านพ่อแม่ในย่านที่เราคุ้นเคย สำคัญเลยคืออยากได้ประสบการณ์สักครั้งในชีวิตในการสร้างบ้านเองแบบที่เราชอบจริงๆ คิดว่าต้องสนุกแน่นอน หัวเราะ ถ้าตอนนี้ย้อนกลับไปถามตัวเองใหม่ได้คงถาม เอ็งแน่ใจหรือ...

มา มาออกแบบบ้านในฝัน~

เราได้ลองออกแบบบ้านสองชั้นกันง่ายๆในโปรแกรม Sketch Up โดยดูแบบจากบ้านญี่ปุ่นที่เราทั้งคู่ชอบกันใน Pinterest และลองวางผังบ้านกันคร่าวๆ
 

ภาพบ้านญี่ปุ่นที่เราชอบใน pinterest มีหลังคาจั่วสูง ดูอบอุ่น 


ภาพผังบ้านที่สเกตกันคร่าวๆ (ภาพชั้น 1 หาไม่เจอค่ะเลยมีแต่ชั้น 2)


ภาพร่างแบบบ้านที่ทำใน Sketchup

เช็คลิสต์ส่วนประกอบที่เราอยากก็ได้ เช่น
- มีสวนกว้างๆอยู่หลังบ้าน เพราะหน้าบ้านเป็นถนนสาธารณะที่มีรถขับผ่านตลอดเวลา บวกกับเราอยากมีพื้นที่ส่วนตัวไว้บาบีคิวได้ มีพื้นที่สีเขียวเยอะๆ 
- มีส่วนนั่งเล่นอยู่หลังบ้าน สามารถมองเห็นวิวสวน
- มีพื้นที่ Foyer ถอดรองเท้าในบ้านแบบบ้านญี่ปุ่น 
- มี Open Floor Plan หรือพื้นที่แบบเปิดเชื่อมทุกส่วน มีไอส์แลนด์ 
- มีเพดานสูงๆ โปร่งๆ
- มี terrace ไว้นั่งเล่นรอบๆบ้านได้


ภาพจาก Pinterest 

ภาพจาก Pinterest 

ภาพจาก Pinterest 

รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง (หาคนสร้างบ้าน) ~

ด้วยความที่เราอยากออกแบบบ้านและวางผังเอง เราเลยได้มีไปคุยกับบริษัทสถาปนิก ราคาถือว่าไม่แรงมากเท่าที่คิดตอนแรก แต่ก็จบที่เราไม่อยากปวดหัวเรื่องผู้รับเหมาหรือการงบบาน (เพราะงบจำกัดจริงๆ) อีกทั้งพ่อแม่เราทั้งคู่ รวมทั้งญาติสนิทต่างเคยโดนกันมาเยอะ (ไม่ได้เหมารวมหรือพาดพิงนะคะ แต่จากประสบการณ์ตรงจริงๆ) สุดท้ายเลยตกลงที่หาบริษัทรับสร้างบ้านเพื่อซื้อความสบายใจล้วนๆ
 
เราเข้าไปคุยกับบริษัทสร้างบ้านเจ้าใหญ่ ไปเยี่ยมโรงงาน ไปคุยแบบ ประเมินราคา ทำให้ค้นพบว่าราคาต่อตารางเมตรแพงกว่าถ้าเทียบกับจ้าง ผรม. เองหรือซื้อบ้านจัดสรร แต่เรามั่นใจได้ว่าเค้าไม่หนีงานแน่นอน ใช้วัสดุดี มีการรับประกันโครงสร้าง เราจึงต้องยอมลดตารางเมตรให้น้อยลงเพื่อให้ไม่เกินงบ แล้วด้วยที่ดินเรามีขนาดประมาณ 71 ตรว. หน้ากว้างค่อนข้างแคบประมาณ 10 เมตร จึงทำให้ไม่สามารถใช้แบบสำเร็จของบริษัทได้ เราจึงต้องออกแบบบ้านใหม่ทั้งหมด ซึ่งบริษัทก็ได้บวกค่าเขียนแบบใหม่ไปแล้วในราคาที่รับได้

ท้ายที่สุดเลยเหลือแคนดิเดด 2 เจ้าซึ่งราคาสูสีกันทั้งคู่ แต่เมื่อมาประเมินตรงหน้างาน ของเจ้านึงก่อสร้างเป็น pre-cast แบบสำเร็จมาจากโรงงาน  จึงทำให้ไม่มีที่กองของก่อสร้างเพียงพอ เราเลยก็ได้ตัดสินใจสร้างบ้านกับอีกเจ้า *

เมื่อสรุปแบบได้ตามหลักกับสถาปนิกทั้งหมดแบบไม่พึ่งซินแส ได้พื้นที่มาประมาณ 210 ตรม.ไม่รวมลานจอด (รายละเอียดผังยิบย่อยจะมาเล่าให้ฟังในตอนต่อๆไปค่ะ) ต้องขอบคุณสถาปนิกและทีมงานของบริษัทที่บริการดูแลอย่างดีและใจเย็นกับเรามาก ใช้เวลารวมทั้งหมด 6 เดือนจนกระทั่งเซ็นสัญญาและโอนงวดแรก ในที่สุดงานก่อสร้างจะได้เริ่มแล้วอย่างเป็นทางการ ดีใจและตื่นเต้นมาก นี่เราจะได้มีบ้านแล้วรือ?

ตอนที่ 2 จะมาแชร์ขั้นตอนการเริ่มยื่นเรื่องและแบบก่อสร้าง จะเริ่มมีรายละเอียดเยอะมากๆค่ะ ยังไงรบกวนฝากติดตามกันด้วยนะคะ : D 

*ตอนนี้ขออนุญาตยังไม่เปิดเผยชื่อบริษัทเพราะยังอยู่ในขั้นตอนก่อสร้างอยู่ จึงยังอวยหรือฟันไม่ได้ 100% แต่อยากให้รู้จากความเป็นจริงที่เราเจอนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่