สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
ุถ้าเป็นไปได้เราไม่อยากกลับไทยเลยค่ะ 55555555
ตอนนี้มาเรียนโทอยู่ไต้หวัน ใช้ชีวิตสบายมาก ระบบขนส่งสาธารณะโคตรดีและถูกมาก ค่าแรงขั้นต่ำของที่นี่คือ 158 บาท/ชม.
แต่ค่ารถสาธารณะคือเดือนละ 1280 บาทแบบเหมาๆ ใช้ได้ทั้ง รถไฟฟ้า รถบัส รถจักรยาน แล้วรถสาธารณะมาตรงเวลามากไปถึงทุกที่ ไม่จำเป็นต้องมีรถส่วนตัวเลย
น้ำไฟไม่เคยดับ ฟุตบาทดี บ้านเมืองสะอาด มีพื้นที่สาธารณะให้ใช้ทุกหมู่บ้าน
ระบบรักษาพยาบาลที่เมืองไทยภูมิใจนักหนาเทียบที่นี่ไม่ติดเลยค่ะ ที่นี่จ่ายค่าประกันเดือนละ 700 ถูกกว่าประกันสังคมบ้านเรา แต้เข้าคลินิกและรพ.ได้ทุกที่ ได้ทุกโรค ไม่ต้องไปรอคิวเป็นวันๆแบบที่ไทย
เราไปผ่าฟันคุด นัดคิวล่วงหน้าแค่ 3 วัน เข้าไปผ่าได้เลย แต่ที่ไทยเราต้องรอคิวกับ รพ.เกือบครึ่งปี
นักการเมิองที่นี่แค่ไม่ทำงาน ประชาชนลงชื่อให้ลาออก แปปเดียวเด้งเลยค่ะ เสียงของประชาชนคือสำคัญมาก
และตั้งแต่สถานการณ์โควิดไต้หวันไม่เคยล๊อกดาวน์เลยสักครั้งเดียว ทุกคนใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่คุมโควิดได้เป็นประเทศแรกของโลก
แล้วที่สำคัญอัตราการเสียภาษีของไต้หวันเมื่อเทียบกับไทย ไม่ได้ต่างกันมากเลยค่ะ
แต่ภาษีทุกบาททุกสตางค์ของคนที่นืเขาได้นำไปพัฒนาประเทศจริงๆ
ตอนแรกเราไม่คิดว่าเมืองไทยจะคุณภาพชีวิตแย่ขนาดนี้ จนกระทั่งได้มาอยู่ประเทศอื่น
ตอนนี้มาเรียนโทอยู่ไต้หวัน ใช้ชีวิตสบายมาก ระบบขนส่งสาธารณะโคตรดีและถูกมาก ค่าแรงขั้นต่ำของที่นี่คือ 158 บาท/ชม.
แต่ค่ารถสาธารณะคือเดือนละ 1280 บาทแบบเหมาๆ ใช้ได้ทั้ง รถไฟฟ้า รถบัส รถจักรยาน แล้วรถสาธารณะมาตรงเวลามากไปถึงทุกที่ ไม่จำเป็นต้องมีรถส่วนตัวเลย
น้ำไฟไม่เคยดับ ฟุตบาทดี บ้านเมืองสะอาด มีพื้นที่สาธารณะให้ใช้ทุกหมู่บ้าน
ระบบรักษาพยาบาลที่เมืองไทยภูมิใจนักหนาเทียบที่นี่ไม่ติดเลยค่ะ ที่นี่จ่ายค่าประกันเดือนละ 700 ถูกกว่าประกันสังคมบ้านเรา แต้เข้าคลินิกและรพ.ได้ทุกที่ ได้ทุกโรค ไม่ต้องไปรอคิวเป็นวันๆแบบที่ไทย
เราไปผ่าฟันคุด นัดคิวล่วงหน้าแค่ 3 วัน เข้าไปผ่าได้เลย แต่ที่ไทยเราต้องรอคิวกับ รพ.เกือบครึ่งปี
นักการเมิองที่นี่แค่ไม่ทำงาน ประชาชนลงชื่อให้ลาออก แปปเดียวเด้งเลยค่ะ เสียงของประชาชนคือสำคัญมาก
และตั้งแต่สถานการณ์โควิดไต้หวันไม่เคยล๊อกดาวน์เลยสักครั้งเดียว ทุกคนใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่คุมโควิดได้เป็นประเทศแรกของโลก
แล้วที่สำคัญอัตราการเสียภาษีของไต้หวันเมื่อเทียบกับไทย ไม่ได้ต่างกันมากเลยค่ะ
แต่ภาษีทุกบาททุกสตางค์ของคนที่นืเขาได้นำไปพัฒนาประเทศจริงๆ
ตอนแรกเราไม่คิดว่าเมืองไทยจะคุณภาพชีวิตแย่ขนาดนี้ จนกระทั่งได้มาอยู่ประเทศอื่น
ความคิดเห็นที่ 16
อยู่อเมริกาทำงานรัฐบาลกลาง เงินเดือนไม่ลำบาก มีบ้าน มีรถ มีงานที่ดีทำ
แต่ยังมีความรู้สึกที่มันไม่ใช่ที่ของเรา มันบอกไม่ถูก อาจจะเป็นเพราะว่ามาอยู่ที่นี่
ก็สามสิบกว่าๆ แล้ว และยังมีพ่อแม่อยู่ที่ไทย ครอบครัวพี่น้องก็ไม่มีปัญหา ทุกคน
มีงานการที่ดี เลยอยากกลับไปอยู่บ้านที่มีพ่อแม่พี่น้องดูแลกัน ที่ๆ เหยียบเต็มสองเท้า
แล้วรู้สึกว่านี่คือแผ่นดินของเรา
แต่ยังมีความรู้สึกที่มันไม่ใช่ที่ของเรา มันบอกไม่ถูก อาจจะเป็นเพราะว่ามาอยู่ที่นี่
ก็สามสิบกว่าๆ แล้ว และยังมีพ่อแม่อยู่ที่ไทย ครอบครัวพี่น้องก็ไม่มีปัญหา ทุกคน
มีงานการที่ดี เลยอยากกลับไปอยู่บ้านที่มีพ่อแม่พี่น้องดูแลกัน ที่ๆ เหยียบเต็มสองเท้า
แล้วรู้สึกว่านี่คือแผ่นดินของเรา
ความคิดเห็นที่ 19
สำหรับหลายๆคนที่เกิดมาในตระกูลร่ำรวยมีลูกจ้างคอยบริการ ทำงานบ้าน ล้างจาน ถูบ้าน
ซักผ้ารีดผ้า ทำกับข้าว อำนวยความสะดวกทุกอย่างแบบนั้น แน่นอนค่ะว่าคงจริงสำหรับเขา ว่าอยู่เมืองไทยสบายกว่าแน่ๆ
แต่สำหรับชนชั้นกลางอย่างเราไม่จริงเลยเราโตมาในบ้านที่ไม่มีคนใช้ เราอยู่ที่อเมริกาสบายกว่ามากๆทั้งกายและใจ
ชนชั้นกลางที่อเมริกาชีวิตดีกว่าชนชั้นกลางที่เมืองไทยอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะคนที่มีลูกในวัยเรียน
เพราะกิจกรรมต่างๆที่เราเข้าถึงไม่จำเป็นต้องรวยมากก็เข้าร่วมได้ ที่เมืองไทย
ถ้าส่งลูกเรียน ดนตรี ศิลปะ ยิมนาสติค เต้นรำโรงเรียนอินเตอร์ etc
คุณต้องมีเงินเดือนหลายแสนถึงจะสามารถให้ลูกเทียบเท่ากับที่ให้ที่อเมริกาได้
และที่อเมริกา เรียนฟรีถึง high school และไม่ต้องไปโรงเรียนต่างเมือง ลูกไม่ต้องเหนื่อยตื่นแต่ตีห้า ฝ่าจราจรไปโรงเรียน
นี่ลูก ตื่นแปดโมง ยังไปทันโรงเรียนเข้า แปดโมงครึ่งเลยค่ะ
ยิ่งเห็นคลิปครูผลักเด็กล้มหัวคะมำฟาดพื้นแล้ว หรือตีนักเรียนเพราะเขาผมยาวแล้ว โอย ตายละ เราใจจะขาด รับไม่ได้
เราไม่รู้ได้เลยว่าลูกเราจะได้รับความคุ้มครองไหม
ที่อเมริกา ถ้าเป็นแบบนั้น คือไม่รอดสักรายค่ะ ต่อให้พ่อแม่ไม่เอาเรื่อง แต่ตำรวจ และภาครัฐ เอาเรื่องค่ะ
ซักผ้ารีดผ้า ทำกับข้าว อำนวยความสะดวกทุกอย่างแบบนั้น แน่นอนค่ะว่าคงจริงสำหรับเขา ว่าอยู่เมืองไทยสบายกว่าแน่ๆ
แต่สำหรับชนชั้นกลางอย่างเราไม่จริงเลยเราโตมาในบ้านที่ไม่มีคนใช้ เราอยู่ที่อเมริกาสบายกว่ามากๆทั้งกายและใจ
ชนชั้นกลางที่อเมริกาชีวิตดีกว่าชนชั้นกลางที่เมืองไทยอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะคนที่มีลูกในวัยเรียน
เพราะกิจกรรมต่างๆที่เราเข้าถึงไม่จำเป็นต้องรวยมากก็เข้าร่วมได้ ที่เมืองไทย
ถ้าส่งลูกเรียน ดนตรี ศิลปะ ยิมนาสติค เต้นรำโรงเรียนอินเตอร์ etc
คุณต้องมีเงินเดือนหลายแสนถึงจะสามารถให้ลูกเทียบเท่ากับที่ให้ที่อเมริกาได้
และที่อเมริกา เรียนฟรีถึง high school และไม่ต้องไปโรงเรียนต่างเมือง ลูกไม่ต้องเหนื่อยตื่นแต่ตีห้า ฝ่าจราจรไปโรงเรียน
นี่ลูก ตื่นแปดโมง ยังไปทันโรงเรียนเข้า แปดโมงครึ่งเลยค่ะ
ยิ่งเห็นคลิปครูผลักเด็กล้มหัวคะมำฟาดพื้นแล้ว หรือตีนักเรียนเพราะเขาผมยาวแล้ว โอย ตายละ เราใจจะขาด รับไม่ได้
เราไม่รู้ได้เลยว่าลูกเราจะได้รับความคุ้มครองไหม
ที่อเมริกา ถ้าเป็นแบบนั้น คือไม่รอดสักรายค่ะ ต่อให้พ่อแม่ไม่เอาเรื่อง แต่ตำรวจ และภาครัฐ เอาเรื่องค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ถามคนไทยที่อยู่เมืองนอก ประโยคที่ว่า "อยู่ที่ใหนก็ไม่สบายเหมือนอยู่เมืองไทย" คิดว่าประโยคที่นี้มันจริงแค่ใหนครับ?