ทำไม เวลาเปลี่ยน ใจคนถึงต้องเปลี่ยน? นั่นซิ...ทำไม เวลาเปลี่ยน ใจคนถึงต้องเปลี่ยน!
คงไม่ต้องถามหรอกว่า..ใครเคยได้ยินประโยคนี้กันบ้างไหม?
เชื่อว่าพวกเราอาจจะเคยได้ยินประโยคที่ว่านี้กันแล้วเป็นส่วนใหญ่แล้ว และมันมักเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนเราซะมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในรูปแบบต่าง ๆ คนรัก , เพื่อนฝูง หรือคนรู้จักที่เราไว้ใจ ฯลฯ และก็คงมีหลายคน หรือมีจำนวนไม่น้อยที่คิด และตีความหมายของประโยคนี้ไปในทางลบเสียมากกว่าบวก
ประเด็นก็คือ ทำไมพวกเขาถึงคิด และตีความหมายกันเช่นนั้นล่ะ?
มันเป็นไปได้หรือไม่ที่ว่า คนที่มักพูด หรือคิดถึงประโยคนี้ในทางลบมากกว่าบวก เพราะพวกเขาน่าจะเป็นคนที่พบเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ไม่คาดฝัน เช่น อาจพบเจอกับการจากลาของคนที่ตนเองรักโดยไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัด หรือการต้องเดินคนละทางกับเพื่อนสนิทแบบที่ไม่คาดคิดมาก่อน ว่าจะมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนต้องมีอันเปลี่ยนไป
แน่นอนว่ามันมักเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยดี ทำให้ความสัมพันธ์ต่าง ๆ เหล่านี้จบลง พวกเขาจึงได้แต่พูดปลอบประโลมใจตัวเองว่า “ใจคนก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา”
หากเราลองทวนหวนคิด ด้วยสายตาที่มองย้อนกลับมาในอีกมุมหนึ่ง มันมีความเป็นไปได้ ที่แม้ว่าใจของคนเราจะเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาที่เดินไปข้างหน้าไม่เคยหยุดเช่นนี้ แต่ใจของเราอาจเปลี่ยนไปในทางที่ดีกว่าเดิม ไม่ว่าเราจะพบเจอเรื่องใด ๆ ที่มีทั้งดีและไม่ดีก็ตาม
คุณว่ามันเป็นไปได้ไหม?
เพราะเวลาที่เปลี่ยนไป มันมักจะมีบางสิ่งบางอย่างที่คอยสอนให้ใจของเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้เสมอ อาจจะเป็นใจที่เปิดกว้าง ยอมรับ และเข้าใจโลกใบนี้มากขึ้น หรืออาจจะเป็นใจที่มองเห็นถึงเหตุผลต่าง ๆ ของผู้อื่นมากขึ้น จากเดิมที่เราอาจไม่เคยคิดที่จะเข้าใจมันเลย ถึงกระนั้น ก็อาจเป็นใจที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมดาของโลกใบนี้
“จงอย่าแสวงหา เพียงความคงอยู่ของชีวิต
แต่จงแสวงหา เพื่อความคงอยู่ของจิตใจ”
ดช.จุ่น
มันคงไม่มีอะไรคงอยู่ได้ถาวร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดี ๆ ที่ทำให้เรามีความรู้สึกสุข หรือสิ่งไม่ดีที่ทำให้เรามีความรู้สึกทุกข์ ความรักที่สมหวังหรือผิดหวัง ความโลภ โกรธ หลงที่ต่างเวียนว่ายเข้ามาชีวิตเราเสมอ ๆ สิ่งเหล่านี้วันหนึ่งมันก็ย่อมผันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา และครรลองของสรรพสิ่งที่มันควรจะเป็น
เราไม่สามารถทำให้สิ่งใดคงอยู่ได้ ยกเว้นการคงอยู่ของใจเราเท่านั้นเอง
ภายหน้าเมื่อเราได้ยินประโยคที่ว่านี้ดังขึ้นอีกครั้ง ขอให้เราจงหยุดขบคิดด้วยใจที่เปลี่ยนไป แล้วเราอาจจะรับรู้ได้ว่า เวลาที่เปลี่ยนไปนั้น ทำให้เราเข้าใจตัวเอง เข้าใจผู้อื่น และเข้าใจโลกนี้ได้มากขึ้นกว่าเดิม
Cr. เปลือกชีวิต The Series (Series ที่จะทำให้คุณเข้าใจชีวิตมากขึ้น) By ดช.จุ่น
ติดตามบทความอื่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เปลือกชีวิต The Series 46 (วางยาเบื่อ..) https://ppantip.com/topic/40505916
เปลือกชีวิต The Series 47 (พลานุภาพแห่งความรัก) https://ppantip.com/topic/40523714
เปลือกชีวิต The Series 48 (ใจ..บันดาลแรง?) https://ppantip.com/topic/40536997
เปลือกชีวิต The Series 49 (เนิบช้า,,,,,(ปัญญา)ชีวิต!!) https://ppantip.com/topic/40543768
เปลือกชีวิต The Series 50 (3 เคล็ดลับวิธีการคลายความทุกข์) https://ppantip.com/topic/40554044
เปลือกชีวิต The Series 51 (เมื่อเวลา..เปลี่ยน!)
คงไม่ต้องถามหรอกว่า..ใครเคยได้ยินประโยคนี้กันบ้างไหม?
เชื่อว่าพวกเราอาจจะเคยได้ยินประโยคที่ว่านี้กันแล้วเป็นส่วนใหญ่แล้ว และมันมักเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนเราซะมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในรูปแบบต่าง ๆ คนรัก , เพื่อนฝูง หรือคนรู้จักที่เราไว้ใจ ฯลฯ และก็คงมีหลายคน หรือมีจำนวนไม่น้อยที่คิด และตีความหมายของประโยคนี้ไปในทางลบเสียมากกว่าบวก
ประเด็นก็คือ ทำไมพวกเขาถึงคิด และตีความหมายกันเช่นนั้นล่ะ?
มันเป็นไปได้หรือไม่ที่ว่า คนที่มักพูด หรือคิดถึงประโยคนี้ในทางลบมากกว่าบวก เพราะพวกเขาน่าจะเป็นคนที่พบเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ไม่คาดฝัน เช่น อาจพบเจอกับการจากลาของคนที่ตนเองรักโดยไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัด หรือการต้องเดินคนละทางกับเพื่อนสนิทแบบที่ไม่คาดคิดมาก่อน ว่าจะมีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนต้องมีอันเปลี่ยนไป
แน่นอนว่ามันมักเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยดี ทำให้ความสัมพันธ์ต่าง ๆ เหล่านี้จบลง พวกเขาจึงได้แต่พูดปลอบประโลมใจตัวเองว่า “ใจคนก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา”
หากเราลองทวนหวนคิด ด้วยสายตาที่มองย้อนกลับมาในอีกมุมหนึ่ง มันมีความเป็นไปได้ ที่แม้ว่าใจของคนเราจะเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาที่เดินไปข้างหน้าไม่เคยหยุดเช่นนี้ แต่ใจของเราอาจเปลี่ยนไปในทางที่ดีกว่าเดิม ไม่ว่าเราจะพบเจอเรื่องใด ๆ ที่มีทั้งดีและไม่ดีก็ตาม
คุณว่ามันเป็นไปได้ไหม?
เพราะเวลาที่เปลี่ยนไป มันมักจะมีบางสิ่งบางอย่างที่คอยสอนให้ใจของเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้เสมอ อาจจะเป็นใจที่เปิดกว้าง ยอมรับ และเข้าใจโลกใบนี้มากขึ้น หรืออาจจะเป็นใจที่มองเห็นถึงเหตุผลต่าง ๆ ของผู้อื่นมากขึ้น จากเดิมที่เราอาจไม่เคยคิดที่จะเข้าใจมันเลย ถึงกระนั้น ก็อาจเป็นใจที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมดาของโลกใบนี้
“จงอย่าแสวงหา เพียงความคงอยู่ของชีวิต
แต่จงแสวงหา เพื่อความคงอยู่ของจิตใจ”
ดช.จุ่น
มันคงไม่มีอะไรคงอยู่ได้ถาวร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดี ๆ ที่ทำให้เรามีความรู้สึกสุข หรือสิ่งไม่ดีที่ทำให้เรามีความรู้สึกทุกข์ ความรักที่สมหวังหรือผิดหวัง ความโลภ โกรธ หลงที่ต่างเวียนว่ายเข้ามาชีวิตเราเสมอ ๆ สิ่งเหล่านี้วันหนึ่งมันก็ย่อมผันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา และครรลองของสรรพสิ่งที่มันควรจะเป็น
เราไม่สามารถทำให้สิ่งใดคงอยู่ได้ ยกเว้นการคงอยู่ของใจเราเท่านั้นเอง
ภายหน้าเมื่อเราได้ยินประโยคที่ว่านี้ดังขึ้นอีกครั้ง ขอให้เราจงหยุดขบคิดด้วยใจที่เปลี่ยนไป แล้วเราอาจจะรับรู้ได้ว่า เวลาที่เปลี่ยนไปนั้น ทำให้เราเข้าใจตัวเอง เข้าใจผู้อื่น และเข้าใจโลกนี้ได้มากขึ้นกว่าเดิม
Cr. เปลือกชีวิต The Series (Series ที่จะทำให้คุณเข้าใจชีวิตมากขึ้น) By ดช.จุ่น
ติดตามบทความอื่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้