大家好!สวัสดีค่ะทุกคน
วันนี้จะมาบอกเล่าประสบการณ์รวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ ในการสอบ HSK 5 แบบ Internet-Based Test ค่ะ หรือแบบ 网考 นั่นเอง
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า จขกท. เพิ่งมีโอกาสสอบไปเมื่อรอบ 19/09/2020 ค่ะ สด ๆ ร้อน ๆ เลยค่ะ ก็เลยตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อเป็นแนวทาง และวิทยาทานให้แก่ผู้สอบทุกท่าน ที่ต้องการหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจในการสอบแบบ Internet-Based Test นะคะ มาเริ่มกันเลยค่ะ
สถานที่สอบที่จขกท.ไปสอบมา เขาจะรับผิดชอบพิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบให้เราเองค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละสนามสอบด้วยนะคะ (บางสนามสอบผู้เข้าสอบต้องพิมพ์บัตรประจำตัวผู้สอบไปเองค่ะ) ซึ่งในขั้นตอนนี้ก็ใช้แค่บัตรประจำตัวประชาชนยื่นให้อาจารย์ผู้คุมสอบดู จากนั้นก็จะได้รับบัตรเข้าห้องสอบมาค่ะ ซึ่งเมื่อได้บัตรมาแล้ว แนะนำให้ตรวจเช็คข้อมูลดูอีกครั้งนะคะ หากมีส่วนไหนผิดพลาดจะได้แจ้งอาจารย์คุมสอบได้ทันค่ะ
เมื่อได้บัตรเข้าห้องสอบมาแล้ว จขกท. ก็เข้าไปในห้องสอบเพื่อนั่งประจำที่ค่ะ ซึ่งทางศูนย์สอบจะเปิดหน้าจอให้พร้อมเสร็จสรรพ ซึ่งโปรแกรมสอบบนหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นจะมีให้เรากดเลือกภาษาค่ะ ถ้าจำไม่ผิดมีภาษาจีน ภาษาอังกฤษ และภาษาเกาหลีค่ะ จขกท.เลือกภาษาจีนไปค่ะ กดเลือกภาษาเสร็จ กดขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการเทสระบบเสียงค่ะ ในขั้นตอนนี้จขกท.ปรับระดับเสียงให้อยู่ที่ระดับ 100 เลยค่ะ และอยากแนะนำผู้สอบว่าให้ตรวจเช็คการออกเสียงของหูฟังทั้งสองข้างนะคะว่ามีเสียงทั้งสองข้างรึเปล่า เช็คเสียงเรียบร้อยก็กดขั้นตอนถัดไปได้เลยค่ะ ในขั้นตอนนี้ก็จะมีช่องให้ผู้สอบกรอกจำนวนสองช่องค่ะ ช่องแรกเป็น 准考证号 ซึ่งมี 18 หลักนั่นเอง "H5################" สาเหตที่เลขประจำตัวจขกท.ขึ้นต้นด้วย H5 เนื่องจากเป็นการสอบระดับ 5 ค่ะ แต่หากเป็นการสอบระดับ 4 ก็จะขึ้นต้นด้วย H4 นั่นเองค่ะ เมื่อเราพิมพ์เลขประจำตัวผู้เข้าสอบเสร็จแล้ว ช่องด้านล่างที่ให้เราพิมพ์ก็จะเป็นรหัสค่ะ ซึ่งรหัสนี้ ทางอาจารย์ผู้คุมสอบได้เขียนระบุมาให้บนบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบค่ะ ของจขกท.เป็นรหัสตัวเลขจำนวน 4 หลักค่ะ
เมื่อพิมพ์ข้อมูลเสร็จสิ้น กดเลือกขั้นตอนต่อไป ในหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็จะแสดงข้อมูลผู้สอบขึ้นมาให้ค่ะ ที่จขกท.จำได้นั้น จะประกอบไปด้วย รูปภาพตัวเราเอง ชื่อสกุลอังกฤษ เพศ หมายเลขประจำตัวประชาชน และระดับที่สอบค่ะ เมื่อดูเสร็จสิ้นแล้วก็คลิ้กขั้นตอนต่อไปได้เลยค่ะ ขั้นตอนต่อไปนี้ก็จะแสดงกฎ รวมถึงรายละเอียดในการสอบให้เราอ่านค่ะ เมื่ออ่านเรียบร้อยแล้วก็กดขั้นตอนต่อไปต่อได้เลยค่ะ ซึ่งหน้าจอก็จะปรากฏรูปนาฬิกาทรายขึ้นมา
ในขั้นตอนนี้ให้ผู้เข้าสอบนั่งรอเวลาค่ะ (ในระบบจะนับเวลาถอยหลังอยู่ตลอดค่ะ จขกท.เริ่มสอบตอน 13.30 แต่เข้าไปในห้องประมาณ 13.00 เมื่อเราเริ่มกรอกข้อมูล ในระบบก็จะนับเวลาถอยหลังให้เรา เพื่อแจ้งว่ายังมีเวลาเหลืออีกกี่นาทีถึงจะเริ่มการสอบค่ะ) เมื่อ 13.29 ระบบก็จะเด้งไปหน้าพาร์ทฟังให้อัตโนมัติเลยค่ะ จากนั้นเมื่อ 13.30 เป๊ะ ๆ ก็จะเริ่มการสอบค่ะ ในนาทีนี้ตั้งสมาธิ และสติให้ดี ๆ นะคะ เพราะมันเร็วมาก จขกท.สติสตังยังไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ปรากฎว่าในเทปคือเขาพูดจบแล้ว แต่นี่ยังจับใจความไม่ได้ค่ะ ข้อแรกก็จะมึน ๆ หน่อย
ซึ่งพาร์ทแรกก็คือ 听力 นั่นเอง จะมีทั้งหมด 45 ข้อค่ะ แต่แบ่งเป็น 2 ส่วน ซึ่งระบบก็จะ
จับเวลาเป็นรายข้อให้เราค่ะ หากเราทำเสร็จก่อนเวลา สามารถคลิ้กเพื่อไปดูช้อยในข้อต่อไปได้เลยค่ะ (ในระหว่างการทำพาร์ทฟังนี้ หากผู้สอบอยากทำการเปลี่ยนคำตอบสามารถทำได้ค่ะ เช่น ตอนนี้โจทย์อยู่ข้อ 31 แล้ว แต่อยากเปลี่ยนคำตอบในข้อ 25 ก็คลิ้กไปที่ข้อ 25 ได้เลยค่ะ แต่เสียงที่ฟังอยู่จะเป็นเสียงของข้อปัจจุบันนะคะ ซึ่งข้อไหนได้กดเลือกคำตอบแล้ว ก็จะปรากฏรูปดินสอขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์เพื่อแจ้งว่าผู้สอบได้ทำการตอบแล้วค่ะ แต่หากข้ามไปพาร์ท 阅读 แล้ว จะกลับมาเปลี่ยนคำตอบในพาร์ท 听力 ไม่ได้แล้วนะคะ สามารถทำการแก้ไขได้แบบพาร์ทต่อพาร์ทเท่านั้น ซึ่งจขกท.แอบสังเกตเห็นว่า ตอนกลับไปแก้นั้น ช้อยจะมีการสลับที่กันด้วยค่ะ ) เมื่อเสร็จพาร์ท 听力 ระบบจะเปลี่ยนไปพาร์ท 阅读 แบบอัตโนมัติ โดยที่เราไม่ต้องไปกดอะไรทั้งนั้นเลยค่ะ
ในส่วนของพาร์ท 阅读 ความคิดเห็นส่วนตัวของจขกท. มองว่า การสอบแบบ Paper-Based Test จะมีข้อได้เปรียบกว่าแบบ Internet-Based Test ค่ะ ได้เปรียบยังไงกันละ คือแบบเปเปอร์ ผู้สอบสามารถแสกนคำถาม และช้อยคำตอบได้ในหน้าเดียวกันไปเลยค่ะ ได้มองเนื้อหา ข้อคำถาม ตัวเลือกคำตอบแบบที่สายตานกเหยี่ยวดูได้ แต่แบบ Internet-Based Test ด้วยความที่ตัวอักษรมันค่อนข้างใหญ่ เราไม่สามารถมองภาพรวมของข้อคำถาม และข้อช้อยได้ค่ะ มองได้แบบข้อต่อข้อ หากใครอ่านจับใจความได้ไม่ดีพอ ก็จะต้องเลื่อนขึ้นเลื่อนลง ทำการเลื่อนไปดูเนื้อหาใหม่ ดูเนื้อหาเสร็จ เอ้ะช้อยนั้นมีอะไรบ้างแล้วนะ ก็ต้องเลื่อนไปดูช้อยอีก มันเสียเวลาไปในระดับนึงเลยค่ะ (แต่สามารถปรับขนาดตัวอักษรได้นะคะ มีสามระดับค่ะ ถ้าจำไม่ผิดมีแบบ 中 大 และ 很大ค่ะ ซึ่งตอนแรกแอบนึกว่าจะมีไซต์ที่เล็กกว่านี้ สรุปแบบ 中 คือเล็กสุดแล้วค่ะ) ในส่วนของพาร์ทอ่านจะมีเวลา 40 นาที นาฬิกาในระบบก็จะนับถอยหลังในเราทราบเป็นปกติเลยค่ะ พอหมดเวลาระบบก็จะเปลี่ยนไปเป็นพาร์ท 书写 โดยอัตโนมัติ พาร์ทอ่านจะ
จับเวลาโดยภาพรวม ไม่ได้จับเวลาเป็นข้อให้เราเหมือนพาร์ท 听力 นะคะ ซึ่งต้องอาศัยการบริหารเวลาในแต่ละข้อด้วยตัวเองค่ะ
มาถึงพาร์ทสุดท้ายกันแล้ว 书写 พาร์ทนี้ก็จะมีให้เรียงประโยค และเขียนบทความสั้นจากศัพท์ที่ให้มา และเขียนบทความสั้นจากภาพ ความคิดเห็นส่วนตัวของจขกท.ในพาร์ทเรียงประโยค คือ การสอบแบบ Internet-Based Tesed ได้เปรียบกว่าแบบ Paper-Based Test เยอะเลยค่ะ ประหยัดเวลาไปได้มากเลยทีเดียว เพราะเราแค่กดลาก ไม่ต้องเติมเครื่องหมายใด ๆ ทั้งสิ้น มีหน้าที่ลากวลีที่เขาให้มา มาเรียงเป็นประโยคให้ตรงกับความคิดที่เราคิดว่ามันจะถูกต้องแค่นั้นเองค่ะ สบายบรื๊ออออเลย ต่อไปก็เป็นส่วนที่ให้แต่งบทความสั้นจากคำศัพท์ 5 คำที่เขากำหนดมา กำหนดตัวอักษร 80 ตัว ในส่วนนี้เราจะลากคำศัพท์มาใส่ในบทความเราไม่ได้แล้วนะคะ หมายความว่าเราต้องรู้พินอินของศัพท์ที่เขาให้เรามา หากเราไม่ทราบพินอินก็เปล่าประโยชน์ค่ะ และข้อสุดท้ายที่ให้แต่งบทความสั้นจากภาพที่กำหนดให้ อันนี้ก็แต่งให้สอดคล้องกับภาพ และสถานการณ์ค่ะ แต่ก็กำหนดตัวอักษรอยู่ที่ 80 ตัวอักษรเช่นกันนะคะ ในส่วนของการจับเวลาของพาร์ทเขียน ระบบก็จะทำการจับเวลาให้แบบเดียวกันกับพาร์ทอ่านค่ะ เป็นการ
จับเวลาแบบโดยรวมนั่นเอง
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อทำข้อสอบพาร์ท 书写 พาร์ทสุดท้ายเสร็จแล้ว คือการกด 提交 หรือการกดส่งนั่นเอง ซึ่งเมื่อเรากดส่งระบบก็จะถามเราว่า ยืนยันหรือไม่ที่จะกดส่ง หากกดส่งแล้วไม่สามารถเปลี่ยนคำตอบใดใดได้แล้วทั้งสิ้น หากเรายืนยัน และมั่นใจก็กด 确认 ไปได้เลยค่ะ เมื่อส่งเสร็จ ระบบก็จะขึ้นหน้าจอมาว่า 考试结束 แสดงถึงการบอกว่า การสอบได้เสร็จสิ้นลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ จากนั้นก็เดินทางกลับบ้าน ไปเที่ยว และรอลุ้นผลสอบในอีก 15 วันค่ะ
ข้อสำคัญเลย ก็คือ ผู้สอบทุกท่านอย่าละเลยที่จะอ่านกฎ และรายละเอียดในการสอบนะคะ มันสำคัญในระดับนึงเลยค่ะ
สุดท้ายนี้หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจจะสอบ HSK แบบ Internet-Based Test นะคะ จขกท.ของเป็นกำลังใจให้แก่ผู้สอบ HSK ทุก ๆ ท่าน รวมถึงผู้ที่ศึกษารวมถึงมีความข้องเกี่ยวกับกับภาษาจีนทุก ๆ ท่านค่ะ ขอบคุณค่ะ
รีวิวการสอบ HSK 5 แบบ Internet-Based Test
วันนี้จะมาบอกเล่าประสบการณ์รวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ ในการสอบ HSK 5 แบบ Internet-Based Test ค่ะ หรือแบบ 网考 นั่นเอง
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า จขกท. เพิ่งมีโอกาสสอบไปเมื่อรอบ 19/09/2020 ค่ะ สด ๆ ร้อน ๆ เลยค่ะ ก็เลยตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อเป็นแนวทาง และวิทยาทานให้แก่ผู้สอบทุกท่าน ที่ต้องการหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจในการสอบแบบ Internet-Based Test นะคะ มาเริ่มกันเลยค่ะ
สถานที่สอบที่จขกท.ไปสอบมา เขาจะรับผิดชอบพิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบให้เราเองค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละสนามสอบด้วยนะคะ (บางสนามสอบผู้เข้าสอบต้องพิมพ์บัตรประจำตัวผู้สอบไปเองค่ะ) ซึ่งในขั้นตอนนี้ก็ใช้แค่บัตรประจำตัวประชาชนยื่นให้อาจารย์ผู้คุมสอบดู จากนั้นก็จะได้รับบัตรเข้าห้องสอบมาค่ะ ซึ่งเมื่อได้บัตรมาแล้ว แนะนำให้ตรวจเช็คข้อมูลดูอีกครั้งนะคะ หากมีส่วนไหนผิดพลาดจะได้แจ้งอาจารย์คุมสอบได้ทันค่ะ
เมื่อได้บัตรเข้าห้องสอบมาแล้ว จขกท. ก็เข้าไปในห้องสอบเพื่อนั่งประจำที่ค่ะ ซึ่งทางศูนย์สอบจะเปิดหน้าจอให้พร้อมเสร็จสรรพ ซึ่งโปรแกรมสอบบนหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้นจะมีให้เรากดเลือกภาษาค่ะ ถ้าจำไม่ผิดมีภาษาจีน ภาษาอังกฤษ และภาษาเกาหลีค่ะ จขกท.เลือกภาษาจีนไปค่ะ กดเลือกภาษาเสร็จ กดขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการเทสระบบเสียงค่ะ ในขั้นตอนนี้จขกท.ปรับระดับเสียงให้อยู่ที่ระดับ 100 เลยค่ะ และอยากแนะนำผู้สอบว่าให้ตรวจเช็คการออกเสียงของหูฟังทั้งสองข้างนะคะว่ามีเสียงทั้งสองข้างรึเปล่า เช็คเสียงเรียบร้อยก็กดขั้นตอนถัดไปได้เลยค่ะ ในขั้นตอนนี้ก็จะมีช่องให้ผู้สอบกรอกจำนวนสองช่องค่ะ ช่องแรกเป็น 准考证号 ซึ่งมี 18 หลักนั่นเอง "H5################" สาเหตที่เลขประจำตัวจขกท.ขึ้นต้นด้วย H5 เนื่องจากเป็นการสอบระดับ 5 ค่ะ แต่หากเป็นการสอบระดับ 4 ก็จะขึ้นต้นด้วย H4 นั่นเองค่ะ เมื่อเราพิมพ์เลขประจำตัวผู้เข้าสอบเสร็จแล้ว ช่องด้านล่างที่ให้เราพิมพ์ก็จะเป็นรหัสค่ะ ซึ่งรหัสนี้ ทางอาจารย์ผู้คุมสอบได้เขียนระบุมาให้บนบัตรประจำตัวผู้เข้าสอบค่ะ ของจขกท.เป็นรหัสตัวเลขจำนวน 4 หลักค่ะ
เมื่อพิมพ์ข้อมูลเสร็จสิ้น กดเลือกขั้นตอนต่อไป ในหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็จะแสดงข้อมูลผู้สอบขึ้นมาให้ค่ะ ที่จขกท.จำได้นั้น จะประกอบไปด้วย รูปภาพตัวเราเอง ชื่อสกุลอังกฤษ เพศ หมายเลขประจำตัวประชาชน และระดับที่สอบค่ะ เมื่อดูเสร็จสิ้นแล้วก็คลิ้กขั้นตอนต่อไปได้เลยค่ะ ขั้นตอนต่อไปนี้ก็จะแสดงกฎ รวมถึงรายละเอียดในการสอบให้เราอ่านค่ะ เมื่ออ่านเรียบร้อยแล้วก็กดขั้นตอนต่อไปต่อได้เลยค่ะ ซึ่งหน้าจอก็จะปรากฏรูปนาฬิกาทรายขึ้นมา
ในขั้นตอนนี้ให้ผู้เข้าสอบนั่งรอเวลาค่ะ (ในระบบจะนับเวลาถอยหลังอยู่ตลอดค่ะ จขกท.เริ่มสอบตอน 13.30 แต่เข้าไปในห้องประมาณ 13.00 เมื่อเราเริ่มกรอกข้อมูล ในระบบก็จะนับเวลาถอยหลังให้เรา เพื่อแจ้งว่ายังมีเวลาเหลืออีกกี่นาทีถึงจะเริ่มการสอบค่ะ) เมื่อ 13.29 ระบบก็จะเด้งไปหน้าพาร์ทฟังให้อัตโนมัติเลยค่ะ จากนั้นเมื่อ 13.30 เป๊ะ ๆ ก็จะเริ่มการสอบค่ะ ในนาทีนี้ตั้งสมาธิ และสติให้ดี ๆ นะคะ เพราะมันเร็วมาก จขกท.สติสตังยังไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ปรากฎว่าในเทปคือเขาพูดจบแล้ว แต่นี่ยังจับใจความไม่ได้ค่ะ ข้อแรกก็จะมึน ๆ หน่อย
ซึ่งพาร์ทแรกก็คือ 听力 นั่นเอง จะมีทั้งหมด 45 ข้อค่ะ แต่แบ่งเป็น 2 ส่วน ซึ่งระบบก็จะจับเวลาเป็นรายข้อให้เราค่ะ หากเราทำเสร็จก่อนเวลา สามารถคลิ้กเพื่อไปดูช้อยในข้อต่อไปได้เลยค่ะ (ในระหว่างการทำพาร์ทฟังนี้ หากผู้สอบอยากทำการเปลี่ยนคำตอบสามารถทำได้ค่ะ เช่น ตอนนี้โจทย์อยู่ข้อ 31 แล้ว แต่อยากเปลี่ยนคำตอบในข้อ 25 ก็คลิ้กไปที่ข้อ 25 ได้เลยค่ะ แต่เสียงที่ฟังอยู่จะเป็นเสียงของข้อปัจจุบันนะคะ ซึ่งข้อไหนได้กดเลือกคำตอบแล้ว ก็จะปรากฏรูปดินสอขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์เพื่อแจ้งว่าผู้สอบได้ทำการตอบแล้วค่ะ แต่หากข้ามไปพาร์ท 阅读 แล้ว จะกลับมาเปลี่ยนคำตอบในพาร์ท 听力 ไม่ได้แล้วนะคะ สามารถทำการแก้ไขได้แบบพาร์ทต่อพาร์ทเท่านั้น ซึ่งจขกท.แอบสังเกตเห็นว่า ตอนกลับไปแก้นั้น ช้อยจะมีการสลับที่กันด้วยค่ะ ) เมื่อเสร็จพาร์ท 听力 ระบบจะเปลี่ยนไปพาร์ท 阅读 แบบอัตโนมัติ โดยที่เราไม่ต้องไปกดอะไรทั้งนั้นเลยค่ะ
ในส่วนของพาร์ท 阅读 ความคิดเห็นส่วนตัวของจขกท. มองว่า การสอบแบบ Paper-Based Test จะมีข้อได้เปรียบกว่าแบบ Internet-Based Test ค่ะ ได้เปรียบยังไงกันละ คือแบบเปเปอร์ ผู้สอบสามารถแสกนคำถาม และช้อยคำตอบได้ในหน้าเดียวกันไปเลยค่ะ ได้มองเนื้อหา ข้อคำถาม ตัวเลือกคำตอบแบบที่สายตานกเหยี่ยวดูได้ แต่แบบ Internet-Based Test ด้วยความที่ตัวอักษรมันค่อนข้างใหญ่ เราไม่สามารถมองภาพรวมของข้อคำถาม และข้อช้อยได้ค่ะ มองได้แบบข้อต่อข้อ หากใครอ่านจับใจความได้ไม่ดีพอ ก็จะต้องเลื่อนขึ้นเลื่อนลง ทำการเลื่อนไปดูเนื้อหาใหม่ ดูเนื้อหาเสร็จ เอ้ะช้อยนั้นมีอะไรบ้างแล้วนะ ก็ต้องเลื่อนไปดูช้อยอีก มันเสียเวลาไปในระดับนึงเลยค่ะ (แต่สามารถปรับขนาดตัวอักษรได้นะคะ มีสามระดับค่ะ ถ้าจำไม่ผิดมีแบบ 中 大 และ 很大ค่ะ ซึ่งตอนแรกแอบนึกว่าจะมีไซต์ที่เล็กกว่านี้ สรุปแบบ 中 คือเล็กสุดแล้วค่ะ) ในส่วนของพาร์ทอ่านจะมีเวลา 40 นาที นาฬิกาในระบบก็จะนับถอยหลังในเราทราบเป็นปกติเลยค่ะ พอหมดเวลาระบบก็จะเปลี่ยนไปเป็นพาร์ท 书写 โดยอัตโนมัติ พาร์ทอ่านจะจับเวลาโดยภาพรวม ไม่ได้จับเวลาเป็นข้อให้เราเหมือนพาร์ท 听力 นะคะ ซึ่งต้องอาศัยการบริหารเวลาในแต่ละข้อด้วยตัวเองค่ะ
มาถึงพาร์ทสุดท้ายกันแล้ว 书写 พาร์ทนี้ก็จะมีให้เรียงประโยค และเขียนบทความสั้นจากศัพท์ที่ให้มา และเขียนบทความสั้นจากภาพ ความคิดเห็นส่วนตัวของจขกท.ในพาร์ทเรียงประโยค คือ การสอบแบบ Internet-Based Tesed ได้เปรียบกว่าแบบ Paper-Based Test เยอะเลยค่ะ ประหยัดเวลาไปได้มากเลยทีเดียว เพราะเราแค่กดลาก ไม่ต้องเติมเครื่องหมายใด ๆ ทั้งสิ้น มีหน้าที่ลากวลีที่เขาให้มา มาเรียงเป็นประโยคให้ตรงกับความคิดที่เราคิดว่ามันจะถูกต้องแค่นั้นเองค่ะ สบายบรื๊ออออเลย ต่อไปก็เป็นส่วนที่ให้แต่งบทความสั้นจากคำศัพท์ 5 คำที่เขากำหนดมา กำหนดตัวอักษร 80 ตัว ในส่วนนี้เราจะลากคำศัพท์มาใส่ในบทความเราไม่ได้แล้วนะคะ หมายความว่าเราต้องรู้พินอินของศัพท์ที่เขาให้เรามา หากเราไม่ทราบพินอินก็เปล่าประโยชน์ค่ะ และข้อสุดท้ายที่ให้แต่งบทความสั้นจากภาพที่กำหนดให้ อันนี้ก็แต่งให้สอดคล้องกับภาพ และสถานการณ์ค่ะ แต่ก็กำหนดตัวอักษรอยู่ที่ 80 ตัวอักษรเช่นกันนะคะ ในส่วนของการจับเวลาของพาร์ทเขียน ระบบก็จะทำการจับเวลาให้แบบเดียวกันกับพาร์ทอ่านค่ะ เป็นการจับเวลาแบบโดยรวมนั่นเอง
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อทำข้อสอบพาร์ท 书写 พาร์ทสุดท้ายเสร็จแล้ว คือการกด 提交 หรือการกดส่งนั่นเอง ซึ่งเมื่อเรากดส่งระบบก็จะถามเราว่า ยืนยันหรือไม่ที่จะกดส่ง หากกดส่งแล้วไม่สามารถเปลี่ยนคำตอบใดใดได้แล้วทั้งสิ้น หากเรายืนยัน และมั่นใจก็กด 确认 ไปได้เลยค่ะ เมื่อส่งเสร็จ ระบบก็จะขึ้นหน้าจอมาว่า 考试结束 แสดงถึงการบอกว่า การสอบได้เสร็จสิ้นลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ จากนั้นก็เดินทางกลับบ้าน ไปเที่ยว และรอลุ้นผลสอบในอีก 15 วันค่ะ
ข้อสำคัญเลย ก็คือ ผู้สอบทุกท่านอย่าละเลยที่จะอ่านกฎ และรายละเอียดในการสอบนะคะ มันสำคัญในระดับนึงเลยค่ะ
สุดท้ายนี้หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจจะสอบ HSK แบบ Internet-Based Test นะคะ จขกท.ของเป็นกำลังใจให้แก่ผู้สอบ HSK ทุก ๆ ท่าน รวมถึงผู้ที่ศึกษารวมถึงมีความข้องเกี่ยวกับกับภาษาจีนทุก ๆ ท่านค่ะ ขอบคุณค่ะ