เราเคยสอบ HSK แบบกระดาษมาเมื่อนานหลายปีแล้ว เลยอยากสอบใหม่ ก็เลยลองสมัครสอบแบบอินเตอร์เน็ตดู โดยสมัครสอบ HSK Level 5 ซึ่งการสอบทั้งสองแบบมีทั้งข้อดีข้อเสีย ใครกำลังจะสมัครสอบลองพิจราณาดูว่าแบบไหนเหมาะกับตัวเองนะ
เนื้อหาการสอบ
HSK(ระดับ5)มีทั้งหมด 100ข้อแบ่งออกเป็น ข้อสอบการฟัง ข้อสอบการอ่าน และข้อสอบการเขียน
การสอบแบบกระดาษ (เราสอบที่จีน ที่ไทยน่าจะไม่ต่างกัน)
1. ข้อสอบการฟัง - การสอบฟังจะเป็นแบบผู้คุมสอบเปิดลำโพงให้เราฟังบทสนทนา แล้วฝนดินสอในกระดาษคำตอบ ข้อดีคือสามารถขีดเขียน หรือจดในกระดาษข้อสอบได้ ข้อเสียคือ สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีสมาธิจะฟังอยากหน่อยเพราะในห้องสอบก็จะมีเสียงรบกวนหรือผู้คุมเดินไปมา
2. ข้อสอบการอ่าน - สำหรับเราถนัดสอบแบบกระดาษ เพราะสอบแบบคอมเวลาอ่านแล้วจะตาลายมากๆ
3. ข้อสอบการเขียน - ข้อเขียนแบ่งเป็นสามส่วน ส่วนแรกเรียงประโยค คนที่ไม่ชำนาญในการเขียนจะใช้เวลานานหน่อย ส่วนที่สองนำคำศัพท์ 5 คำที่กำหนดให้มาแต่งเรื่องราว ข้อดีคือใครที่ไม่รู้คำศัพท์ทั้งหมดสามารถเอาคำศัพท์ที่ไม่รู้มาแต่งประโยคแบบเดาๆเอาได้ ส่วนที่สามจะมีรูปมาให้แล้วแต่งเรื่องราว ข้อเสียของข้อสอบการเขียนแบบกระดาษก็คือจะเสียเวลาหน่อยในการเขียนอักษรจีนสำหรับคนที่จำตัวจีนไม่ได้
ข้อดีโดยรวม - นอกเหนือจากข้อสอบการฟังแล้ว เราสามารถจัดการเวลาในการสอบการอ่านและการเขียนได้อย่างอิสระ ส่วนใหญ่แล้วข้อสอบการเขียนจะใช้เวลาทำน้อย แต่ข้อสอบการอ่านจะต้องใช้เวลาอ่านและวิเคราะห์คำตอบเยอะกว่ามาก เราสามารถไปทำข้อสอบเขียนให้เสร็จก่อนแล้วมาทำข้อสอบการอ่านได้ เพื่อที่ว่าหากทำไม่ทันเวลาจะได้สามารถมั่วข้อสอบได้เลย (แต่พยายามทำให้ทันดีกว่านะ)
ข้อเสียโดยรวม - อย่างที่กล่าวข้างต้น ข้อสอบฟังอาจจะฟังบทสนทนายากหน่อย เพราะฉะนั้นต้องมีสมาธิมากๆ และข้อสอบการเขียนก็จะต้องใช้เวลาเขียนสำหรับคนที่ไม่ชำนาญในการเขียนอักษรจีน
การสอบแบบคอมฯ
1. ข้อสอบการฟัง - แต่ละคนจะได้รับหูฟังของตัวเอง สามารถปรับความดังเบาได้เอง เพราะฉะนั้นจะทำให้มีสมาธิมากๆในการสอบฟัง
2. ข้อสอบการอ่าน - สำหรับเราแล้วไม่ชอบเพราะเวลาอ่านตัวหนังสือในคอมฯแล้วตาลายอ่านยาก
3. ข้อสอบการเขียน - ข้อดีคือไม่ต้องเสียเวลาในการเขียนอักษรจีน แต่ต้องรู้พินอินถึงจะสามารถพิมพ์ตอบได้ ในส่วนแรกการเรียงประโยค ข้อดีคือเราสามารถจับเอาประโยคที่มีมาเรียงกันได้เลย ส่วนที่สองนำคำศัพท์ 5 คำที่กำหนดให้มาแต่งเรื่องราว หากมีคำไหนที่เราไม่รู้จัก ไม่รู้พินอินด้วย จะไม่สามารถเอาคำนั้นมาแต่งได้เลย เพราะไม่สามารถกดCopyคำที่ให้มาได้เลยนะ
ข้อดีโดยรวม - ข้อสอบการฟัง สามารถฟังบทสนทนาได้อย่างสะดวกเพราะฟังจากหูฟัง และสามารถกดเลือกคำตอบได้ง่าย ไม่ต้องมานั่งฝนกระดาษคำตอบ ส่วนข้อสอบการเขียน ก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็วเพราะไม่ต้องการค่อยเขียนทีละตัว (แต่ต้องรู้พินอินนะ)
ข้อเสียโดยรวม - เราอยากให้อ่านตรงนี้ดีๆ เพราะ การสอบแบบคอมฯจะฟิทเวลาเลย ก็คือ ข้อสอบการฟังให้เวลา 30 นาที และตรวจคำจอบ 5 นาที ข้อสอบการอ่าน 45 นาที ข้อสอบการเขียน 40 นาที โดยเมื่อการฟัง 30 นาทีและตรวจคำตอบ 5 นาทีจบลง ระบบจะตัดไปหน้าการอ่านเลย และเมื่อเวลาทำข้อสอบการอ่าน 45 นาทีผ่านไป ระบบก็จะตัดไปข้อสอบการเขียน โดยเราไม่สามารถกดกลับไปทำข้อสอบการฟังและการอ่านได้เลย นั้นคือเมื่อเวลาผ่านไปก็ผ่านแล้วผ่านเลย หากตอบไม่ทันก็ไม่ได้คะแนน ตอนไปสอบแบบคอมฯ เมื่อเวลาของการสอบการอ่านใกล้หมดนี่ ได้ยินเสียงกดกันรัวๆ เพราะทำไม่ทันเวลา และในส่วนของข้อเขียนตอนแนกเราเสียสมาธิมากเพราะเสียงกดคีย์บอร์ดดังมากๆ
สำหรับคนที่อยากทดลองสอบแบบคอมฯ แนะนำให้ทำในลิงค์นี้นะ
http://test.chinesetest-support.org/th จะมีแบบข้อสอบให้ทำเป็น 100 ชุดเลย ซึ่งระบบการสอบจะเหมือนกับที่สอบจริง แต่บอกไว้ก่อนว่าในแบบทดลองสอบนี้เราสามารถกดกลับไปทำข้อสอบส่วนไหนก่อนก็ได้ แต่สอบจริงทำไม่ได้ หากเวลาสอบจริงสงสัยตรงไหน ถามคนคุมสอบเลยนะคะ
หวังว่าประสบการณ์เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกรูปแบบการสอบ HSK นะคะ
และข้อแนะนำเรื่องการสอบ ให้ทดลองทำข้อสอบเยอะๆ และจับเวลาเหมือนการสอบจริงด้วย จะทำให้เราสามารถจัดการเวลาได้ตอนสอบจริงคะ
ขอให้ทุกคนโชคดีในการสอบนะคะ 加油!
HSK ความแตกต่างระหว่างการสอบแบบกระดาษ และการสอบแบบคอมฯ
เนื้อหาการสอบ
HSK(ระดับ5)มีทั้งหมด 100ข้อแบ่งออกเป็น ข้อสอบการฟัง ข้อสอบการอ่าน และข้อสอบการเขียน
การสอบแบบกระดาษ (เราสอบที่จีน ที่ไทยน่าจะไม่ต่างกัน)
1. ข้อสอบการฟัง - การสอบฟังจะเป็นแบบผู้คุมสอบเปิดลำโพงให้เราฟังบทสนทนา แล้วฝนดินสอในกระดาษคำตอบ ข้อดีคือสามารถขีดเขียน หรือจดในกระดาษข้อสอบได้ ข้อเสียคือ สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีสมาธิจะฟังอยากหน่อยเพราะในห้องสอบก็จะมีเสียงรบกวนหรือผู้คุมเดินไปมา
2. ข้อสอบการอ่าน - สำหรับเราถนัดสอบแบบกระดาษ เพราะสอบแบบคอมเวลาอ่านแล้วจะตาลายมากๆ
3. ข้อสอบการเขียน - ข้อเขียนแบ่งเป็นสามส่วน ส่วนแรกเรียงประโยค คนที่ไม่ชำนาญในการเขียนจะใช้เวลานานหน่อย ส่วนที่สองนำคำศัพท์ 5 คำที่กำหนดให้มาแต่งเรื่องราว ข้อดีคือใครที่ไม่รู้คำศัพท์ทั้งหมดสามารถเอาคำศัพท์ที่ไม่รู้มาแต่งประโยคแบบเดาๆเอาได้ ส่วนที่สามจะมีรูปมาให้แล้วแต่งเรื่องราว ข้อเสียของข้อสอบการเขียนแบบกระดาษก็คือจะเสียเวลาหน่อยในการเขียนอักษรจีนสำหรับคนที่จำตัวจีนไม่ได้
ข้อดีโดยรวม - นอกเหนือจากข้อสอบการฟังแล้ว เราสามารถจัดการเวลาในการสอบการอ่านและการเขียนได้อย่างอิสระ ส่วนใหญ่แล้วข้อสอบการเขียนจะใช้เวลาทำน้อย แต่ข้อสอบการอ่านจะต้องใช้เวลาอ่านและวิเคราะห์คำตอบเยอะกว่ามาก เราสามารถไปทำข้อสอบเขียนให้เสร็จก่อนแล้วมาทำข้อสอบการอ่านได้ เพื่อที่ว่าหากทำไม่ทันเวลาจะได้สามารถมั่วข้อสอบได้เลย (แต่พยายามทำให้ทันดีกว่านะ)
ข้อเสียโดยรวม - อย่างที่กล่าวข้างต้น ข้อสอบฟังอาจจะฟังบทสนทนายากหน่อย เพราะฉะนั้นต้องมีสมาธิมากๆ และข้อสอบการเขียนก็จะต้องใช้เวลาเขียนสำหรับคนที่ไม่ชำนาญในการเขียนอักษรจีน
การสอบแบบคอมฯ
1. ข้อสอบการฟัง - แต่ละคนจะได้รับหูฟังของตัวเอง สามารถปรับความดังเบาได้เอง เพราะฉะนั้นจะทำให้มีสมาธิมากๆในการสอบฟัง
2. ข้อสอบการอ่าน - สำหรับเราแล้วไม่ชอบเพราะเวลาอ่านตัวหนังสือในคอมฯแล้วตาลายอ่านยาก
3. ข้อสอบการเขียน - ข้อดีคือไม่ต้องเสียเวลาในการเขียนอักษรจีน แต่ต้องรู้พินอินถึงจะสามารถพิมพ์ตอบได้ ในส่วนแรกการเรียงประโยค ข้อดีคือเราสามารถจับเอาประโยคที่มีมาเรียงกันได้เลย ส่วนที่สองนำคำศัพท์ 5 คำที่กำหนดให้มาแต่งเรื่องราว หากมีคำไหนที่เราไม่รู้จัก ไม่รู้พินอินด้วย จะไม่สามารถเอาคำนั้นมาแต่งได้เลย เพราะไม่สามารถกดCopyคำที่ให้มาได้เลยนะ
ข้อดีโดยรวม - ข้อสอบการฟัง สามารถฟังบทสนทนาได้อย่างสะดวกเพราะฟังจากหูฟัง และสามารถกดเลือกคำตอบได้ง่าย ไม่ต้องมานั่งฝนกระดาษคำตอบ ส่วนข้อสอบการเขียน ก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็วเพราะไม่ต้องการค่อยเขียนทีละตัว (แต่ต้องรู้พินอินนะ)
ข้อเสียโดยรวม - เราอยากให้อ่านตรงนี้ดีๆ เพราะ การสอบแบบคอมฯจะฟิทเวลาเลย ก็คือ ข้อสอบการฟังให้เวลา 30 นาที และตรวจคำจอบ 5 นาที ข้อสอบการอ่าน 45 นาที ข้อสอบการเขียน 40 นาที โดยเมื่อการฟัง 30 นาทีและตรวจคำตอบ 5 นาทีจบลง ระบบจะตัดไปหน้าการอ่านเลย และเมื่อเวลาทำข้อสอบการอ่าน 45 นาทีผ่านไป ระบบก็จะตัดไปข้อสอบการเขียน โดยเราไม่สามารถกดกลับไปทำข้อสอบการฟังและการอ่านได้เลย นั้นคือเมื่อเวลาผ่านไปก็ผ่านแล้วผ่านเลย หากตอบไม่ทันก็ไม่ได้คะแนน ตอนไปสอบแบบคอมฯ เมื่อเวลาของการสอบการอ่านใกล้หมดนี่ ได้ยินเสียงกดกันรัวๆ เพราะทำไม่ทันเวลา และในส่วนของข้อเขียนตอนแนกเราเสียสมาธิมากเพราะเสียงกดคีย์บอร์ดดังมากๆ
สำหรับคนที่อยากทดลองสอบแบบคอมฯ แนะนำให้ทำในลิงค์นี้นะ http://test.chinesetest-support.org/th จะมีแบบข้อสอบให้ทำเป็น 100 ชุดเลย ซึ่งระบบการสอบจะเหมือนกับที่สอบจริง แต่บอกไว้ก่อนว่าในแบบทดลองสอบนี้เราสามารถกดกลับไปทำข้อสอบส่วนไหนก่อนก็ได้ แต่สอบจริงทำไม่ได้ หากเวลาสอบจริงสงสัยตรงไหน ถามคนคุมสอบเลยนะคะ
หวังว่าประสบการณ์เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการเลือกรูปแบบการสอบ HSK นะคะ
และข้อแนะนำเรื่องการสอบ ให้ทดลองทำข้อสอบเยอะๆ และจับเวลาเหมือนการสอบจริงด้วย จะทำให้เราสามารถจัดการเวลาได้ตอนสอบจริงคะ
ขอให้ทุกคนโชคดีในการสอบนะคะ 加油!