" Visible Human " การฟื้นคืนชีพของอาจารย์ใหญ่เสมือนจริงจากการสไลซ์ร่าง 27,000 ครั้ง



(มีนาคม 2015 ในขั้นแรกของชีวิตหลังความตาย Susan Potter ถูกฉาบทั้งตัวด้วยโพลิไวนิลแอลกอฮอล์ในห้องปฏิบัติการ  ซึ่งเป็นขั้นตอนเตรียมแช่แข็งที่อุณหภูมิ -26 องศาเซลเซียส ก่อนจะถูกสไลซ์เป็น 27,000 แผ่น  แล้วปลุกชีพขึ้นมาใหม่ในรูปอาจารย์ใหญ่ดิจิทัล เธอบริจาคร่างให้กับวิทยาลับแพทยศาสตร์แอนส์ชูตส์ มหาวิทยาโคโลราโด เพื่อช่วยให้ความรู้แก่นักศึกษา  สีฟ้าจากโพลีไวนิลแอลกอฮอล์เพื่อช่วยป้องกันการไหม้ของช่องแช่แข็ง)
(Cr.Lynn Johnson / เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก)
 

Susan Potter รู้รายละเอียดทุกขั้นตอนที่จะเกิดขึ้นกับร่างของเธอหลังไร้ลมหายใจตลอด15 ปีสุดท้ายของชีวิต  Potter พกบัตรประจำตัวที่มีข้อความว่า “ข้าพเจ้ายินยอมมอบร่างกายข้าพเจ้าให้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์เช่นเดียวกับผู้บริจาครายอื่นๆ ใน “โครงการวิซิเบิลฮิวแมน” (Visible Human Project) โดยศพจะต้องได้รับมอบภายในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง”

Potter รู้เรื่องเหล่านี้  เพราะเธอเคยไปเยี่ยมชมห้องซึ่งศพของเธอจะถูกนำไปส่ง ได้เห็นเครื่องจักรที่จะใช้เฉือนเนื้อเยื่อของเธอเป็นแผ่นๆ บางเท่ากระดาษ เพื่อบันทึกภาพไว้ รวมทั้งได้ฟัง Dr. Victor Spitzer ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อการจำลองร่างกายมนุษย์ (Center for Human Simulation) ที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์แอนส์ชูตส์ มหาวิทยาลัยโคโลราโด (the University of Colorado Anschutz Medical Campus) บรรยายถึงกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่สิบกว่าปี ก่อนเธอเสียชีวิต
เมื่อ Potter เสียชีวิตจากภาวะปอดบวมตอน 05:15 น. ของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ปี 2015 ขณะอายุ 87 ปี ร่างของเธอวัดความยาวได้ 1.55 เมตรจากศีรษะถึงส้นเท้า ถูกนำเข้าตู้แช่แข็ง และรักษาไว้ในสภาพแช่แข็งทั้งตัวที่อุณหภูมิลบ 26 องศาเซลเซียส





กุมภาพันธ์ 2015 : Spitzer ตรวจสอบร่างของ Potter ที่เก็บไว้ในห้องแช่แข็งซึ่งอยู่ติดกับห้องปฏิบัติการของเขา เดิมทีเขาปฏิเสธข้อเสนอขอบริจาคร่างของเธอ จนกระทั่งเขาตระหนักถึงคุณค่าต่อนักศึกษาซึ่งได้บันทึกเสียงและวิดีโอของเธอก่อนเสียชีวิตเอาไว้ด้วย ห้องดังกล่าวนี้ใช้เก็บร่างอาจารย์ใหญ่
ร่างอื่นๆ ที่ได้รับบริจาคมาเพื่อใช้ในการฝึกและการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ขั้นสูง


ราวสองปีต่อมา Spitzer กับผู้ช่วยคนหนึ่งใช้เลื่อยชนิดมีหูจับสองข้างตัดศพแช่แข็งของ Potter ออกเป็นสี่ส่วน อันเป็นขั้นตอนเบื้องต้นของกระบวนการต่อเนื่องที่จะกินเวลาหลายปี โดยท้ายที่สุด Spitzer จะชุบชีวิตและจัดเรียงโครงสร้างร่างกายของพอตเตอร์เข้าด้วยกันใหม่ เพื่อให้เป็นเสมือนร่างอวตารหรือ "อาจารย์ใหญ่ในรูปดิจิทัล" ที่สามารถพูดคุยกับนักศึกษาแพทย์ได้ และช่วยให้พวกเข้าใจว่า ลักษณะทางสรีรวิทยาของเธอเป็นอย่างไรเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่

ทุกวันนี้  นักศึกษาใช้เวลาในห้องปฏิบัติการกายวิภาคศาสตร์น้อยลง เพราะมีวิทยาการใหม่ๆ มากขึ้น  เช่น พันธุศาสตร์ระดับโมเลกุลที่ดึงเวลาไปจากพวกเขา,  อาจารย์ใหญ่ร่างหนึ่งเป็นทรัพยากรที่มีค่าใช้จ่ายสูงและไม่สามารถนำมาใช้ซ้ำได้,  โรงเรียนแพทย์ไม่ต้องจ่ายเงินซื้อศพก็จริง แต่ต้องจ่ายให้กับการขนส่ง การดอง และการเก็บรักษา

" วันหนึ่ง ในห้องบรรยายที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์ ฉันดู Spitzer สาธิตโปรแกรมการผ่าชำแหละอาจารย์ใหญ่ที่เขาออกแบบ เพียงกวาดเมาส์ปราดเดียว เขาก็ลบระบบกล้ามเนื้อหายวับไปเผยให้เห็นเฉพาะโครงกระดูก จากนั้นก็ให้ดูภาคตัดขวางของส่วนต้นขาซึ่งดูเหมือนเนื้อสะโพกสดดิบชิ้นหนึ่ง เขาแยกเฉพาะโครงสร้างระบบหมุนเวียนโลหิตออกมา เลื่อนเมาส์ไปวางไว้เหนือหัวใจ หมุนให้มองเห็นได้จากหลายมุมแล้วประกอบร่างอาจารย์ใหญ่ผู้นั้นกลับขึ้นมาใหม่ในสภาพครบถ้วนทั้งร่างเหมือนเดิม "

Susan Christina Witschel คือชื่อของเธอเมื่อลืมตาดูโลกในวันที่ 25 ธันวาคม ปี 1927 ในเมืองLeipzig ประเทศเยอรมนี เธออพยพไปอยู่นิวยอร์กหลังสงครามโลกครั้งที่สองก่อนได้เจอกับ Spitzer  ซึ่งขณะนั้น Potter อายุ 73 ปี ปรากฏตัวเป็นที่พบเห็นบ่อยๆ บริเวณโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโคโลราโดตลอดหลายปี  ในฐานะนักกิจกรรมเรียกร้องสิทธิผู้พิการ  เธอแจ้งความประสงค์อยากเป็นอาจารย์ใหญ่ในโครงการ "visible human"




Potter เกิดที่เมืองไลพ์ซิก (Leipzig) ประเทศเยอรมนี ในภาพซึ่งถ่ายที่บ้านเกิดนี้ เธออายุสามขวบ ไม่นานหลังจากนั้น พ่อแม่ของเธอก็อพยพไปยังสหรัฐอเมริกา ทิ้งเธอไว้กับญาติในเยอรมนีจากความไร้เสถียรภาพทางการเมือง, การขึ้นครองอำนาจของฮิตเลอร์ และสงครามโลกครั้งที่สอง 
ภาพซีทีสแกนที่เห็นนี้เป็นร่างเงาบนพื้นหลังของภาพถ่ายเมื่อเธอเสียชีวิตในวัย 87 ปี เส้นลวดถูกใช้เพื่อยึดตรึงกระดูกสันหลังส่วนคอของเธอให้มั่นคง หลังอุบัติเหตุรถชนเมื่อหลายปีก่อน




(สิงหาคม 2005 สืบเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์  ทำให้ Potter ต้องนั่งอยู่แต่ในรถเข็นซึ่งเธอซิ่งไปทั่วและบางครั้งก็ไม่แคร์ใคร ครั้งหนึ่งเธอเคยตวาดหมอคนหนึ่งว่า “ไอ้นี่ไม่ใช่รถเข็น แต่เป็นรถคาดิลแล็กของฉัน” เธอใช้ชีวิตเพียงลำพังในอพาร์ตเมนต์เรียบง่ายชานเมือง Denver)


Spitzer ต้องการถ่ายวิดีโอเธอไว้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยบันทึกภาพขณะที่เธอพูดคุยถึงเรื่องราวชีวิต สุขภาพ และประวัติทางการแพทย์  SpitzerบอกกับPotter ว่า " คุณสมบัติทางพยาธิวิทยาของคุณไม่น่าสนใจพอสำหรับโครงการ แต่ถ้าผมถ่ายคุณตอนพูดคุยกับนักศึกษาแพทย์เอาไว้ในตอนที่พวกเขาดูแผ่นเนื้อเยื่อจากร่างกายคุณอยู่ คุณก็จะสามารถเล่าเรื่องกระดูกสันหลังของคุณให้พวกเขาฟังไปด้วย ทำไมคุณถึงไม่อยากผ่าตัด ความเจ็บปวดแบบไหนที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัด ชีวิตแบบไหนที่คุณมีหลังการผ่าตัด มันจะน่าทึ่งมากเลยครับ "

“นักศึกษาจะได้เห็นร่างกายของเธอไปพร้อมๆ กับได้ฟังเรื่องราวของเธอครับ” เขาอธิบายและเสริมว่า ภาพวิดีโอกับเสียงของเธอจะช่วยให้เธอดูเหมือนจริงยิ่งขึ้น และเติมองค์ประกอบทางอารมณ์ให้กับนักศึกษาแทนที่จะเป็นแค่อาจารย์ใหญ่นิรนาม (visible Human)  ซึ่งจะสามารถถ่ายทอดเรื่องเล่าทางการแพทย์ที่แผ่ซ่านด้วยความทรงจำถึงความคับข้องใจ ความเจ็บปวด และความผิดหวัง เช่นเดียวกับ visible Human ทั้งสองร่างก่อนหน้านี้  ภาพทั้งหมดของPotter จะอยู่ในอินเตอร์เน็ต สามารถเข้าดูได้จากทุกหนแห่ง และทุกเวลา

ข้อสัญญาที่ Potter ตกลงไว้กับบุรุษที่จะสไลซ์เธอเป็นชิ้นๆ จำนวน 27,000 ชิ้น  ได้เติมความหมายให้กับช่วงบั้นปลายชีวิตเธออย่างไร้ข้อกังขา ตอนแรกเชื่อว่า เธอคงเสียชีวิตภายในหนึ่งปี เพราะมีปัญหาทางสุขภาพหลายอย่างรุมเร้าอยู่แต่เธอยังอยู่รอดมาได้อีกหนึ่งทศวรรษ




พฤษภาคม 2009 การเป็นผู้บริจาคร่างให้โครงการของ Spitzer ช่วยให้ Potter รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง เธอ “อุปการะ” นักศึกษาแพทย์จำนวนหนึ่งที่มหาวิทยาลัยโคโลราโด พบปะกับพวกเขาเนืองๆ และไปร่วมงานรับปริญญาของพวกเขาด้วย นักศึกษาหลายคนเกิดความผูกพันแน่นแฟ้นกับเธอ ขณะที่คนอื่นๆ รู้สึกว่าเธอเรียกร้องสูงเกินไป




(มีนาคม 2017 Spitzer ออกแรงใช้เลื่อยแบบมีที่จับสองข้าง ตัดศพ Potter ออกเป็นสี่ท่อน ก่อนจะสไลซ์เป็นแผ่นบางเฉียบเท่าเส้นผม เมื่อถามว่าเขาคิดอะไรอยู่ขณะลงมือตัดเฉือนเธอ เขาตอบว่า “ผมคิดว่าผมกำลังทำสิ่งที่เธอขอให้ผมทำครับ”)


การร่วมมือกันระหว่างนักวิทยาศาสตร์และผู้บริจาคคู่นี้ดำเนินถึงบทสุดท้ายในวันศุกร์ที่ 7 เมษายน ปี 2017  สองปีหลังเธอเสียชีวิต Spitzerกับนักศึกษาจำนวนหนึ่งจึงมายืนรวมกันอยู่ในห้องเอ็นจี 004 ห้องซึ่งเมื่อ 17 ปีก่อน Potter เคยมาเยี่ยมชมพร้อมความคาดหมายถึงชั่วขณะนี้
เขาวางท่อนลำตัวซึ่งถูกห่อหุ้มอยู่ในก้อนโพลีไวนิลแอลกอฮอล์สีฟ้าไว้บนโต๊ะสแตนเลสในห้องแช่เย็น ใบมีดเหล็กคาร์ไบด์ขนาดเท่าจานข้าว เริ่มตัดลงในเนื้อเยื่อทีละชั้น บางเท่าเส้นผม 63 ไมครอนไปเรื่อยๆ ทุกครั้งหลังใบมีดเฉือนลงไป กล้องดิจิทัลตัวหนึ่งจะบันทึกภาพพื้นผิวของร่างท่อนดังกล่าว  
สุดท้ายร่างของซูซาน พอตเตอร์ ก็เหลือเพียงผุยผง (ใช้เวลา 60 วันทำการจึงจะเสร็จสมบูรณ์)

ตอนนี้เมื่อ Spitzer มองดู Potter ในภาคแผ่นเนื้อเยื่อดิจิทัลบนจอภาพ เขากล่าวว่า เขาเห็นความเจ็บปวดของเธอแล้ว จากหลอดเลือดแดงบิดขดทรมาน สกรูว์โลหะที่ยึดกระดูกคอที่หักให้เสถียร ไตที่มีรูปร่างผิดปกติอย่างน่าประหลาด และข้อต่ออักเสบจุดต่างๆ ที่เป็นเสมือนแผนที่แสดงการเสื่อมสลายที่ไม่อาจหยุดยั้งได้สู่วัยชรา
ส่วนการชุบชีวิต Potter ขึ้นมาใหม่ หรือทำให้เธอมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมได้ ข้อนี้เขาบอกว่า เป็นความพยายามที่ต้องใช้เวลาอีกนานปี “ผมคาดหวังว่า เธอจะพูดคุยกับคุณได้เหมือนสิริ [ในไอโฟน] ” เขาบอก

ในปี 2019 เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ถูกนำมาทำเป็นสารคดีเรื่อง “อาจารย์ใหญ่ผู้เป็นอมตะ” โดย Kirk matchler บรรณาธิการภาพถ่ายด้านวิทยาศาสตร์อาวุโสของ National Geographic จากการติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นในระยะเวลากว่า 16 ปี  ซึ่งเป็นเรื่องของผู้บริจาคร่างเพศหญิงผู้หนึ่งซึ่งขณะนั้นยังมีชีวิตอยู่ และจะถูกแช่แข็ง ตัดเป็นชิ้นหลังเสียชีวิตเพื่อสร้างเป็นอาจารย์ใหญ่ในรูปดิจิทัลสำหรับใช้ในการศึกษาทางการแพทย์


เรื่อง Katy Numan /ภาพถ่าย Lynn Johnson

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่