สวัสดีค่า วันนี้เราจะมารีวิวตาสองชั้นที่ไปทำมาที่ Inz clinic กับทีมจักษุแพทย์นะคะ เผื่อคนที่สนใจอยากจะทำตาจะได้มาอ่านไว้
อย่างเราเองก่อนที่จะไปทำก็หาอ่านรีวิวมาเยอะมากๆ ตัดสินใจนานมากๆเพราะนี่เป็นการทำศัลยกรรมครั้งแรก 
ไม่เคยทั้งฉีดทั้งผ่าอะไรมาก่อนเลย แต่ก็แฮปปี้มากค่ะที่ผลการทำออกมาดี
 
เริ่มต้นเลยคือพื้นฐานเราเป็นคนตาเล็กที่มีตาสองชั้นอยู่แล้ว แต่เป็นชั้นแบบลอยๆ คือเหมือนหนังตาเยอะไขมันเยอะจนมันพับแค่นั้นค่ะ
วันไหนล้างหน้าแรงหน่อยหรือง่วงหน่อย ชั้นตาก็จะพับเป็นสามชั้นบ้าง หายไปบ้าง
ส่วนชั้นตาชั้นที่สองจริงๆเลยจะอยู่ที่โคนขนตา ทำให้กรีดอายไลเนอร์ไม่ได้เลยค่ะเพราะลืมตามาทีก็จะหายหมด
ก็เลยเป็นสาเหตุให้ตัดสินใจทำตาค่ะ
   
 

 
  
คลีนิคนี้ส่วนตัวเคยได้ยินชื่อมาอยู่แล้วว่าเป็นคลีนิคของคุณหมอหลิน แต่พอมาอ่านรีวิวดูก็เห็นว่าคุณหมอน้ำผึ้งก็ทำชั้นตาได้ออกมาเป็นแบบที่ชอบ
ก็คือตาสองชั้นที่ไม่หนา ดูธรรมชาติ เพราะเราไม่แต่งหน้าเยอะอยู่แล้วเลยอยากมีชั้นตาที่ถึงแม้จะไม่แต่งตาแต่ก็ดูไม่โล้น
ช่วงที่เราไปทำตอนนั้นมีโปรทีมแพทย์อยู่ก็รีบโทรไปนัดปรึกษาคุณหมอทันที และก็จองวันผ่าหลังจากนั้นไม่กี่วัน ได้คิวเร็วเหมือนกันค่ะ
มีเวลาเตรียมใจสองอาทิตย์ก่อนผ่า วันจริงพยายามทำใจไม่ตื่นเต้นแต่ก็กลัวมากอยู่ดี 55555555
แต่ตอนผ่าจริงก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เคสเราใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงกว่าๆค่ะ 
โดยหลังทำจะมีชุดยาให้ไว้ทำแผล พี่ๆที่คลินิคน่ารักมากคอยอธิบายอย่างดี มีแอดไลน์ไว้ด้วยเผื่อปรึกษาระหว่างพักฟื้นค่ะ


วันแรกหลังทำทันทีค่ะ ถ่ายตอนจะกลับบ้าน สังเกตุว่าตาจะยังปิดไม่ค่อยสนิท
แต่ไม่มีอาการบวมอะไรเลย 


หลังทำประมาณวันที่สามที่สี่จะเป็นวันที่บวมที่สุดค่ะ รอยช้ำจะมีที่เปลือกตา ช่วงนี้ให้ประคบเย็นอย่างเดียวเลย


วันที่เจ็ดหลังตัดไหมค่ะ  รอยม่วงๆหายหมดแล้วเหลือแค่ใต้ตาขวานิดเดียว คุณหมอให้ประคบเย็นต่อเรื่อยๆ


อันนี้ปัจจุบันค่ะคือหลังทำมาสองอาทิตย์ค่ะ

สิ่งที่เราเจอและอยากจะแนะนำจากการทำตาสองชั้น

1. เคสเราจะต้องฉีดโบทอกซ์หน้าผากด้วยเพราะเราติดเลิกคิ้วเวลาลืมตา คุณหมอเลยแนะนำให้ฉีดเพื่อล็อคชั้นตาเอาไว้
ซึ่งช่วงทำตาวันแรกเรามีอาการปวดหัวมากๆ ไม่แน่ใจว่าเพราะโบทอกซ์หน้าผากที่ทำด้วยมั้ยแต่ปวดมากจริงๆ
จนต้องรีบกินข้าวเย็นกินยาแล้วแปะคูลแพ็คนอนเลย แต่พอตื่นมาก็หายแล้วค่ะมาปวดตาแทน 55555

2. อาการหลับตาไม่สนิท อันนี้เป็นสิ่งที่เรากังวลตั้งแต่ก่อนทำตาเลย จะเห็นว่าหลังผ่าเราก็หลับตาไม่สนิทอยู่นิดนึง
เพราะเปลือกตามันบวม แต่หลังจากนั้น 2-3วันก็ปิดสนิทเหมือนเดิมค่ะ ประคบเย็นเยอะๆเลยนะคะ

3. เรายอมไม่ทานยาจีนลดบวมก่อนผ่าเพราะคำแนะนำของคลีนิคคือต้องงดพวกวิตามินและอาหารเสริม
เลยมากินหลังผ่าตัดแล้วแทน ยาที่เรากินชื่อหยุนหนานไป๋เหยาชนิดแคปซูล ซื้อตามร้านขายยาจีนทั่วไปได้เลยค่ะ
อาหารช่วงวันแรกๆเราไม่ปรุงเลย แล้วก็อัดน้ำใบบัวบกกับน้ำฟักทองวันละสามสี่ขวด 
คนที่หาใบบัวบกมาคั้นน้ำทานสดยากๆลองไปหาซื้อแบบขวดที่ร้านเลม่อนฟาร์มนะคะ เราตุนไว้เป็นสิบขวดเลยในตู้เย็น
แต่ถ้าหาใบสดมาได้แนะนำให้คั้นเองดีกว่า จะได้คุมการใส่น้ำตาลได้ค่ะ

4. ปกติเราก็เป็นคนที่ตาแห้งอยู่แล้ว หลังทำเราตาแห้งหนักกว่าเดิมมากน่าจะเพราะผ่าตัดกล้ามเนื้อตา
แล้วก็ต้องกลับไปทำงานหน้าคอมตั้งแต่วันที่สี่หลังผ่าเลยทั้งตาแห้ง ปวดกระบอกตา สู้แสงoutdoorไม่ค่อยได้ในวีคแรก แต่อาการจะค่อยๆดีขึ้นค่ะ
แนะนำให้ซื้อน้ำตาเทียมแบบรายวันติดตัวไว้เลย หรือถ้าใครหยุดพักหลังทำตาได้นานแนะนำให้หยุดเลยจนกว่าจะตัดไหมค่ะ

อีกเรื่องที่เซอไพรส์มากๆคือแผลเป็นที่หัวตาที่แอบกังวลไว้ตอนแรกก่อนตัดสินใจเปิดหัวตา
เคสเราโชคดีมากที่แผลเป็นไม่ชัดแล้วก็ไม่นูนออกมามาก ชั้นตาก็เป็นเส้นสวย มีแผลเป็นนูนที่เส้นตานิดหน่อยซึ่งทายาแล้วมันก็จะดีขึ้นเอง
โดยรวมแล้วตอนนี้ชอบชั้นตาตัวเองมาก เอฟเฟคหลังทำแทบไม่มีแล้วยกเว้นเรื่องตาแห้งนิดหน่อย 
ทั้งที่ทำแบบจัดเต็มแท้ๆแต่ดูเนียนมาก คือผ่านไปสองอาทิตย์เองนะ 5555555
ใครที่สนใจอยากจะทำตาก็ลองไปปรึกษาคุณหมอดูนะคะ เราว่าที่นี่โอเคเลยแหละทั้งการบริการก่อนและหลังทำ แนะนำค่ะ