ผมเคยทำงานที่บริษัท บี ขณะปฏิบัติงานดำรงตำแหน่งผู้จัดการส่วนงานบุคคลและความปลอดภัย อายุงาน 13 ปี 5 เดือน เงินเดือน 3X,XXX บาท
เมื่อวันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม 2563 ผมได้รับการเชิญเข้าห้องประชุมของฝ่ายบุคคลคนใหม่ เพื่อรับทราบความผิด ซึ่งฝ่ายบุคคลคนใหม่ ยื่นเอกสารมา 2 ฉบับ (ให้ผมเลือกว่าจะเซ็นต์ใบไหน) คือ ใบลาออก กับใบรายงานความผิดโดยการให้ออก ใบเตือนดังกล่าวแจ้งความผิดมี 3 หัวข้อหลักคือ
1. ได้นำข้อมูลความลับภายในบริษัท ไปใช้ในคอมพิวเตอร์ส่วนตัว
2. มีความสัมพันธ์ภายนอกกับบุคคลอันตรายต่อองค์กร
3. ยักยอกทรัพย์เป็นเงินของบริษัท
(เอกสารใบเตือนทางฝ่ายบุคคลให้เซ็นนั้น ไม่มีหลักฐานซึ่งแสดงถึงความผิดที่เกิดขึ้น ไม่มีการสอบสวนทางวินัย ไม่มีเอกสารหรือหลักฐานแนบ)
ซึ่งฝ่ายบุคคลแจ้งว่าจาก 3 ความผิดที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าเขียนใบลาออกเองจะยังสามารถทำงานที่อื่นได้ แต่ถ้าออกโดยมีความผิด ผมจะกลายเป็นคนมีประวัติไม่ดี จะหางานบริษัทอื่นทำได้ยากซึ่งผมก็ไม่ได้เซ็นเอกสารทั้ง 2 ใบ และฝ่ายบุคคลยังส่ง LINE มาแจ้งให้เก็บของและออกจากบริษัทฯ ภายในวันนี้เลย
จากการกระทำของบริษัทฯ นั้นไม่สอดคล้องต่อกฎหมาย และยังให้ออกจากงานโดยไม่เป็นธรรม ไม่มีหลักฐาน หรือเอกสารที่แสดงถึงการกระทำความผิด
โดยความผิดที่บริษัทฯ ได้กล่าวมานั้น มีรายละเอียดดังนี้
1. ได้นำข้อมูลความลับภายในบริษัท ไปใช้ในคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ผมได้มีการสั่งซื้อคอมพิวเตอร์ไปเมื่อประมาณเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2563 ข้อเท็จจริงมีสาเหตุเนื่องจากคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่ มีอายุประมาณ 10 กว่าปีแล้ว ซึ่งมีปัญหา มีอาการช้า และค้างมาโดยตลอด ทำให้งานที่ทำอยู่เกิดความล่าช้า จึงทำเรื่องขอซื้อไปกับแผนกจัดซื้อ และทางผู้บริหารมีการเซ็นเอกสารเรียบร้อย แต่หลักฐานการเซ็นถูกนำกลับไปที่แผนกจัดซื้อ และไม่สามารถเบิกเงินได้ เนื่องจากทางบริษัทฯให้เหตุผลว่ายังไม่มีเงิน ผมจึงนำบัตรเครดิต รูดซื้อไปก่อน แล้วให้ทางร้านค้าออกบิลในนามบริษัทฯ และดำเนินการเบิกภายหลัง ซึ่งผ่านมา 3 เดือน ก็ยังไม่สามารถเบิกได้ ผมจึงได้เก็บใบเสร็จไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งใบสั่งซื้อที่มีลายเซ็นต์ของผู้บริหาร
2. มีความสัมพันธ์ภายนอกกับบุคคลอันตรายต่อองค์กร ผมสนิทกับพี่ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นอดีตพนักงานบริษัทเดียวกัน แต่ถูกให้ออกไป แล้วไปเปิดบริษัทฯใหม่ซึ่งทำงานในลักษณะเดียวกัน ทางผู้บริหารของบริษัทที่ผมทำงานอยู่ไม่พอใจเป็นอย่างมากอีกทั้งยังกล่าวหาว่าผมนำข้อมูลไปให้บริษัทคู่แข่ง (ซึ่งไม่มีหลักฐาน) ผมคิดว่าการที่สนิทกับบุคคลในบริษัทคู่แข่ง เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในเชิงธุรกิจ
3. ยักยอกทรัพย์เป็นเงินของบริษัท เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้วผมได้รับหน้าที่จากผู้บริหารท่านหนึ่ง ให้นำเงินค่าเช่าบ้าน และธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ไปเข้าธนาคารแต่ผมไม่ได้นำไปเข้า และยังเอาเงินไปใช้ส่วนตัว หลังจากนั้นผู้บริหารท่านหนึ่ง รู้เรื่องจึงเรียกคุยเพื่อตักเตือนและไม่ติดใจเอาความต่อเหตุการณ์ในครั้ง เมื่อวันที่ 29 ก.ค 63 ทางฝ่ายบุคคลได้นำเรื่องนี้มาแจ้งความผิดซึ่งผ่านมา 4 ปีแล้วและเพิ่มข้อกล่าวหา ว่าผมเอาเงินบริษัทฯที่รับผิดชอบไปปล่อยให้พนักงานกู้และเก็บดอกเบี้ยเข้ากระเป๋าตัวเอง ซึ่งไม่เป็นความจริง และไม่มีหลักฐาน
จากความผิด 3 หัวข้อนี้ถูกระบุว่าเป็นคดีอาญาลักทรัพย์นายจ้าง ผมไม่ทราบเรื่องของกฎหมาย จึงรู้สึกกังวลมาก และเจรจาต่อรองขอเป็นจ้างออกแทน ซึ่งทางผู้บริหารได้ประชุมกันและออกเอกสารจ้างออกให้ แต่ให้เงินจ้างออกแค่ 80,000 บาท ซึ่งตามกฎหมายแรงงานผมควรได้ 3X,XXX + 300 วัน + ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า 1 งวดการจ่ายค่าจ้าง+ ลาพักร้อน 7 วัน แต่สิ่งที่ผมได้รับนั้น ไม่เป็นไปตามกฎหมายแรงงานและยังออกเอกสารล่วงหน้า 1 เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าดังนั้นผมขอความเป็นธรรมในเรื่องของการเลิกจ้างในครั้งนี้
1. ถ้าผมต้องการฟ้องร้องจะมีขั้นตอนอย่างไร และใช้ระยะเวลาประมาณกี่วัน
2. ผมสามารถติดตามความคืบหน้าได้อย่างไรบ้าง
3. ผมมีสิทธิ์ที่จะชนะคดีไหมถ้าโดนฟ้องกลับ
ผมโดนให้ออกแบบนี้ฟ้องร้องได้ไหมครับ
เมื่อวันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม 2563 ผมได้รับการเชิญเข้าห้องประชุมของฝ่ายบุคคลคนใหม่ เพื่อรับทราบความผิด ซึ่งฝ่ายบุคคลคนใหม่ ยื่นเอกสารมา 2 ฉบับ (ให้ผมเลือกว่าจะเซ็นต์ใบไหน) คือ ใบลาออก กับใบรายงานความผิดโดยการให้ออก ใบเตือนดังกล่าวแจ้งความผิดมี 3 หัวข้อหลักคือ
1. ได้นำข้อมูลความลับภายในบริษัท ไปใช้ในคอมพิวเตอร์ส่วนตัว
2. มีความสัมพันธ์ภายนอกกับบุคคลอันตรายต่อองค์กร
3. ยักยอกทรัพย์เป็นเงินของบริษัท
(เอกสารใบเตือนทางฝ่ายบุคคลให้เซ็นนั้น ไม่มีหลักฐานซึ่งแสดงถึงความผิดที่เกิดขึ้น ไม่มีการสอบสวนทางวินัย ไม่มีเอกสารหรือหลักฐานแนบ)
ซึ่งฝ่ายบุคคลแจ้งว่าจาก 3 ความผิดที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าเขียนใบลาออกเองจะยังสามารถทำงานที่อื่นได้ แต่ถ้าออกโดยมีความผิด ผมจะกลายเป็นคนมีประวัติไม่ดี จะหางานบริษัทอื่นทำได้ยากซึ่งผมก็ไม่ได้เซ็นเอกสารทั้ง 2 ใบ และฝ่ายบุคคลยังส่ง LINE มาแจ้งให้เก็บของและออกจากบริษัทฯ ภายในวันนี้เลย
จากการกระทำของบริษัทฯ นั้นไม่สอดคล้องต่อกฎหมาย และยังให้ออกจากงานโดยไม่เป็นธรรม ไม่มีหลักฐาน หรือเอกสารที่แสดงถึงการกระทำความผิด
โดยความผิดที่บริษัทฯ ได้กล่าวมานั้น มีรายละเอียดดังนี้
1. ได้นำข้อมูลความลับภายในบริษัท ไปใช้ในคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ผมได้มีการสั่งซื้อคอมพิวเตอร์ไปเมื่อประมาณเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2563 ข้อเท็จจริงมีสาเหตุเนื่องจากคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานอยู่ มีอายุประมาณ 10 กว่าปีแล้ว ซึ่งมีปัญหา มีอาการช้า และค้างมาโดยตลอด ทำให้งานที่ทำอยู่เกิดความล่าช้า จึงทำเรื่องขอซื้อไปกับแผนกจัดซื้อ และทางผู้บริหารมีการเซ็นเอกสารเรียบร้อย แต่หลักฐานการเซ็นถูกนำกลับไปที่แผนกจัดซื้อ และไม่สามารถเบิกเงินได้ เนื่องจากทางบริษัทฯให้เหตุผลว่ายังไม่มีเงิน ผมจึงนำบัตรเครดิต รูดซื้อไปก่อน แล้วให้ทางร้านค้าออกบิลในนามบริษัทฯ และดำเนินการเบิกภายหลัง ซึ่งผ่านมา 3 เดือน ก็ยังไม่สามารถเบิกได้ ผมจึงได้เก็บใบเสร็จไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งใบสั่งซื้อที่มีลายเซ็นต์ของผู้บริหาร
2. มีความสัมพันธ์ภายนอกกับบุคคลอันตรายต่อองค์กร ผมสนิทกับพี่ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นอดีตพนักงานบริษัทเดียวกัน แต่ถูกให้ออกไป แล้วไปเปิดบริษัทฯใหม่ซึ่งทำงานในลักษณะเดียวกัน ทางผู้บริหารของบริษัทที่ผมทำงานอยู่ไม่พอใจเป็นอย่างมากอีกทั้งยังกล่าวหาว่าผมนำข้อมูลไปให้บริษัทคู่แข่ง (ซึ่งไม่มีหลักฐาน) ผมคิดว่าการที่สนิทกับบุคคลในบริษัทคู่แข่ง เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในเชิงธุรกิจ
3. ยักยอกทรัพย์เป็นเงินของบริษัท เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้วผมได้รับหน้าที่จากผู้บริหารท่านหนึ่ง ให้นำเงินค่าเช่าบ้าน และธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ไปเข้าธนาคารแต่ผมไม่ได้นำไปเข้า และยังเอาเงินไปใช้ส่วนตัว หลังจากนั้นผู้บริหารท่านหนึ่ง รู้เรื่องจึงเรียกคุยเพื่อตักเตือนและไม่ติดใจเอาความต่อเหตุการณ์ในครั้ง เมื่อวันที่ 29 ก.ค 63 ทางฝ่ายบุคคลได้นำเรื่องนี้มาแจ้งความผิดซึ่งผ่านมา 4 ปีแล้วและเพิ่มข้อกล่าวหา ว่าผมเอาเงินบริษัทฯที่รับผิดชอบไปปล่อยให้พนักงานกู้และเก็บดอกเบี้ยเข้ากระเป๋าตัวเอง ซึ่งไม่เป็นความจริง และไม่มีหลักฐาน
จากความผิด 3 หัวข้อนี้ถูกระบุว่าเป็นคดีอาญาลักทรัพย์นายจ้าง ผมไม่ทราบเรื่องของกฎหมาย จึงรู้สึกกังวลมาก และเจรจาต่อรองขอเป็นจ้างออกแทน ซึ่งทางผู้บริหารได้ประชุมกันและออกเอกสารจ้างออกให้ แต่ให้เงินจ้างออกแค่ 80,000 บาท ซึ่งตามกฎหมายแรงงานผมควรได้ 3X,XXX + 300 วัน + ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า 1 งวดการจ่ายค่าจ้าง+ ลาพักร้อน 7 วัน แต่สิ่งที่ผมได้รับนั้น ไม่เป็นไปตามกฎหมายแรงงานและยังออกเอกสารล่วงหน้า 1 เดือน เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าดังนั้นผมขอความเป็นธรรมในเรื่องของการเลิกจ้างในครั้งนี้
1. ถ้าผมต้องการฟ้องร้องจะมีขั้นตอนอย่างไร และใช้ระยะเวลาประมาณกี่วัน
2. ผมสามารถติดตามความคืบหน้าได้อย่างไรบ้าง
3. ผมมีสิทธิ์ที่จะชนะคดีไหมถ้าโดนฟ้องกลับ