เล่าให้ฟังคร่าวๆต่อจากคราวที่แล้วครับผมซื้อรถเบนซ์ GLE500eมาในราคา 4,310,000.- บาทแต่ใช้งานไปได้ประมาณ 7-8 เดือน บริเวณเบาะที่นั่ง (เบาะหนัง) คนขับเกิดการลอกยุ่ย (ภาพประกอบ)
https://www.img.in.th/image/hT8G9M ส่งเคลมบริษัทรอบแรกบริษัทประเมินแล้วเคลมให้ใช้เวลาในการเคลมครั้งนี้ประมาณ 25 วัน จบการเคลมครั้งที่ 1 ผมก็ใช้งานรถตามปกติผ่านไปได้อีกประมาณ 10 เดือน เกิดการหลุดลอกยุ่ยอีกครั้ง คราวนี้เป็นทุกเบาะที่นั่งเลยครับ ส่งเคลมบริษัทเหมือนเช่นเคยแต่คราวนี้ถูกปฎิเสธจากบริษัทโดยที่แจ้งมาว่า ++++++ เกิดจากการใช้งานของลูกค้า++++++ Warranty 3 ปีนะครับ แต่ไม่รับผิดชอบต่อลูกค้า บริการหลังการขายคือแย่มากๆ เคลมทีนึงก็ต้องใช้เวลานานเหลือเกิน
เรื่องน่าหัวเราะและการเอาเปรียบจากผมแดงชาวต่างชาติที่บริหารบริษัทใหญ่ Mercedes-Benz ผมได้มีโอกาสได้รับข่าวสารจากพันทิพย์ หนังสือพิมพ์และสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับปัญหาของรถยนต์ยี่ห้อ Mercedes-Benz ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลกแต่เบี้ยวและไม่มีความรับผิดชอบจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกค้า ไม่รู้ว่าใครสอนกับการไม่รับผิดชอบแบบนี้นี่คือบริษัทต่างชาติหรอ รถที่ยังอยู่ในประกันแต่ไม่ได้รับการแก้ไขจากบริษัท ผมเองก็ได้ยินประวัติของบริษัท Mercedes-Benz ว่ามีแต่คำหนาหูที่สุด บ่ายเบี่ยงแบบง่าย ๆ ด้วยคำพูดที่ว่า ** เกิดจากการใช้งานของลูกค้า ** แล้วก็จบเรื่อง บริษัทที่ไร้คุณธรรมและไร้ความรับผิดชอบต่อไปทั่วโลกก็ไม่มีใครยอมรับ รวมทั้งผมอีกคนนึง พูดได้ว่าคำที่พูดว่า !!!!!! เกิดจากการใช้งานของลูกค้า !!!!!!! เป็น สุภาษิต Concept ของ Mercedes-Benz ที่ใช้เป็นข้ออ้างตายตัวเพื่อปัดความรับผิดชอบ ผมรวมทั้งพวกอีกมากมายและลูกค้าที่ได้ซื้อรถยนต์ของ Benz เสียสุขภาพจิต เสียเวลาอันมีค่าอย่างมากที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้การที่คุณพูดเช่นนี้ไม่คำนึงถึงชื่อเสียงในอนาคตของบริษัทคุณเลยและผมเชื่อว่าบริษัทคุณจะเสียหายในต่อไป มาถึงจุดนี้การที่ผมจะเลือกซื้อรถคันใหม่จะไม่มีคำว่ายี่ห้อ Mercedes-Benz อีกเลยรวมทั้งลูก ๆ ญาติพี่น้อง และลูกน้องอีกหลายร้อยคนของผม ผมจะบอกทุกคนว่าอย่าซื้อยี่ห้อนี้เลย และจะถูกต่อว่าจากผู้ที่เป็นเอเยนต์ที่ได้ลงทุนโชว์รูมเป็ฯหมื่นเป็ฯแสนล้านนานๆเข้า อาจจะต้องกลายเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวชามละ 5 บาท เพื่อช่วยคนรายได้น้อยรวมทั้งในยุคที่เศรษฐกิจตกต่ำ
สำหรับเหตุการณ์นี้ผมได้ทำการฟ้องศาลเรียกร้องสิทธิความเสียหายและการถูกปฎิเสธความรับผิดชอบ ขึ้นศาลครั้งแรก 3 ส.ค. 2563 อัยการท่านได้ให้ทั้งสองฝ่ายไปเจรจาตกลงกัน ผมก็ดีใจแต่พอเค้าพูดออกมาแล้วก็ทำให้เสียใจและเจ็บใจ คำแรกของ Benz บอกว่าจะลดให้ 20% ผมคิดเลยว่าลดจากราคาซื้อรถแน่นอนแต่ที่ไหนได้คำตอบที่ได้คือประเมินราคาความเสียหายทั้งหมด 850,000.- แล้วจะลดให้ 20% สำหรับค่าซ่อมครั้งนี้ (เอาจริงๆเปลี่ยนเบาะหนังรถยนต์อย่างดีเลยรวมค่าบริการราคาประมาณ 250,000.- เท่านั้น) เท่ากับเค้าใช้อุบายให้ผมต้องจ่ายเค้าอีก 680,000.- บาท นี่ผมฟ้องเค้าให้ชดใช้ค่าเสียหายนะ น่าเกลียดมากๆ ผมยังไม่รวมค่าเสียหายที่ผมต้องติดตามทวงถามครั้งแล้วครั้งเล่าเกี่ยวกับการเคลมไปมาๆเกือบ 10 เที่ยว ที่ตีมูลค่าไม่ได้ เอาจริงๆตัวผมเองก็เป็นประธานกรรมการบริษัทแห่งหนึ่งมีพนักงานเกินกว่า 200 คน ซึ่งก็ไม่ได้เล็กกว่าบริษัทเบนซ์ในเมืองไทยเพราะพวงกเค้าเองยังต้องเช่าออฟฟิศอยู่ ลองคิดดูว่าเวลาของผมมีค่าเท่าไร ผมเสียเวลาทั้งที่เราเป็นลูกค้าต้องไปนั่งรอฝั่งของเบนซ์มาที่ศาลถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง ความจริงแล้วผู้ขายจะต้องมานั่งรอลูกค้าหรือป่าวเหมือนเป็นธรรมเนียมอันดีของบ้านเรา เพราะเค้าได้ผลประโยชน์จากเราได้เงินจากเราแต่เค้ากลับให้เราไปนั่งรอ เหตุผลที่ได้จากเค้าว่ามาถึงสายเพราะเค้าติดอยู่ห้องบัลลังก์ข้างๆอีกหลายเจ้า !!!!!!! ขุ่นพระน่าจะโดนฟ้องจากลูกค้าหลายราย !!!!!!!! ปัดความรับผิดชอบเพื่อไปแก้ต่างอีกหลายห้อง จบไปกับการขึ้นศาลครั้งที่ 1 มาต่อกันครั้งที่ 2 ขึ้นศาลครั้งที่ 2 วันที่ 7 ก.ย. 2563 ผมให้ทนายไปตามนัดแทนเพราะผมไม่อยากเสียเวลาและเสียน้ำมันที่มีค่าของชาติเหมือนที่เคยผ่านมา ผมเอาเวลาตรงนี้มาทำงาน หารายได้มีโอกาสได้ซื้อรถคันใหม่ดีกว่า (แต่คงไม่ใช่ยี่ห้อดาวสามแฉกที่ทำให้ผมรู้สึกแย่แน่นอนและอาจจะถูกโกงอีกครั้ง)เพื่อนๆว่าถูกต้องมั้ยลองคอมเมนต์มาก็ได้ครับ ต่อๆ ทนายบอกว่าเค้ายังคงใช้คำพูดเดิมที่ว่า ******เกิดจากการใช้งานของลูกค้า******* เหมือนเป็นสโลแกนการปัดความรับผิดชอบของเค้าเลยจริงๆ ถ้าผมไปก็คงเสียเวลาเสียอารมณืเสียสุขภาพจิตอีกเช่นเคย ท่านลองคิดดู มูลค่าที่ผมเสียเวลาเสียรายได้ เค้าต้องจ่ายผมเท่าไรต้องให้ผมแจ้งถึงบริษัทแม่เค้าที่ต่างประเทศด้วยมั้ยขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นด้วนนะครับ ขอบคุณครับ
Benz GLE500e ราคา 4,310,000.- บาท งานใช้ 8 เดือนเบาะหนังลอก
เรื่องน่าหัวเราะและการเอาเปรียบจากผมแดงชาวต่างชาติที่บริหารบริษัทใหญ่ Mercedes-Benz ผมได้มีโอกาสได้รับข่าวสารจากพันทิพย์ หนังสือพิมพ์และสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับปัญหาของรถยนต์ยี่ห้อ Mercedes-Benz ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลกแต่เบี้ยวและไม่มีความรับผิดชอบจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกค้า ไม่รู้ว่าใครสอนกับการไม่รับผิดชอบแบบนี้นี่คือบริษัทต่างชาติหรอ รถที่ยังอยู่ในประกันแต่ไม่ได้รับการแก้ไขจากบริษัท ผมเองก็ได้ยินประวัติของบริษัท Mercedes-Benz ว่ามีแต่คำหนาหูที่สุด บ่ายเบี่ยงแบบง่าย ๆ ด้วยคำพูดที่ว่า ** เกิดจากการใช้งานของลูกค้า ** แล้วก็จบเรื่อง บริษัทที่ไร้คุณธรรมและไร้ความรับผิดชอบต่อไปทั่วโลกก็ไม่มีใครยอมรับ รวมทั้งผมอีกคนนึง พูดได้ว่าคำที่พูดว่า !!!!!! เกิดจากการใช้งานของลูกค้า !!!!!!! เป็น สุภาษิต Concept ของ Mercedes-Benz ที่ใช้เป็นข้ออ้างตายตัวเพื่อปัดความรับผิดชอบ ผมรวมทั้งพวกอีกมากมายและลูกค้าที่ได้ซื้อรถยนต์ของ Benz เสียสุขภาพจิต เสียเวลาอันมีค่าอย่างมากที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้การที่คุณพูดเช่นนี้ไม่คำนึงถึงชื่อเสียงในอนาคตของบริษัทคุณเลยและผมเชื่อว่าบริษัทคุณจะเสียหายในต่อไป มาถึงจุดนี้การที่ผมจะเลือกซื้อรถคันใหม่จะไม่มีคำว่ายี่ห้อ Mercedes-Benz อีกเลยรวมทั้งลูก ๆ ญาติพี่น้อง และลูกน้องอีกหลายร้อยคนของผม ผมจะบอกทุกคนว่าอย่าซื้อยี่ห้อนี้เลย และจะถูกต่อว่าจากผู้ที่เป็นเอเยนต์ที่ได้ลงทุนโชว์รูมเป็ฯหมื่นเป็ฯแสนล้านนานๆเข้า อาจจะต้องกลายเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวชามละ 5 บาท เพื่อช่วยคนรายได้น้อยรวมทั้งในยุคที่เศรษฐกิจตกต่ำ
สำหรับเหตุการณ์นี้ผมได้ทำการฟ้องศาลเรียกร้องสิทธิความเสียหายและการถูกปฎิเสธความรับผิดชอบ ขึ้นศาลครั้งแรก 3 ส.ค. 2563 อัยการท่านได้ให้ทั้งสองฝ่ายไปเจรจาตกลงกัน ผมก็ดีใจแต่พอเค้าพูดออกมาแล้วก็ทำให้เสียใจและเจ็บใจ คำแรกของ Benz บอกว่าจะลดให้ 20% ผมคิดเลยว่าลดจากราคาซื้อรถแน่นอนแต่ที่ไหนได้คำตอบที่ได้คือประเมินราคาความเสียหายทั้งหมด 850,000.- แล้วจะลดให้ 20% สำหรับค่าซ่อมครั้งนี้ (เอาจริงๆเปลี่ยนเบาะหนังรถยนต์อย่างดีเลยรวมค่าบริการราคาประมาณ 250,000.- เท่านั้น) เท่ากับเค้าใช้อุบายให้ผมต้องจ่ายเค้าอีก 680,000.- บาท นี่ผมฟ้องเค้าให้ชดใช้ค่าเสียหายนะ น่าเกลียดมากๆ ผมยังไม่รวมค่าเสียหายที่ผมต้องติดตามทวงถามครั้งแล้วครั้งเล่าเกี่ยวกับการเคลมไปมาๆเกือบ 10 เที่ยว ที่ตีมูลค่าไม่ได้ เอาจริงๆตัวผมเองก็เป็นประธานกรรมการบริษัทแห่งหนึ่งมีพนักงานเกินกว่า 200 คน ซึ่งก็ไม่ได้เล็กกว่าบริษัทเบนซ์ในเมืองไทยเพราะพวงกเค้าเองยังต้องเช่าออฟฟิศอยู่ ลองคิดดูว่าเวลาของผมมีค่าเท่าไร ผมเสียเวลาทั้งที่เราเป็นลูกค้าต้องไปนั่งรอฝั่งของเบนซ์มาที่ศาลถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง ความจริงแล้วผู้ขายจะต้องมานั่งรอลูกค้าหรือป่าวเหมือนเป็นธรรมเนียมอันดีของบ้านเรา เพราะเค้าได้ผลประโยชน์จากเราได้เงินจากเราแต่เค้ากลับให้เราไปนั่งรอ เหตุผลที่ได้จากเค้าว่ามาถึงสายเพราะเค้าติดอยู่ห้องบัลลังก์ข้างๆอีกหลายเจ้า !!!!!!! ขุ่นพระน่าจะโดนฟ้องจากลูกค้าหลายราย !!!!!!!! ปัดความรับผิดชอบเพื่อไปแก้ต่างอีกหลายห้อง จบไปกับการขึ้นศาลครั้งที่ 1 มาต่อกันครั้งที่ 2 ขึ้นศาลครั้งที่ 2 วันที่ 7 ก.ย. 2563 ผมให้ทนายไปตามนัดแทนเพราะผมไม่อยากเสียเวลาและเสียน้ำมันที่มีค่าของชาติเหมือนที่เคยผ่านมา ผมเอาเวลาตรงนี้มาทำงาน หารายได้มีโอกาสได้ซื้อรถคันใหม่ดีกว่า (แต่คงไม่ใช่ยี่ห้อดาวสามแฉกที่ทำให้ผมรู้สึกแย่แน่นอนและอาจจะถูกโกงอีกครั้ง)เพื่อนๆว่าถูกต้องมั้ยลองคอมเมนต์มาก็ได้ครับ ต่อๆ ทนายบอกว่าเค้ายังคงใช้คำพูดเดิมที่ว่า ******เกิดจากการใช้งานของลูกค้า******* เหมือนเป็นสโลแกนการปัดความรับผิดชอบของเค้าเลยจริงๆ ถ้าผมไปก็คงเสียเวลาเสียอารมณืเสียสุขภาพจิตอีกเช่นเคย ท่านลองคิดดู มูลค่าที่ผมเสียเวลาเสียรายได้ เค้าต้องจ่ายผมเท่าไรต้องให้ผมแจ้งถึงบริษัทแม่เค้าที่ต่างประเทศด้วยมั้ยขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นด้วนนะครับ ขอบคุณครับ