การมาพยาม ไม่ต้องใช้ความพยามยามสูงเท่าไหร่ 
เราเริ่มจากการขึ้นรถไฟเราขึ้นรถไฟจากจังหวัดเพชรบุรีรอบ 19:20 น. ในราคา168 บาท
   

พอเช้าเราก็นั่งรถตู้ต่อเลย จากชุมพร 06:30 น. ในราคา 120 บาทค่ะ ไปถึงระนองเวลา 08:45 น. ถ้าเราอยากสะดวกพี่รถตู้มีบริการส่งถึงท่าเรือเลยนะคะ เพิ่มคนละ 100 บาท แต่ถ้าเราอยากประหยัดมีรถสองแถวสีแดงๆต่อไปได้คะ เพียง 20 บาท
 



พอมาถึงเราก็มาเลือกซื้อตั๋วเรือกันเลย ที่นี่มีเรือสองประเภทที่ไปเกาะพยาม เรือลำใหญ่จะช้าเพราะต้องขนสินค้าไปด้วยคะแต่จะราคาถูก เราเลยเลือกเรือสปีตโบ๊ท ราคา 350 บาท แต่เป็นลำเล็กๆนะคะนั่งได้ประมาณ 20 คน

พร้อมแล้ว ไปกันเลย เรือของเรือออกเวลา 09:00 น. การเดินเรือเป็นเปนอย่างราบรื่น แต่ดูๆน้ำทำไมไม่ใส เลยคิดขึ้นได้ว่าเกาะพยามตั้งอยู่ไม่ไกลจากฝั่งมากเดินเรือแปปเดียวแค่ 40 นาทีก็ถึง แล้วอีกอย่างตอนนี้หน้าฝน




ยินดีต้อนรับเขาสู่เกาะพยาม
ที่นี่จะมีร้านเช่ามอเตอร์ไซด์เยอะพอสมควร ราคาจะอยู่ที่ 150 - 200 บาทต่อวันค่ะ ที่นี่ไม่มีปั้มน้ำมัน เขาจะขายเป็นขวดๆ ที่นี่ไม่มีเซเว่น ซื้อของขายร้านป้าๆเท่านั้น ที่นี่ไม่มีตู้เอทีเอ็ม ต้องพกเงินติดๆมาเยอะๆนะคะ ^^ เรานี่วิ่งหาตู้วุ่นไปหมดเลยคะ เพราะลืมกดเงินมาเผื่อ TT
เพื่อนร่วมทริปในครั้งนี้ พี่ส้ม กับน้องฟ้า <<<< เราเดินทางหาที่พักกันต่อเลยคะ ที่พักที่นี่มีมากมาย ราคาหลักร้อยจนถึงหลักพัน ตอนที่เรามานี้ ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว เงียบเชียบ เป็นส่วนตัวมากๆ

เราขี่รถกันไปๆ เอ๊ะ ! ทำไมมีป่าเยอะขนาดนี้ ต่างจากเกาะหลายๆเกาะที่เราไปมามากๆเลย ใครที่อยากมาสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน มาดูต้นไม้ ดอกไม้ มาได้เลยนะคะ พยามหน้าฝน มันส์อย่างบอกใคร ไม่แพ้ในหน้าร้อน หน้าหนาวเลยคะ

และแล้วการหลง การงง ก้อทำให้เรามาถึงที่พักคะ เกาะเล็กๆแบบนี้ หาที่พักเกือบชั่วโมงนะคะ ==

นี่เป็นวิวตรงที่พัก เราอยู่ทางพระอาทิตย์ตกเย็น ต้องมีสักเย็นหร่ะ ที่เราจะได้ถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดินๆ ที่พักเราติดทะเลเลย พอน้ำขึ้น เดินไปสามก้าวลงน้ำได้เลยคะ 555 บางทีนอนๆอยู่ นึกว่านำ้พัดบ้านไปแล้ว ==
หลังจากนอนพักเอาแรง เราก็มาถึงมื้อแรกของเกาะกัน

กล้วยที่นี่ ขายเป็นกิโลนะคะ พอเติมพลังแล้ว เราก้อขี่รถไปเรื่อยเปื่อย ไปได้ทุกที่ ที่มีทาง ^^
        
จะเห็นได้ว่า ทริปนี้ ไม่ได้ดำน้ำ ไม่ได้อาบแดด ไม่มีชุดว่ายน้ำ เพราะอากาศหนาว ฝนตก มรสุม เข้ามา
   
ที่นี่เป็นวัดบนเกาะนะคะ มาเที่ยวไหว้พระกันได้ จุดสนใจจะอยู่ตรงที่มีโบสถ์กลางน้ำ
เรามาต่อกันที่นี่ สวยมาก ยิ่ใหญ่ ใหญ่โตมากๆ


Surprise  น้ำท่วมทางเข้าออกที่พัก นี่คือลุ่มน้ำอะเมซอน
 
ถึงตอนนี้ฝนก็ยังไม่ยอกหยุดตกให้เรานะคะ TT
วันต่อมาเราก็ไปอ่าวเขาควายกัน ทั้งๆที่ฝนตก ได้รสชาติไปอีกแบบ ทีแรกกะว่าจะไปถ่ายรูปเดินเที่ยวตากฝนกันเฉยๆ แต่เราไปเจอป้าคนนึงกะลูกสาวเขาคะ เขามาเก็บหอยเสียบ เอาไปดองกับน้ำปลา เอาเก็บไว้กินกัน ป้าบอกว่าสาหร่ายสีน้ำตาลตรงโน้นก็กินได้นะ แล้วรอน้ำลดอีกนิด จับปูไปกินได้ด้วย
   

อ่าวเขาควายเป็นอ่าวที่มีหินน้อย หินใหญ่ เป็นรูๆ สวยมากๆ
แต่ตอนนี้ฝนก็ยังอยู่กับเรานะคะ
พอฝนเริ่มซาลง เราก็เดินทางต่อ ไปที่ที่ทำให้คนมาเที่ยวที่นี่ ทำให้ที่นี่เริ่มมีชื่อเสียงกันนะคะ นั่นคือ บลูสกายรีสอร์ท คะ เราไม่ได้ค้างที่นี่หรอก แต่เรามา กินๆๆๆๆๆ กินอาหารและกินบรรยากาศ หวังว่าจะได้พายเรือชิวๆ ด้วยนะคะ

ผิดคาดอย่างรุนแรง ฝนตกหนักมากๆๆๆ เราเลยซิ่งรถฝ่าฝนกลับที่พัก อิ่มท้อง แต่อดพายเรือ TT กลับมาห้องพักผ่อนกันต่อไปพรุ่งนี้เดินทางกลับแล้ว แง่ๆ

บาย พ ย า ม เรามากันได้แค่นี้ TT อาจจะพบกันใหม่ เพราะเราตั้งใจไว้หลายๆอย่างเรียนเซิร์ฟก็ยังไม่ได้ทำ ลงน้ำก้อยังไม่ได้ลง เอาชุดว่ายน้ำมาตั้งสามชุดแน่ ไม่เป็นไรเนอะ ยังไงก็ได้ประสบการณ์แปลกๆ ใหม่ๆ ทะเลหน้าฝนก็มันส์ไปอีกแบบ ทริปหน้าค่อยว่ากันใหม่ ยังไงวันนี้ที่มา ตามที่เคยพูดไว้ไง ทำได้แล้ว

เรากลับมาถึงฝั่งประมาณ 10:00 น. คะ กว่าจะกลับรถทัวร์มีรอบตัง 20:00 น. เราเลยเตร็ดแตร่ เรื่อยเปื่อย

เราออกมารอรถสองแถวที่บอกบอกว่าสี เขียวๆๆ เพื่อไปท่ารถทัวร์

เราทำการจองตั๋วรถทัวร์ขากลับราคา 403 บาท ออกจากที่ระนองเวลา 20:00 น. แต่ตอนนี้ยังไม่บ่ายโมงเลย เรามีต่อ
เราฝากของ วางของกันเรียบร้อยแล้วมา บ่อน้ำแร่ร้อนทักษะวาริน ถึงตอนนี้ฝนก็ยังปรอยๆนะคะ แต่ไม่อาจต้านเราได้ เรามาถึงกันขนาดนี้แล้วเนอะ เอาให้สุด สู้ๆ



เรามาบ่อน้ำแร่ร้อน แต่มีที่น่าสนใจกว่านั้น ดูน้ำที่ไหลลงมาสิ บอกได้เลยว่าแรงมาก สะพานก็เงาน่าลื่นมากๆ ถ้าตกลงไปนี่ไม่อยากคิดเลย ><
มือสุดท้ายในทริปนี้ค่ะ ไก่ทอดๆๆๆๆๆ

สุดท้ายในทริปนี้นะคะ เราเดินทางกลับกันมาอย่างงสวัสดิภาไม่มีอีเว้นใดๆเกิดขึ้น
ขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาชม เป็นกำลังใจให้กันนะคะ หวังว่าเกาะพยามจะเป็นอีกทางเลือกให้คนที่รักทะเลมาสัมผัสกัน
^^ สวัสดีค่ะ