สวัสดีค่ะ...
วันนี้เอเบลจะมาเล่าเรื่องราว เป็นบันทึกการเดินทางไปดอยขุนตานมา เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน
โดยการไปเที่ยวในครั้งนี้ ได้ตัดสินใจเดินทางคนเดียว เป็นทริปเดินป่า & ตั้งแคมป์ด้วยตัวคนเดียวครั้งแรก
ก่อนไปก็หาข้อมูลมาพอสมควร เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับสิ่งที่ต้องเจอ
..................................................................................................................................................
ทริปนี้ตั้งใจว่าจะนั่งรถไฟจากหัวลำโพงไปลงสถานีขุนตาน
แต่ดันผิดแผนนิดหน่อย เพราะรถไฟนอนเต็มหมด!!
ในช่วงวันหยุดยาวชดเชยสงกรานต์ 4-7 กันยา
ก็เลยนั่งรถทัวร์ไปเชียงใหม่และนั่งรถไฟจากเชียงใหม่ย้อนมาขุนตานแทน
ใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งได้
ครั้งแรกกับการตั้งแคมป์คนเดียว & เดินป่าคนเดียวของเรา
"มันไม่น่ากลัวอย่างที่คิด"
ที่เลือกมาที่นี่ เพราะค่อนข้างสะดวกสบาย
ทั้งการเดินทาง และอาหารการกิน
ที่ไม่ต้องแบกขึ้นไปเอง
ที่นี่มีร้านสวัสดิการคอยบริการอยู่
"เหมาะสำหรับมือใหม่"
เราจะค่อยๆ เล่าเรื่องราวไปทีละภาพ
ถ้าพร้อมเดินทางไปกับเราแล้ว
หยิบ Passport แล้วตามเรามาเล้ยยยยย....
สวัสดีขุนตาน....จริงๆ ขุนตานตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 จังหวัด
นั่นคือลำปางกับลำพูน ปกตินั่งรถไฟสายเหนือก็มักจะไปลงสุดสายที่เชียงใหม่
แต่ก่อนถึงเชียงใหม่ ก็จะผ่านลำปางกับลำพูนก่อน มาแวะเที่ยวขุนตานกันนะ...
ตามแผนที่ตั้งใจไว้คือนั่งรถไฟตู้นอนจากหัวลำโพงมาลงขุนตานเลย
ซึ่งจะผ่านอุโมงค์ขุนตานด้วย แต่ตั๋วเต็ม เลยต้องนั่งรถทัวร์มาลงเชียงใหม่
และนั่งรถไฟย้อนมาลงขุนตานแทนจริงๆ อาจจะมีวิธีที่ดีกว่านี้ก็ได้นะ
...สำหรับคนไม่มีรถ...
เรามาด้วยรถไฟรอบ 9.30 ขบวนเชียงใหม่ - นครสวรรค์
ประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว...ไม่นาน
ขบวนรถคนโดยสารค่อนข้างแน่น
โชคดีมีที่นั่งเหลือที่สุดท้าย เจ้าหน้าที่เลยเรียกไปนั่ง
จะได้เก็บแรงไว้เดินขึ้นดอยขุนตาน
สถานีรถไฟขุนตาน...ทางผ่านที่ใครๆ คิดว่ามีจุดเด่นแค่อุโมงค์
แต่ทางเดินขึ้นอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาน ก็เริ่มต้นที่สถานีรถไฟนี่แหละ
ผู้ที่มาเยี่ยมที่แห่งนี้ ก็มักจะถ่ายรูปคู่กับอุโมงค์เป็นที่ระลึก
ซึ่งเป็นอุโมงค์ทางรถไฟลอดผ่านที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
ไปคนเดียวก็ต้อง self portrait เอาแหละ 55555
กายพร้อม ใจพร้อม passport ก็พร้อม
แต่ต้องเอาขึ้นไป stamp บนที่ทำการอุทยานนะ
ต้องเดินจากทางขึ้นตรงสถานีรถไฟไปอีก 1300 เมตร
การถ่ายรูป คือการพักเหนื่อยไปในตัว 5555
ตรงนี้เรามาถึงทางแยก ที่เป็นทางถนน กับทางเดินเท้า
อีกนิดนึงก็จะถึงที่ทำการอุทยานแล้ววววว
ฮึบๆๆ
ในที่สุดก็แบกเป้ เดินขึ้นมาถึง
ก่อนเข้ามาจะมีด่านตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อน
และชำระค่าเข้าอุทยานคนละ 20 บาท
สำหรับเราเอาเต๊นท์มาเอง มีค่าเช่าที่กางเต๊นท์คืนละ 30 บาท
มาถึงจะมีเจ้าหน้าที่แจกแผนที่ทางเดินป่า
พร้อมอธิบายรายละเอียดต่างๆ
จุดกางเต๊นท์มี 3 ที่ ไล่ตามระดับความสูงขึ้นไป
เราเลือกที่แรก เพราะสบายสุด มีทั้งไฟฟ้า และร้านอาหาร
อย่าลืมเอา passport ให้เจ้าหน้าที่ stamp ให้นะ
ได้มาแล้วตราปั๊มอุทยานที่ 1/155
โดยขุนตานเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 10 ของประเทศไทย
และอยู่หน้าที่ 10 พอดี
ที่นี่มีเต๊นท์ให้เช่า และอุปกรณ์การนอนอื่นๆ สภาพดีมาก
แต่เราแบกมาเองทั้งเต๊นท์และถุงนอน
สำหรับนอนได้ 1 คนพอดีๆ
หลังเล็กนิดเดียววววว (สีน้ำเงิน) 555
เราเลือกที่จะกางเต๊นท์ที่นี่ "ลานชมดาว"
เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากที่สุด
สำหรับมือใหม่อย่างเรา
ห้องน้ำ สภาพดี น้ำเย็นสดชื่น ฝักบัวน้ำแรงมาก
มีร้านสวัสดิการ ขายขนม น้ำ อาหารตามสั่ง
ที่สำคัญ มีปลั๊กให้ชาร์ตแบตได้ฟรีๆ ไม่ต้องกลัวแบตหมด
หลังจากเราขึ้นมาถึงอุทยานช่วงเที่ยงๆ
และอาบน้ำเย็นๆฟินๆ เสร็จ
ก็แวะมาเติมพลังกันหน่อย
ข้าวกระเพราหมูสับจานเบ้อเริ่มนี้ 50 บาทเองนะ
ถือว่าราคามิตรภาพ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยว
มุมมหาชนที่ใครมาก็ต้อง "แชะ" ภาพตรงนี้
ที่นี่เขาจะมีหอคอยถ่ายภาพมุมนี้โดยเฉพาะ
แต่ไอ้เรามาคนเดียวนี่สิ ตั้งกล้องไว้ได้แค่ 10 วิ
ยังวิ่งลงไปไม่ทัน T^T
อิ่มแล้ว ก็เริ่มออกเดินทางได้...
ที่นี่เขาจะมีทั้งทางถนน และทางเดินเท้า
สำหรับทางถนน วิ่งขึ้นไปเรื่อยๆจะมีบ้านพักอยู่ 2 ข้างทาง
ค่อนข้างสะดวกเลย สำหรับคนที่ไม่อยากนอนเต๊นท์
แต่เราสายลุยอยู่ละ กางเต๊นท์ประหยัดกว่าด้วย อิอิ
เดินมาจนเจออุโมงค์จำลอง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่
ตอนนั้นไม่มีคนพอดี ขอตั้งกล้องสักรูปนึงนะ
ซึ่งเมื่อเดินลอดอุโมงค์เข้าไป จะพบว่า...
มันเป็นทางลัด ที่ตัดผ่านทางถนน ทำให้เราไม่ต้องเดินอ้อม
ตามข้างทาง จะมีป้ายบอกทางตลอด
อันนี้เราลองเดินเข้ามาในทางเดินเท้า
พบว่า มันก็เป็นทางลัด ที่ไม่ต้องเดินอ้อมบนทางถนน
เพียงแต่มันจะเป็นบันไดหินขั้นสูงๆหน่อย
ต้องเตรียมสปริงข้อเข่าไปดีๆนะ
แมลงอะไรไม่รู้ ตัวเขียวๆ
เมื่อเดินทะลุทางเดินเท้าออกมา
ก็จะเจอกับทางถนนอีกครั้ง
ตอนที่ไปนั้นแทบไม่มีคนเลย
ดอยนี้แทบจะเป็นของเรา
ตั้งกล้องถ่ายตรงไหนก็ได้ ไม่ต้องเขิน
555555
และแล้ว ความพยายามของเราก็พาเรามาถึงจุดชมวิว
เราแวะพักตรงนี้นิดหน่อย
ลมเย็นๆ แสงแดดยามพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน
ความสงบทำให้เราคิดอะไรได้หลายๆอย่าง
ถึงแม้ว่า เราอาจจะไม่ได้รูปในมุมที่เราต้องการ
แต่ก็ไม่แย่นะ อย่างน้อยก็มีเราอยู่ในเฟรม
มีภาพบันทึกการเดินทางของเรามายังที่นี่
เราอยู่ที่นี่ได้สักพักนึง จนแสงใกล้หมด
เลยบอกตัวเองว่า วันนี้พอเท่านี้ก่อน
เดี๋ยววันรุ่งขึ้นจะขึ้นมาใหม่
ใครแวะมาที่ขุนตาน อย่าลืมมาถ่ายรูปโค้งนี้นะ
อย่างกับโค้งสนาม F1 (คิดไปเองรึเปล่านะ)
ระหว่างเดินกลับ "ลานชมดาว" แสงส้มๆลอดผ่านต้นไม้
เป็นสัญญาณบอกตัวเองให้รีบกลับที่พัก ก่อนฟ้ามืด
เดี๋ยวจะกลับลำบาก
แวะมาชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ "ลานชมดาว"
แสงแดดยามเย็นสาดมา
แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเหงา
เราจะรอดูดาวคืนนี้นะ ขอให้ฝนไม่ตก
[center
[CR] แบกเป้ลุยเดี่ยวเที่ยวดอยขุนตาล 2 วัน 1 คืน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้