พาเที่ยวอุทยานดอยขุนตาล เส้นแบ่ง 2 จังหวัด ลำพูน ลำปาง#1 กางเต็นท์ขวางทางรถไฟ เดินไปดูพระอาทิตย์ตก
http://ppantip.com/topic/32896600
พาเที่ยวอุทยานดอยขุนตาล เส้นแบ่ง 2 จังหวัด ลำพูน ลำปาง#2 ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น แวะถาม ย ต่างๆ ดูรถไฟที่สถานีขุนตาล
http://ppantip.com/topic/32898598
วันนี้ตื่นมาตั้งแต่ตีห้ากว่า เตรีมตัวเพื่อไปให้ทันนัดพี่เขาตอน 7 โมงที่สถานีรถไฟขุนตาล จากที่กางเต็นท์เดินไปประมาณ 1.5 กม ได้
มีเวลาถ่ายรูปตรงจุดชมวิวที่กางเต็นท์ซะหน่อย หมอกก็พอมี แต่ก่อนเจ้าหน้าที่บอกว่า จะเห็นทางรถไฟที่สถานีขุนตาลด้วย แต่เดียวนี้ไม่เห็นเพราะต้นไม้บังหมดเลย
จากนั้นก็เดินตามถนนลาดยาง ไปจนถึงจุดตัดเลี้ยวซ้ายมือไปตามทางเดินดินระยะทางอีกประมาณ 600 เมตร
เป็นทางเดิน ผ่านป่าไผ่ บางช่วงก็ทึบ บางช่วงก็มีขึ้นบันได
ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็มาถึงบริเวณ สถานีแวะไปถ่ายรูปและสักการะเจ้าพ่อขุนตาลก่อนเดินทางต่อ
เกือบถึงแล้วเห็นสถานีไกลๆ
เดินไปบริเวณเหนืออุโมงค์ขุนตาลถ่ายรูปเล่นก่อน
ช่วงเช้าก็มีขบวนมาแล้ว ถ้าใครจะไปไหนต่อโดยรถไฟก็เช็คเวลาให้แน่นอนจะได้ไม่ตกรถ
แล้วก็เดินลงมาเล่นข้างล่างเพราะยังมีเวลาเหลือ เดินเข้าไปดูภายในอุโมงค์ขุนตาลนิดหน่อย ไม่กล้าเข้าไปลึก ถ้าใครต้องการเดินชมอุโมงค์ ควรติดต่อเจ้าหน้าที และเช็คเวลารถ ให้แน่นอน เพราะอาจเกิดอันตรายถึงตายได้ และควรเตรียมไฟฉายมาด้วย ภายในอุโมงค์จะมีช่องหลบรถไฟอยู่
เนื่องจากรางรถไฟเปลี่ยนใหม่เป็นปูน ทำให้รถไฟวิ่งได้เงียบขึ้นไม่ค่อยมีเสียง
ทำให้เวลารถไฟมาใกล้ๆ เราจะหลบไม่ทัน
จากนั้นก็เดินเล่นเพื่อรอพี่วีระพัฒน์ เจ้าหน้าที่รถไฟ ซึ่งตอนเช้าจะขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านซึ่งจะผ่านทางไปสะพานทาชมพู แต่ถ้าไม่มีรถ ก็จ้างมอเตอร์ไซค์
ชาวบ้านก็ได้ ประมาณ 200 บาทได้
มีเวลาก็แอบถ่ายน้องแมวอึซะหน่อย
แล้วไปดูเจ้าหน้าที่ทำงาน กำลังสับเปลี่ยนรางเพื่อขบวนต่อไป
ประมาณ 7 โมงกว่าพี่วีระพัฒน์ ก็เตรียมตัวเสร็จ
เมืองเล็กๆที่สงบ ตอนเช้าก็มีหมอก ไม่เยอะแต่ก็กินใจดี
นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์พี่เขาไปลงที่หน้าวัดทาชมพู ซึ่งตรงวัดฝั่งตรงข้ามก็เห็นสะพานอยู่ไม่ไกล
ตอนแรกว่าจะเขาไปในวัดแต่ว่าวัดไม่เปิดน่าเสียดาย เลยรองท้องกับขนมที่เตรียมมาก่อนเดินเที่ยว
จากวัดไปอุทยานฯ ขุนตาลระยะทางประมาณ 10 กม ก็ไม่ไกล แต่ไม่มีรถเข้านะครับขอบอก ต้องจ้าง หรือโบก
จากหน้าวัดมีทางเดินตามทางดินไปที่สะพานทาชมพู เดินมาไม่ถึง 10 นาทีก็มาถึงตัวสะพานแล้ว
บริเวณสะพาน เป็นลานโล่ง มีห้องน้ำ และสามารถกางเต็นท์ได้
ห้องน้ำมี 2 ห้อง สะอาดพอใช้ได้
และใต้สะพานก็มีลำห้วยเล็กๆ แต่ก็มีแอ่งพอเล่นน้ำได้เย็นสะบาย
การที่จะมาพักที่นี่ควรแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งอยู่บริเวณหลังวัดทาชมพูทราบด้วยเขาจะได้รู้ เพื่อมีเหตุ
สะพานทาชมพู
ข้อมูลดีๆ จาก
****
สะพานขาวบ้านทาชมภู : สะพานข้ามทางรถไฟ
ตั้งอยู่บริเวณบ้านทาชมภู หมู่ 4 ตำบลทาปลาดุก อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน อยู่ระหว่างสถานีขุนตานกับสถานีทาชมภู เป็นสะพานประวัติศาสตร์ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2461 และสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2463 เพื่อใช้เป็นเส้นทางเดินรถไฟจากลำปางมายังเชียงใหม่ สะพานขาวบ้านทาชมภูก่อสร้างต่อจากอุโมงค์รถไฟขุนตาน ซึ่งเป็นเส้นทางสายกรุงเทพฯ – เชียงใหม่ เพื่อให้รถไฟข้ามผ่านลำน้ำแม่ทา มีลักษณะรูปทรงโค้งทาสีขาว เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ทำให้ชาวบ้านในท้องถิ่นตื่นเต้นเข้ามาดูชมการสร้างสะพานนี้อยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นสิ่งใหม่ รวมไปถึงนำอาหารและสิ่งของมาจำหน่ายให้กับกรรมกรแรงงานและนายช่างอยู่ตลอดเวลา
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสะพานแห่งนี้ว่า สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารฝ่ายพันธมิตรต้องการจะทิ้งระเบิดทำลายเส้นทางเดินรถไฟของทหารญี่ปุ่นและหนึ่งในเป้าหมายทั้งหมด มีสะพานขาวบ้านทาชมภูรวมอยู่ด้วย ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านใกล้เคียงจึงได้ช่วยกันทาสีสะพานให้เป็นสีดำ เพื่ออำพรางตาจากทหารฝ่ายพันธมิตรจนสะพานแห่งนิ้สามารถรอดพ้นจากการทิ้งระเบิดทำลายลงได้
เมื่อ พ.ศ. 2462 นายพลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน เพิ่งทรงรับตำแหน่งผู้บัญชาการรถไฟใหม่ๆ ได้ทรงนำช่างของพระองค์มาใช้ในการวางรางรถไฟสายลำปาง-เชียงใหม่ พระองค์ทรงรับสั่งให้ก่อสร้างสะพานทาชมภูซึ่งเป็นสะพานที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ช่วงล่างตอม่อคอนกรีตล้วนและเสริมเหล็ก ใช้เทคนิคการก่อสร้างและวิศวกรรมจากตะวันตกโดยคำนึงถึงการรับน้ำหนักของรถไฟที่จะต้องวิ่งผ่าน จึงต้องคำนวนเรื่องโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กให้รับน้ำหนักให้ได้มากกว่า 15 ตัน ซึ่งทำให้อยู่ยงคงกระพันอยู่จนถึงทุกวันนี้
การสร้างสะพานทาชมภูมีปัญหาอยู่ช่วงหนึ่งคือ ในช่วงฤดูน้ำหลากจะมีการล่องไม้ซุงมาตามลำน้ำแม่ทา ทำให้ไม้ซุงไหลมาติดตรงบริเวณการก่อสร้างสะพานเป็นจำนวนมาก พอน้ำลดต้องนำช้างมาชักลากออกไป จึงทำให้งานสร้างสะพานล่าช้าไปด้วย
ปัจจุบันเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ สะพานบ้านทาชมภูเป็นสะพานที่สวยงามอยู่ในบริเวณภูมิทัศน์ที่โดดเด่นของอำเภอแม่ทาจังหวัดลำพูน
****
ข้อมูลจาก
http://library.cmu.ac.th/ntic/picturelanna/detail_picturelanna.php?picture_id=1915
จากลานโล่ง ถ้าจะเดินชมสะพาน ต้องค่อยปีนขึ้นเนินทางรถไฟซะหน่อย สูงประมาณ 2 เมตร
ก่อนเดินชมสะพานก็หันดูรถไฟก่อนนะครับ อย่างที่บอกเพราะว่ารางใหม่รถไฟวิ่งเงียบมาก ตอนผมปีนขึ้นเนินมาบนรางรถไฟก็เจอกับ น้องหมา ซึ่งนอนหลับ
ยาว ร่างเละ เพราะโดนรถไฟทับ น่าสงสาร แต่ก็ได้แค่ขอให้เข้าไปดีก็แล้วกัน
เดินชมสะพาน ความยาวสะพาน 87.30 เมตร มีเทือกเขาล้อมรอบ ถ่ายตอนเช้าวิวก็สวยดี
ระหว่างกลางก็จะมีช่องหลบรถไฟด้วย
แล้วก็เดินมามาสุดสะพาน ถ่ายกลับไปก็สวยดีครับ
ก่อนขึ้นมาดูสะพาน มีพี่คนหนึ่งและนำให้เดินไปอีกฝั่งของสะพาน และจะมีเนินทางเดินขวามือ มีแท๊งน้ำขนาดใหญ่ให้ขึ้นไปถ่ายวิวมุมสูงตรงน้นก็สวยดี ผมก็เลยเดินผ่านสะพานไปอีกฝั่งตามที่พี่เขาบอก เห็นแท็งค์น้ำอยู่ใกล้ๆ แต่ทางลงชันและรก ผมเลยไม่ลง เดินกลับ และถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ดีกว่า
มุมทางขวามือของรูปที่โล่ง ถ้าเดินไปอีกทางจะมีถนนลูกรังรถถึงครับ
[CR] พาเที่ยวอุทยานดอยขุนตาล เส้นแบ่ง 2 จังหวัด ลำพูน ลำปาง#3 เที่ยวสะพานทาชมพู แต่มันสีขาว
http://ppantip.com/topic/32896600
พาเที่ยวอุทยานดอยขุนตาล เส้นแบ่ง 2 จังหวัด ลำพูน ลำปาง#2 ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น แวะถาม ย ต่างๆ ดูรถไฟที่สถานีขุนตาล
http://ppantip.com/topic/32898598
วันนี้ตื่นมาตั้งแต่ตีห้ากว่า เตรีมตัวเพื่อไปให้ทันนัดพี่เขาตอน 7 โมงที่สถานีรถไฟขุนตาล จากที่กางเต็นท์เดินไปประมาณ 1.5 กม ได้
มีเวลาถ่ายรูปตรงจุดชมวิวที่กางเต็นท์ซะหน่อย หมอกก็พอมี แต่ก่อนเจ้าหน้าที่บอกว่า จะเห็นทางรถไฟที่สถานีขุนตาลด้วย แต่เดียวนี้ไม่เห็นเพราะต้นไม้บังหมดเลย
จากนั้นก็เดินตามถนนลาดยาง ไปจนถึงจุดตัดเลี้ยวซ้ายมือไปตามทางเดินดินระยะทางอีกประมาณ 600 เมตร
เป็นทางเดิน ผ่านป่าไผ่ บางช่วงก็ทึบ บางช่วงก็มีขึ้นบันได
ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็มาถึงบริเวณ สถานีแวะไปถ่ายรูปและสักการะเจ้าพ่อขุนตาลก่อนเดินทางต่อ
เกือบถึงแล้วเห็นสถานีไกลๆ
เดินไปบริเวณเหนืออุโมงค์ขุนตาลถ่ายรูปเล่นก่อน
ช่วงเช้าก็มีขบวนมาแล้ว ถ้าใครจะไปไหนต่อโดยรถไฟก็เช็คเวลาให้แน่นอนจะได้ไม่ตกรถ
แล้วก็เดินลงมาเล่นข้างล่างเพราะยังมีเวลาเหลือ เดินเข้าไปดูภายในอุโมงค์ขุนตาลนิดหน่อย ไม่กล้าเข้าไปลึก ถ้าใครต้องการเดินชมอุโมงค์ ควรติดต่อเจ้าหน้าที และเช็คเวลารถ ให้แน่นอน เพราะอาจเกิดอันตรายถึงตายได้ และควรเตรียมไฟฉายมาด้วย ภายในอุโมงค์จะมีช่องหลบรถไฟอยู่
เนื่องจากรางรถไฟเปลี่ยนใหม่เป็นปูน ทำให้รถไฟวิ่งได้เงียบขึ้นไม่ค่อยมีเสียง
ทำให้เวลารถไฟมาใกล้ๆ เราจะหลบไม่ทัน
จากนั้นก็เดินเล่นเพื่อรอพี่วีระพัฒน์ เจ้าหน้าที่รถไฟ ซึ่งตอนเช้าจะขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านซึ่งจะผ่านทางไปสะพานทาชมพู แต่ถ้าไม่มีรถ ก็จ้างมอเตอร์ไซค์
ชาวบ้านก็ได้ ประมาณ 200 บาทได้
มีเวลาก็แอบถ่ายน้องแมวอึซะหน่อย
แล้วไปดูเจ้าหน้าที่ทำงาน กำลังสับเปลี่ยนรางเพื่อขบวนต่อไป
ประมาณ 7 โมงกว่าพี่วีระพัฒน์ ก็เตรียมตัวเสร็จ
เมืองเล็กๆที่สงบ ตอนเช้าก็มีหมอก ไม่เยอะแต่ก็กินใจดี
นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์พี่เขาไปลงที่หน้าวัดทาชมพู ซึ่งตรงวัดฝั่งตรงข้ามก็เห็นสะพานอยู่ไม่ไกล
ตอนแรกว่าจะเขาไปในวัดแต่ว่าวัดไม่เปิดน่าเสียดาย เลยรองท้องกับขนมที่เตรียมมาก่อนเดินเที่ยว
จากวัดไปอุทยานฯ ขุนตาลระยะทางประมาณ 10 กม ก็ไม่ไกล แต่ไม่มีรถเข้านะครับขอบอก ต้องจ้าง หรือโบก
จากหน้าวัดมีทางเดินตามทางดินไปที่สะพานทาชมพู เดินมาไม่ถึง 10 นาทีก็มาถึงตัวสะพานแล้ว
บริเวณสะพาน เป็นลานโล่ง มีห้องน้ำ และสามารถกางเต็นท์ได้
ห้องน้ำมี 2 ห้อง สะอาดพอใช้ได้
และใต้สะพานก็มีลำห้วยเล็กๆ แต่ก็มีแอ่งพอเล่นน้ำได้เย็นสะบาย
การที่จะมาพักที่นี่ควรแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งอยู่บริเวณหลังวัดทาชมพูทราบด้วยเขาจะได้รู้ เพื่อมีเหตุ
สะพานทาชมพู
ข้อมูลดีๆ จาก
****
สะพานขาวบ้านทาชมภู : สะพานข้ามทางรถไฟ
ตั้งอยู่บริเวณบ้านทาชมภู หมู่ 4 ตำบลทาปลาดุก อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน อยู่ระหว่างสถานีขุนตานกับสถานีทาชมภู เป็นสะพานประวัติศาสตร์ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2461 และสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2463 เพื่อใช้เป็นเส้นทางเดินรถไฟจากลำปางมายังเชียงใหม่ สะพานขาวบ้านทาชมภูก่อสร้างต่อจากอุโมงค์รถไฟขุนตาน ซึ่งเป็นเส้นทางสายกรุงเทพฯ – เชียงใหม่ เพื่อให้รถไฟข้ามผ่านลำน้ำแม่ทา มีลักษณะรูปทรงโค้งทาสีขาว เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ทำให้ชาวบ้านในท้องถิ่นตื่นเต้นเข้ามาดูชมการสร้างสะพานนี้อยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นสิ่งใหม่ รวมไปถึงนำอาหารและสิ่งของมาจำหน่ายให้กับกรรมกรแรงงานและนายช่างอยู่ตลอดเวลา
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสะพานแห่งนี้ว่า สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารฝ่ายพันธมิตรต้องการจะทิ้งระเบิดทำลายเส้นทางเดินรถไฟของทหารญี่ปุ่นและหนึ่งในเป้าหมายทั้งหมด มีสะพานขาวบ้านทาชมภูรวมอยู่ด้วย ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านใกล้เคียงจึงได้ช่วยกันทาสีสะพานให้เป็นสีดำ เพื่ออำพรางตาจากทหารฝ่ายพันธมิตรจนสะพานแห่งนิ้สามารถรอดพ้นจากการทิ้งระเบิดทำลายลงได้
เมื่อ พ.ศ. 2462 นายพลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน เพิ่งทรงรับตำแหน่งผู้บัญชาการรถไฟใหม่ๆ ได้ทรงนำช่างของพระองค์มาใช้ในการวางรางรถไฟสายลำปาง-เชียงใหม่ พระองค์ทรงรับสั่งให้ก่อสร้างสะพานทาชมภูซึ่งเป็นสะพานที่สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ช่วงล่างตอม่อคอนกรีตล้วนและเสริมเหล็ก ใช้เทคนิคการก่อสร้างและวิศวกรรมจากตะวันตกโดยคำนึงถึงการรับน้ำหนักของรถไฟที่จะต้องวิ่งผ่าน จึงต้องคำนวนเรื่องโครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กให้รับน้ำหนักให้ได้มากกว่า 15 ตัน ซึ่งทำให้อยู่ยงคงกระพันอยู่จนถึงทุกวันนี้
การสร้างสะพานทาชมภูมีปัญหาอยู่ช่วงหนึ่งคือ ในช่วงฤดูน้ำหลากจะมีการล่องไม้ซุงมาตามลำน้ำแม่ทา ทำให้ไม้ซุงไหลมาติดตรงบริเวณการก่อสร้างสะพานเป็นจำนวนมาก พอน้ำลดต้องนำช้างมาชักลากออกไป จึงทำให้งานสร้างสะพานล่าช้าไปด้วย
ปัจจุบันเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ สะพานบ้านทาชมภูเป็นสะพานที่สวยงามอยู่ในบริเวณภูมิทัศน์ที่โดดเด่นของอำเภอแม่ทาจังหวัดลำพูน
****
ข้อมูลจาก
http://library.cmu.ac.th/ntic/picturelanna/detail_picturelanna.php?picture_id=1915
จากลานโล่ง ถ้าจะเดินชมสะพาน ต้องค่อยปีนขึ้นเนินทางรถไฟซะหน่อย สูงประมาณ 2 เมตร
ก่อนเดินชมสะพานก็หันดูรถไฟก่อนนะครับ อย่างที่บอกเพราะว่ารางใหม่รถไฟวิ่งเงียบมาก ตอนผมปีนขึ้นเนินมาบนรางรถไฟก็เจอกับ น้องหมา ซึ่งนอนหลับ
ยาว ร่างเละ เพราะโดนรถไฟทับ น่าสงสาร แต่ก็ได้แค่ขอให้เข้าไปดีก็แล้วกัน
เดินชมสะพาน ความยาวสะพาน 87.30 เมตร มีเทือกเขาล้อมรอบ ถ่ายตอนเช้าวิวก็สวยดี
ระหว่างกลางก็จะมีช่องหลบรถไฟด้วย
แล้วก็เดินมามาสุดสะพาน ถ่ายกลับไปก็สวยดีครับ
ก่อนขึ้นมาดูสะพาน มีพี่คนหนึ่งและนำให้เดินไปอีกฝั่งของสะพาน และจะมีเนินทางเดินขวามือ มีแท๊งน้ำขนาดใหญ่ให้ขึ้นไปถ่ายวิวมุมสูงตรงน้นก็สวยดี ผมก็เลยเดินผ่านสะพานไปอีกฝั่งตามที่พี่เขาบอก เห็นแท็งค์น้ำอยู่ใกล้ๆ แต่ทางลงชันและรก ผมเลยไม่ลง เดินกลับ และถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ดีกว่า
มุมทางขวามือของรูปที่โล่ง ถ้าเดินไปอีกทางจะมีถนนลูกรังรถถึงครับ