Mark Vaughn คอลัมนิสต์ประจำวารสาร Autoweek ยอมเปิดใจกับวารสารที่ตนเองเขียนบทความส่งให้เป็นประจำถึงประสพการณ์การใช้งานรถ Toyota Mirai FCHVs รุ่นปี 2016 ของครอบครัวตัวเองที่เพิ่งจะวิ่งได้เพียง 8,854 ไมล์หรือประมาณ 14,166 กิโลเมตรเท่านั้น! (ทำไมวิ่งได้น้อยจัง)
สาเหตุที่ไม่ค่อยจะได้วิ่งก็เนื่องมาจากตอนที่ Mark Vaughn แกเล่นขับเจ้า Mirai ออกไปสำรวจและนับจำนวนสถานีเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนได้ถึง 41 สถานีทั่วแคลิฟอเนียและแกก็ได้พบว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งหรือกว่า 20 สถานีที่ไม่มีไฮโดรเจนให้แกได้เติมเลย และหลังจากที่ได้สอบถามเจ้าของสถานีไฮโดรเจนเหล่านั้นแล้วก็ได้รับคำตอบเหมือนๆกันว่า "
มีปัญหาเรื่องของการจัดส่ง" (อ้าว!!!!!)
ความไม่สะดวกอีกประการหนึ่งก็คือว่าขณะขับเจ้า Mirai ไปจอดไว้ที่บ้านแทนที่จะชาร์จกับไฟบ้านได้เหมือนอย่างกับรถยนต์พลังไฟฟ้าที่แค่เสียบเข้ากับปลั๊กไฟบ้านแล้วก็ชาร์จไฟทิ้งไว้ 6 ถึง 8 ชั่วโมง พรุ่งนี้ก็สามารถจะขับไปไหนต่อไหนได้แล้ว Mark Vaughn จึงมีความหงุดหงิดกับ Mirai คันนี้มากที่นอกจากจะต้องจอดทิ้งไว้ที่บ้านไว้เฉยๆ ตื่นเช้ามาก็ต้องรีบโทรศัพท์ไปเช็คกับสถานีไฮโดรเจนว่ามีไฮโดรเจนพร้อมให้เติมได้แล้วหรือยัง?
Mark Vaughn เองยอมรับว่าเหตุผลที่ตนเองและครอบครัวตัดสินใจซื้อ Toyota Mirai รุ่นปี 2016 คันนี้ก็เพราะเห็นว่าเวลาที่ใช้ในการเติมเชื้อเพลิงจากหัวเติมก๊าซไฮโดรเจน (hydrocarbon dispenser) จากสถานีนั้นจะใช้เวลาแค่ไม่เกิน 5 นาทีเท่านั้นเอง ซึ่งถ้าหากเทียบกับสถานีอัดประจุไฟฟ้า DC fast charging ที่ขนาด 150 kW แล้วอย่างน้อยก็ต้องครึ่งชั่วโมงขึ้นไปถึงจะอัดประจุได้จนเต็มแบตเตอรี่ (State of Charge : SOC = 0% to 80%)
แต่ Mark Vaughn ก็เพิ่งจะมารู้ว่าสถานีอัดประจุ 250 kW Superchargers ของเทสลานั้นเค้าจะใช้เวลาอัดประจุกันไม่ถึง 10 นาทีและเวลาในการอัดประจุก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามขนาดกำลังอัดของหัวชาร์จที่เพิ่มขึ้น (high voltage : kW) อีกทั้งเทคโนโลยีของแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้าก็มีการพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น แบตเตอรี่ high voltage ในรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อ Porsche รุ่น Taycan ที่มีขนาดสูงถึง 800 volt ทำให้สามารถชาร์จไฟจากสถานีอัดประจุ DC fast charging จนเต็มแบตเตอรี่ได้ภายในเวลาไม่ถึง 15-20 นาที!
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดเมื่อ Mark Vaughn ยอมรับสารภาพว่าเหตุผลหลักเลยที่มั่นใจอย่างสุดๆว่าเจ้า Toyota Mirai จะต้องเหนือกว่ารถยนต์พลังไฟฟ้า (BEVs) นั้นก็คือระยะทางที่วิ่งได้ (driving range) ที่เคยมีความเชื่อกันว่ารถยนต์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนนั้นจะต้องวิ่งได้ไกลกว่ารถยนต์พลังไฟฟ้าอย่างแน่นอน..ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้ก็อาจจะใช่แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีแบตเตอรี่ก้าวล้ำไปมาก ทำให้ช่องว่างระหว่างระยะทางวิ่งกลายเป็นศูนย์และขึ้นแซงเฉือนกันไปแล้วก็มี ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเติมไฮโดรเจนจนเต็มถัง Toyota Mirai จะวิ่งได้ไกลสุดที่ 312 ไมล์หรือ 502 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อเทียบกับรถเทสลาโมเดลเอสรุ่น Long Range Plus เมื่ออัดประจุจนเต็มแบตเตอรี่ก็จะวิ่งได้ไกลถึง 402 ไมล์หรือ 643.2 กิโลเมตร ซึ่งไกลกว่า Toyota Mirai ถึง 141.2 กิโลเมตร เลยทีเดียว
ที่มา :
https://www.autoweek.com/news/a2057456/mark-vaughn-hydrogen-bunk/
และ :
https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=194993668800988&id=110108273956195 (ภาษาไทย)
จริงๆเรื่องรถ FCEV ก็มีพูดถึงโดยคุณ Bjorn ที่เป็นผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามาอย่างยาวนาน ใครที่สนใจก็ลองไปรับชมกันที่นี่
สุดท้ายไปกับภาพผังประสิทธิภาพต่อการใช้พลังงานของรถยนต์ทั้ง 3แบบโดยจะมี BEV,FCEV และรถน้ำมัน
อุปสรรคของรถยนต์ FCEV : ประสบการณ์จากการใช้งาน Toyota Mirai FCEV โดย Mark Vaughn
สาเหตุที่ไม่ค่อยจะได้วิ่งก็เนื่องมาจากตอนที่ Mark Vaughn แกเล่นขับเจ้า Mirai ออกไปสำรวจและนับจำนวนสถานีเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนได้ถึง 41 สถานีทั่วแคลิฟอเนียและแกก็ได้พบว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งหรือกว่า 20 สถานีที่ไม่มีไฮโดรเจนให้แกได้เติมเลย และหลังจากที่ได้สอบถามเจ้าของสถานีไฮโดรเจนเหล่านั้นแล้วก็ได้รับคำตอบเหมือนๆกันว่า "มีปัญหาเรื่องของการจัดส่ง" (อ้าว!!!!!)
ความไม่สะดวกอีกประการหนึ่งก็คือว่าขณะขับเจ้า Mirai ไปจอดไว้ที่บ้านแทนที่จะชาร์จกับไฟบ้านได้เหมือนอย่างกับรถยนต์พลังไฟฟ้าที่แค่เสียบเข้ากับปลั๊กไฟบ้านแล้วก็ชาร์จไฟทิ้งไว้ 6 ถึง 8 ชั่วโมง พรุ่งนี้ก็สามารถจะขับไปไหนต่อไหนได้แล้ว Mark Vaughn จึงมีความหงุดหงิดกับ Mirai คันนี้มากที่นอกจากจะต้องจอดทิ้งไว้ที่บ้านไว้เฉยๆ ตื่นเช้ามาก็ต้องรีบโทรศัพท์ไปเช็คกับสถานีไฮโดรเจนว่ามีไฮโดรเจนพร้อมให้เติมได้แล้วหรือยัง?
Mark Vaughn เองยอมรับว่าเหตุผลที่ตนเองและครอบครัวตัดสินใจซื้อ Toyota Mirai รุ่นปี 2016 คันนี้ก็เพราะเห็นว่าเวลาที่ใช้ในการเติมเชื้อเพลิงจากหัวเติมก๊าซไฮโดรเจน (hydrocarbon dispenser) จากสถานีนั้นจะใช้เวลาแค่ไม่เกิน 5 นาทีเท่านั้นเอง ซึ่งถ้าหากเทียบกับสถานีอัดประจุไฟฟ้า DC fast charging ที่ขนาด 150 kW แล้วอย่างน้อยก็ต้องครึ่งชั่วโมงขึ้นไปถึงจะอัดประจุได้จนเต็มแบตเตอรี่ (State of Charge : SOC = 0% to 80%)
แต่ Mark Vaughn ก็เพิ่งจะมารู้ว่าสถานีอัดประจุ 250 kW Superchargers ของเทสลานั้นเค้าจะใช้เวลาอัดประจุกันไม่ถึง 10 นาทีและเวลาในการอัดประจุก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามขนาดกำลังอัดของหัวชาร์จที่เพิ่มขึ้น (high voltage : kW) อีกทั้งเทคโนโลยีของแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้าก็มีการพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น แบตเตอรี่ high voltage ในรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อ Porsche รุ่น Taycan ที่มีขนาดสูงถึง 800 volt ทำให้สามารถชาร์จไฟจากสถานีอัดประจุ DC fast charging จนเต็มแบตเตอรี่ได้ภายในเวลาไม่ถึง 15-20 นาที!
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดเมื่อ Mark Vaughn ยอมรับสารภาพว่าเหตุผลหลักเลยที่มั่นใจอย่างสุดๆว่าเจ้า Toyota Mirai จะต้องเหนือกว่ารถยนต์พลังไฟฟ้า (BEVs) นั้นก็คือระยะทางที่วิ่งได้ (driving range) ที่เคยมีความเชื่อกันว่ารถยนต์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนนั้นจะต้องวิ่งได้ไกลกว่ารถยนต์พลังไฟฟ้าอย่างแน่นอน..ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้ก็อาจจะใช่แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีแบตเตอรี่ก้าวล้ำไปมาก ทำให้ช่องว่างระหว่างระยะทางวิ่งกลายเป็นศูนย์และขึ้นแซงเฉือนกันไปแล้วก็มี ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเติมไฮโดรเจนจนเต็มถัง Toyota Mirai จะวิ่งได้ไกลสุดที่ 312 ไมล์หรือ 502 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อเทียบกับรถเทสลาโมเดลเอสรุ่น Long Range Plus เมื่ออัดประจุจนเต็มแบตเตอรี่ก็จะวิ่งได้ไกลถึง 402 ไมล์หรือ 643.2 กิโลเมตร ซึ่งไกลกว่า Toyota Mirai ถึง 141.2 กิโลเมตร เลยทีเดียว
ที่มา : https://www.autoweek.com/news/a2057456/mark-vaughn-hydrogen-bunk/
และ : https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=194993668800988&id=110108273956195 (ภาษาไทย)
จริงๆเรื่องรถ FCEV ก็มีพูดถึงโดยคุณ Bjorn ที่เป็นผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ามาอย่างยาวนาน ใครที่สนใจก็ลองไปรับชมกันที่นี่
สุดท้ายไปกับภาพผังประสิทธิภาพต่อการใช้พลังงานของรถยนต์ทั้ง 3แบบโดยจะมี BEV,FCEV และรถน้ำมัน