บทความวันจันทร์ (14 ก.ย. 63) : ต้นกล้าจากผืนนาธรรม

บทความวันจันทร์   ต้นกล้าจากผืนนาธรรม
โดย  วรา  วราภรณ์

                “หนูได้รู้จักตัวเองเพิ่มขึ้น...เข้าใจการใช้ชีวิตมากขึ้น”

                พีระพรรณ  จามจุรีย์ นักศึกษาครุศาสตร์ชั้นปีที่ 1 สาขาคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา สะท้อนความรู้สึกของเธอเอาไว้ในแบบประเมินผล การอบรมพัฒนาจิตให้เกิดปัญญาและสันติสุข ตามแนวทางคุณแม่ ดร.สิริ  กรินชัย ซึ่งจัดขึ้นเมื่อ 2-9 พฤศจิกายน 2562 ณ ร้านศิริมลก่อสร้าง ในเขตเทศบาลตำบลหนองหัวแรต อำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา

                ครั้งนั้น พีระพรรณมาร่วมกิจกรรมเป็นครั้งแรกโดยเดินทางมาพร้อมพระจักรพงษ์  กตปุญโญ (จามจุรีย์) ผู้เป็นพี่ชาย ซึ่งเป็นเยาวชนเพียงคนเดียวที่ร่วมกิจกรรมนี้จนครบหลักสูตร 

                “หลวงพี่แนะนำมาในช่วงปิดเทอมพอดี เพราะเห็นว่าหนูเป็นคนหงุดหงิดง่าย ชอบโมโหเวลาไม่ได้ดั่งใจตัวเอง ชอบความสมบูรณ์แบบในการทำงาน ไม่ชอบความผิดพลาด ชอบคิดเรื่องอนาคตมากกว่าปัจจุบัน”

                พีระพรรณเล่าความรู้สึกก่อนเข้าอบรมว่า เธอทำตัวไม่ถูก เพราะไม่ทราบว่าจะต้องทำอะไร อย่างไร กลัวว่าจะถูกดุ และกลัวความเคร่งครัดของวิทยากร (อาจารย์นิศารัตน์  ลาวัณยากุล) ซึ่งหลังจากจบหลักสูตรแล้วเธอทราบดีว่านั่นเป็นความเข้าใจผิด 

                ส่วนในระหว่างการอบรม เธอยอมรับว่ามีปัญหาอยู่เหมือนกัน

                “ตอนแรกๆ ไม่ค่อยมีสมาธิ เบื่อ และรู้สึกเหนื่อย ปวดตามตัวเวลาปฏิบัติ เกิดความรู้สึกว่าเหมือนได้มาฝึก   ความอดทนช่วยเหลือตนเองแก้ปัญหาเฉพาะหน้า”

                แต่พีระพรรณไม่ยอมแพ้ เธอใช้ความเพียรร่วมกิจกรรมจนจบหลักสูตร และรับรู้ได้เองในเวลาต่อมาว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นต่อตนเองทั้งกายและใจ

                “ทางกาย รู้สึกว่าเกิดความเคยชินในการนั่งสมาธิ อดทนมากขึ้น แข็งแรงมากขึ้น ทางใจ รู้สึกว่าทำอะไรก็รู้สึกตัวตลอดเวลา มีสติมากขึ้นตรงการวางแผนรับผิดชอบหน้าที่ตัวเอง และการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เหมือนได้ละลายพฤติกรรมตลอดเวลาค่ะ และจากที่ไม่เคยสนใจธรรมะ ก็ทำให้หนูสนใจมากขึ้น อาจจะหลับบ้างแต่นานเข้ามันกเป็นความสบายใจ รู้สึกเข้าใจการใช้ชีวิตมากขึ้นค่ะ”

                และพีระพรรณยังเขียนบอกเล่าว่าเธอได้รับประโยชน์จากการอบรมหลายเรื่อง

                “ได้รู้จักธรรมมากขึ้น เข้าใจว่าเราควรอยู่กับอะไร เห็นอะไรสำคัญมากที่สุด ทำให้หนูรู้จักตัวเองเพิ่มขึ้น เพราะการอบรมนี้ทำให้หนูมีจิตใจที่เย็นลง ลดความขี้หงุดหงิดลง เห็นปัญหาคนรอบตัว ไม่ใช่รเมีปัญหาอยู่คนเดียว ได้ถูกกระเทาะสิ่งลึกๆ ในใจออกมา ได้ฝึกความอดทน และลดการใช้โซเชียลมีเดียค่ะ”

                ภาพที่ทุกคนเห็นในวันที่สี่ซึ่งมีกิจกรรมแสดงความกตัญญูกตเวที กราบพระในบ้าน เธอก้มลงกราบพระจักรพงษ์ด้วยน้ำตานองหน้า แต่ภาพที่แทบไม่มีใครเห็นหลังจากนั้นก็คือ พีระพรรณได้ตักน้ำไปล้างเท้าและกราบเท้าคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านด้วย

                ผู้เขียนไม่รู้จักพีระพรรณมาก่อน และเมื่ออ่านความในใจของเธอในแผ่นกระดาษนั้นแล้วก็ยังรู้สึกปลาบปลื้มใจ เพราะเชื่อว่ากิจกรรมเจริญสติครั้งนั้นได้มีส่วนบ่มเพาะเมล็ดกล้าจากผืนนาธรรมให้งอกงามขึ้นมาได้อย่างน้อยที่สุดต้นหนึ่ง และพื้นฐานความรู้ในช่วงเวลาสั้นๆ บวกกับทัศนคติที่ถูกต้องของเธอ ก็น่าที่จะช่วยทำให้กล้าไม้ต้นนี้ฝ่าแสงแดด สายลม และสายฝน เติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ต่อไปได้ในที่สุด
 

                                                               ......................................................................

       
แบบสอบถามของพีระพรรณ

                           
 พีระพรรณในขณะนั่งสมาธิประจำวัน ครั้งละ 15-30 นาที ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในหลักสูตร

(บทความนี้ผู้เขียนขยายความถึงเยาวชนรุ่นใหญ่ หลังจากได้เขียนถึงเด็กเล็กๆ ในเรื่อง "เด็กน้อยกับการเจริญสติ" ไปแล้ว ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านค่ะ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่