จากคนรักมาเป็นศัตรู

จากคนรักมาเป็นศัตรู
            เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 5 ปีกว่า ผมโสด เพราะโดนแฟนเก่าที่รักกันมา ปีกว่า ทิ้งไปเพราะเขาคบซ้อน ผ่านสักระยะหนึ่งผมเริ่มทำใจได้ ผมจึงคิดจะเริ่มต้นชีวิตใหม่เลยเล่นแอพหาคู่แอพหนึ่งหวังหว่าจะเจอคนที่ใช่เพราะผมเป็นคนขี้อายไม่กล้าที่จะจีบใครซึ่งๆหน้า เพราะเคยเข้าไปจีบซึ่งๆหน้าแล้วถูกปฏิเสธเลยทำให้รู้สึกแย่สุดๆ จึงหาคู่ด้วยวิธีเล่นแอพ บีทอค ซึ่งตอนนั้นกำลังดังมาก มันให้เราได้รู้จักคนได้เยอะมาก แต่ก็ยังไม่เจอคนที่ใช่ เพราะผมเป็นเด็กต่างจังหวัดเลยชอบผู้หญิงบ้านๆเรียบร้อยไม่แต่งตัวจัด   จนวันนึงมาเจอนักศึกษาคนนึง เขาอยู่ปี 2 ดูเรียบร้อยมากดูเป็นเด็กบ้านๆผิวขาว และดูร่าเริงสดใสจากรูปที่เขาโพรสไว้ ผมรู้สึกชอบเขาตั้งแต่เห็นก็ได้ทักไปและรอคอยอย่างมีความหวังว่าเขาจะตอบกับ ใช่เขาตอบกับมา และที่มหาลัยเขากับที่ทำงานเราก็อยู่ติดกัน และ หอพักเขากับบ้านพักเราก็ไปทางเดียวกันและไม่ไกลกัน เราคุยตอนแรกเขาก็ยังไม่ได้ชอบเราหลอกเราจึงขอเจอตัวจริงเลยตอนนั้นเราคุยกันได้ประมาณ 3-4 วัน วันนั้นเป็นวันเสาร์เราก็เขาเวรอยู่จึงช่วนเขาออกมาเจอเขาก็กำลังหงุดหงิดทำการบ้านอยู่ ต่างคนต่างมาเหมือนตัดบทว่าถ้าใช่ก็คบไม่ใช่ก็แยกย้าย เรานัดเขาไปเจอห้างแถวที่พักซึ่งก็ไม่ไกลจากที่ทำงานเราและไม่ไกลจากหอพักเขา เราได้เจอกัน เจอเขาตัวจริงครั้งแรก เขาขาวมาก ใส่เสื้อยืดสีขาวถูกๆ กับกางเกงสีน้ำตาลขาสั้นตัวเก่าสีซีด มาแบบไทบ้านสุดๆ หน้าแต่งมาบางๆ  แบบสาวบ้านๆที่แต่งตัวไม่เป็นเลย ฟันเหยิน ด้วย เดินก็เสียบุคลิคมากชอบเดินก้มหลัง ด้วยการที่เราคุยกันมาแล้วเราเลยไม่เขินอายเท่าไหร่เวลาเจอกัน เหมือนคนที่รู้จักกันอยู่แล้ว ผมเลยชวนเธอไปทานไอติมสเวนเซ่นกัน และก็นังคุยกันว่าโอเคไหมเห็นตัวจริงแล้ว เขาก็บอกเราว่าตัวจริงเราดูดีกว่าในรูปอีก ถ่ายรูปไม่ขึ้นเลยนะ สวนเขาผมก็คิดว่าเขาน่ารักเหมือนที่ผมหวังไว้ ผมจึงขอเบอร์โทรศัพย์เขาไว้และถ่ายรูปคู่กัน 1 รูป และผมก็กลับมาทำงานเขาก็กลับหอพัก พอผมกลับมาถึงที่ทำงานก็รู้สึกกะวนกะวายใจมากว่าเขาชอบเราหรือป่าว หรือบล็อกเราไปแล้ว 555โคตรคิดมากเลยอ่ะ เลยทักไปว่าเย็นนี้ไปเที่ยวกันไหมมีงานกาชาด ที่พระบรมรูปทรงม้า เขาตอบตกลงจึงนัดเวลาไปหาเขาประมาณ 5 โมงเย็นเมื่อถึงเวลาเขาก็นังรถเมล์ไปรับเขาที่ป้ายรถเมล์หอพักเขา และเราก็นั่งรถเมล์ไปงานกาชาดด้วยกัน มันอาจจะเร็วไปแต่ผมก็ขอคบเขาที่งานกาชาด เขาตอบตกลงผมนี่ดีใจสุดๆไปเลย และเราก็ได้เดินจับมือกันเที่ยวงานกาชาด ตอนกลับผมก็ได้นั่งรถเมย์ไปส่งเขาและผมก็เห็นสร้อยคอที่เขาสวมเลยถามไปว่าใส่พระหลอปรากฏว่าไม่ใช่เป็นฟัน 1 ซี่ เขาบอกเป็นของยายที่เขารักมากได้เสียไปแล้ว  ผมคิดในใจว่าเขาเป็นคนที่จิตใจดีจริงๆเลย จะมีใครเคยเจอละผู้หญิงห้อยฟันยายไว้ที่คอ ผมได้มาทราบภายหลังว่าเขานั้นคิดว่าผมจะขับมอเตอร์ไซต์ไปรับเขามางานกาชาดซะอีก เพราะเขาอยากลองนั่งมอเตอร์ไซต์ ซ้อนท้ายเรา  และวันนั้นผมมีความสุขมากเลยนะมันคือวันที่ 5 เมษา ที่เราเริ่มคบกัน เราอายุห่างกัน 6 ปี หลังจากนั้นเราก็ได้เจอหน้ากันทุกวันเพราะที่ทำงานผมกับเขาติดกัน เขาเลิกเรียนเร็วเขาก้จะชอบไปนั่งเล่นกับเพื่อนที่สะพานพระราม 8 ผมก็จะตามไปหาเขา แต่เพื่อนเขาจะกลับไปก่อนกว่าผมจะไปถึง วันนึงผมได้นอนตักเขาและได้ฟังเขาร้องเพลงเขาร้องเพลงเพราะมาก ยังจำได้เลยเขาชอบร้องเพลง นึกเสียว่าสงสาร และผมได้ร้องเพลงนึงให้เขาฟัง เพลงพระจันทร์สีน้ำเงิน เขาชอบมากและก็ไปหาฟัง และก็ได้พูดคุยกันเรื่องนึงเรื่องการมีอะไรกัน เขาบอกเขาไม่เคยและบอกว่าจะไม่มีอะไรกันจนกว่าจะเรียนจบ ผมชอบความคิดเขานะ เพราะเขาไม่อยากทำให้แม่เสียใจเขาเป็นคนเชื่อฟังแม่มากแม่เขาไม่อยากให้มีแฟนด้วยซ้ำ แต่เธอก็มาคบกับผมจนได้โดยที่ก็กลัวแม่ว่าอยู่ตลอด หลังจากคบกันมาอาทิตย์กว่าเขาได้กลับบ้านต่างจังหวัดไป 1 อาทิตย์ ช่วงที่ไม่ได้เจอหน้ากันรู้สึกว่าคิดถึงมากเฝ้ารอที่จะเจอกัน เมื่อเขามาผมชวนเขามาที่บ้านพักผมวันนั้นเป็นวันเสร์ ใช่ผมชวนเธอมามีอะไรกันนี่แหละ วันนั้นเราไม่ได้มีอะไรกันแคร่สัมผัสกันแคร่นั้นมันก็รู้สึกดีมาก เขาก็มีความสุขที่ผมไม่ได้บังคับเขาที่จะมีอะไรกันให้ได้  วันต่อมาผมก็ชวนเขามาใหม่ผมยอมรับว่าผมเลวมากที่คิดจะเอาเขาให้ได้ เขาก็มาเราก็ทำกันเหมือนเมื่อวานผมก็พยามจะใส่เขาไปเขาก็ขัดขืนนิดหน่อย พอเสร็จเขาร้องให้ ผมรู้สุดว่ากุทำอะไรลงไป มันรู้สึกแย่มากๆเลยนะ ถึงจะไม่ได้ข่มขืนแต่ก็ทำให้เขาร้องให้ออกมาเพราะเขาตั้งใจจะไม่มีอะไรจนกว่าจะเรียนจบ ปละเขาก็ขอกลับห้องพักไปมันทำให้ผมรุ้สึกแย่แต่ผมก้รักเขามากยังไงผมก็รับผิดชอบทุกอย่าง ผมจึงไปซื้อนาฬิกา คาสิโอ พันกว่าบาทให้เขาเป็นของขวัญชิ้นแรก และเป็นการไถ่โทษ ถึงเขาจะรู้สึกโกรธผม แต่เขาก็ยังไม่ทิ้งผมไป และเราก็มาตกลงกันใหม่ว่า ปี นึงมีอะไรด้วยได้แคร่ 3 ครั้งผมก็เอาก็เอาว่ะ แต่มันก็ไม่เป็นเช่นนั้นหลอก ผมทำเธอให้ผู้หญิงบ้านๆคนนึงต้องมาเป็นเด็กโกหกแม่ว่าไม่เคยมีอะไรกันแคร่คบกันเฉยๆแม่เขาก็ให้เราสองคนเลิกคุยกันมาโดยตลอด กลับเพื่อนของเขาเขาก็ไม่กล้าบอกว่าตัวเองไม่บริสุทธิแล้วนะ เขาก็จะบอกกับทุกคนว่า เราตกลงกันไว้แล้วหลังเรียนจบถึงมีอะไรกันมาโดยตลอด มีแคร่คนเดียวที่รู้คือเมทของเขา ช่วงแรกนะเขาจะนับหมดเลยเราครบรอบ 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน อืมนับทุกเดือน มีเรื่อง 1 เขาเป็นคนที่มีกลิ่นปากคืมผมจะไม่กล้าจูบปากเขาเลยล่ะ  เพื่อนคนอื่นก็คงไม่กล้าจะบอกเขาแต่ผมรักเขาจุดไหนไม่ได้ผมก็จะบอกให้ปรับปรุงเขาไม่ชอบกินน้ำ มันเลยทำให้มีกลิ่นปากแต่สาเหตุจริงๆคือ เขาปล่อยให้ฟันผุจนเป็นโพลง ไม่กล้าไปหาหมอ  ดูคุณเธอทำไปได้ ผมก็เลยพาไปทำปรากฏว่าต้องอุดและรักษาลากฟัน 2 ซี่เลย ผมก็ช่วยจ่ายให้ครึ่งนึง เขาขอแม่มาครึ่งนึง และก็มาอีกเป็นหูดที่ใกล้ข้อพับแขนเป็นติ่งก็ปล่อยไว้ไม่ไปตัดติดผ้าเตปไว้ งงใจเธอจริงๆ ผมก็ต้องบอกให้ไปหาหมอเลยก่อนที่จะติดเชื่อในกระแสเลือด เขาจึงไปตัดออก
                 เริ่มนอกในผมครั้งแรก หลังจากคบกันมาได้ปีกว่าช่วงปิดเทรอมเขาก็ไปหารายได้พิเศษทำกับเพื่อนแถวนครปฐม ผมก็ว่าดีนะมาเจอกันทุกวันเสาร์อาทิตย์ และเขาก็จะได้มีตังไว้ใช้ด้วย แต่ปรากฏว่า มีทอมมาจีบ และเขาก็ดันมีใจให้ทอม พอผมรู้ผมโกรธมากเลยว่าทำไมทำแบบนี้ ผมอยากเลิกเลยนะตอนนั้นเพราะเธอไม่สื่อสัตย์กับผมเลย แต่เธอก็รีบกลับมาหาผมและขอโทษเขาไม่ได้ไปมีอะไรกับทอมคนนั้น มากสุดก็แคร่จับมือ หอมแกล้ม ผมเป็นคนใจอ่อนให้อภัยง่ายมากและเห็นว่าเขารู้สึกผิดจริงๆ และเขากลับมาผมก็ดีใจแล้วและไม่ถือสาอีก และเราก็รักกันดีมาตลอด ไม่เคยทะเลาะกันเลยถ้าไม่มีเรื่องนอกใจกัน  หลังจากนั้นเริ่มเข้าปีที่ 3 ที่เราคบกันเข้าเขาเรียนครู ถึงเวลาต้องไปฝึกสอน เขาต้องย้ายที่อยู่เพื่อไปให้ทันเข้าโรงเรียน ผมก็พาไปหาที่อยู่ให้เขาแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ จึงชวนมาอยู่บ้านด้วยกันเพราะผมเช่าบ้านอยู่ ห้องก็ยังเหลือให้เมทมาอยู่ด้วยได้ จึงเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่กันครั้งแรกเราเข้ากันได้ดีเลยดีกว่าเทียวไปเทียวมาซะอีก เราก็เริ่มมองอนาคตด้วยกันแล้ว ผมก็คิดว่าจะออกรถยนต์ไว้พาเขาไปเที่ยวไหนมาไหนไกลๆได้ นั้งแต่มอเตอร์ไซต์ก็ไปได้ไม่ไกล แต่ผมก็ไม่ค่อยได้ผาเขาไปไหนหลอกเพราะผมทำงานทุกวันไม่มีวันหยุดเลย พาไปก็แต่ตลาดนัดกลางคืน เขาก็ไม่ได้เรียกร้องให้พาไปไหนด้วยแต่ตอนนี้เขามีรถยนต์ไว้ในหัวเรียบร้อยแล้วโดยที่ผมไม่รู้ว่าจะทำได้ไหม ต่อมาช่วงปิดเทรอมเขาก็กลับบ้าน ก็ไปเที่ยวกับเพื่อนก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไร เมื่อกับมาหาผมแต่ดันมีโทรศัพย์ปศินาโทรเข้ามา เขาก็แอบขึ้นไปคุยชั้นสองของบ้านเป็นห้องเปล่าๆ ผมก็ตามไปแอบฟังว่าคุยกับใครทำไมต้องแอบ ผมจึงเขาไปคาดครั้นถามว่าคุยกับใครจนในที่สุดก็บอกว่าเพื่อนสมัยมัธยม เจอตอนกลับบ้านโทรมาจีบ นี่เป็นอีกครั้งที่ผมเสียใจมากว่าทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ เขาร้องไห้บอกจะเลิกกับผมและผมก็ได้ดึงแขนเขาให้ลงมาชั้นล่างให้มาคุยกันผมบังคับเขาใช่ไหมแบบนี้ เขาก็ไม่คุย ผมจึงเงียบไม่พูดด้วย 3 วัน บรรยากาศในบ้านแบบอึดอันสุดๆ และเขาก็ไม่ได้ไปคุยอีก ผมจึงคิดว่าชั่งมันเถอะยังไงเขาก็อยู่กับเรา และเราก็รักเขามาก ตอนนั้นโทรศัพย์เขาแบตเสื่อมสุดๆ แทบจะต้องชาจน์ตลอดเวลาผมจึงไปซื้อโทรศัพย์ ให้เขาและเป็นวันเกิดเขาด้วยพอดี  และตั้งวางไว้ให้พอเขากลับเข้ามาผมก็แอดดูจากล่องประตูทำที่ว่าผมไม่ได้อยู่บ้าน  พอเขาเดินมาเห็นกับเมทของเขา และก็พูดว่าเขารู้สึกไม่ดีเลยที่ไปแอบคุยกับคนอื่นผมรู้สึกยิ้นเฉยที่เขารู้ตัวว่าเขาได้ทำผิดกับผม และเราก็คืนดีกันและมีความสุขเหมือนเดิม และต่อมาเธอก็อยากจัดฟันผมก็เห็นว่าก็ควรจัด ก็เลยพาไปจัดและก็เงินผมอีกนั้นแหละ ที่ต้องดูและเขาเพราะเขายังไม่มีงานทำ ผมก็หวังมาตลอดว่าเดี๋ยวก็จบแล้วเขาเป็นครูได้เราก็สบายไปด้วยก็คิดแบบนั้นมาตลอด 
          หนังจากนั้นผมก็ไปบวช 15 วัน เขาก็ไปงานบวชของผม เขาตามไปทีหลังกลับน้องสาวและแม่ของผม แต่คืนก่อนที่จะมาได้เกิดเหตุการณ์ขึ้น ตอนเขาไปเตรียมตัวรอที่จะมาที่ห้องแม่ผม ก็ได้มีการพูดคุยกันว่าอะไรไม่รู้แต่ดันรามไปถึงแฟนเก่าผมซึ่งแม่ก็พูดว่าแฟนเก่าผมเขานิสัยดีและก็รวยด้วย แคร่นั้นแหละ เธอร้องไห้หนักมาก และก็เกือบจะไม่มางานบวชผมน้อยใจที่แม่พูดแบบนั้น เขาได้พูดกับแม่ผมว่า หนูไม่ได้ดีเท่าแฟนเก่าผมนิ แม่ถึงไม่รักหนู โอ้โห่น้องผมกับแม่ต้องปลอบเธอกันใหญ่เลยแต่สุดท้ายก็มา   ต่อมาเขาก็เรียนจบเตรียมสอบครูผู้ช่วย ช่วงนั้นแม่เขาก็หมดเงินจะส่งเสียเขาแล้วเขาก็อยากจะไปหางานทำเพราะกว่าจะสอบก็อีก 6 เดือนเลย ผมเลยบอกว่าไม่ได้ไปทำหลอกอยู่บ้านอ่านหนังสือให้สอบได้จะดีกว่า มั่วแต่ทำงานเดี๋ยวก็สอบไม่ติดเพราะไม่มีเวลาอ่านหนังสือ ส่วนรายจ่ายผมจะดูแลเอง ผมไม่ได้รวยอะไรเลยนะเงินเดือนก็ สองหมื่นกว่าบาท ตั้งแต่ครบกันมาก็เดือนชนเดือนมาตลอด เขาก็ไม่ใช่คนติดแบนอะไรเป็นเด็กบ้านๆแต่ผมก็อยากให้เขาดูดีขึ้น ก็ชอบซื้อครีมหักพันมาให้เขาใช้เพราะเขาใช่ครีมกับเครื่องสำอางตลาดนัดผมว่ามันไม่โอเคเลย ตั้งแต่เขาคบกับผมมาเขาดูดีขึ้นสวยขึ้นจากเด็กบ้านๆก็ดูเปลี่ยนไป จนใครๆก็คิดว่าไปศัลยกรรมมารึป่าวจริงๆแคร่จัดฟันและผิวพันดูดีขึ้นกว่าเดิมและการแต่งตัวที่ผมจะเป็นคนบอกว่าอันนี้เหมาะไม่เหมาะกับเขา สิ่งที่เขาชอบจะไม่ได้เหมาะอะไรกับเขาเลยล่ะ  และเมื่อเวลาสอบมาถึงผมให้เขาเรือกสอบในเขต กทม และเขาสอบผ่าน ในระดับต้นๆ เลยเพราะเขาเป็นคนเรียนเก่ง ด้วยได้เกียรตินิยมอันดับสองเลยนะ คบกับผม ผมไม่เคยทำให้เขาตกต่ำลงเลยมีแต่ดีขึ้น เท่าที่ผมจะทำให้เขาได้อะนะ ถึงเวลาเลือกโรงเรียนผมก็ช่วยเลือก ผมก็จะดูว่ารงเรียนเขากลับที่ทำงานผมมันต้องเดินทางได้ เพราะผมคิดจะย้ายตามไปอยู่ใกล้โรงเรียนเขาเขาจะได้เดินทางได้สะดวก แต่ผมก็ต้องเดินทางมาทำงานได้ด้วย ถึงเขาจะบอกไม่ให้ผมย้ายตามมาก็เถอะเจอกันช่วงวันหยุดก็พอ สุดท้ายก็เลือกโรงเรียนย่านบางนา มันเป็นโรงเรียนขนาดไม่ใหญ่แต่จพนวนเด็กก็เยอะเหมือนกันคงจะโอเคแหละเพราะไปถึงหน้าโรงเรียนเจอต้นไม้ใหญ่หน้าโรงเรียนไปจอดรถพักกันตอนไปดูสถานที่แล้วเห็นตรงกันว่ารู้สึกร่มรื่นน่าอยู่ จึงได้เลือกที่นี่
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่