เลิกหลอกตนประตูก็จะเปิดออก...สายชล

“เลิกหลอกตัวเองได้เมื่อไหร่...ความจริงก็จะค่อยๆเปิดออก”

ผมได้ดูเรื่องของ “พุทธวจน” ซึ่งเป็นการสอนที่เน้นเหลือเกินในตัวอักษร และคำสอนที่อ้างว่ามาจากพระพุทธเจ้าคนที่ตายไปแล้วของพวกเขา...อยากถามท่านว่ารู้ได้อย่างไรนั่นเป็นคำสอนที่ไม่ใช่คนแต่งที่เป็นขอทานสักคนหนึ่งหลอกท่าน? ท่านจะยืนยันได้อย่างไรแท้จริง? ผ่านกระดาษที่มีประวัติที่นึกคิดกันไปเองอย่างนั้นจริงหรือ ถามท่านๆจริงว่าในชีวิตจริงของท่านพัฒนาจิตวิญญาณอะไรแท้จริงได้บ้าง? ถามจริงๆว่าท่านใช้มันได้จริงหรือป่าว? หรือเพียงติดแต่เพิ่มศรัทธาแก่อัตตาไปเรื่อยๆ แล้วก็อ้างว่าฉันรู้ ฉันเข้าใจทุกสิ่ง...แล้วก็ไปนั่งหลงทางเหมือนเดิมในชีวิตจริง

       เมื่อท่านยอมว่าตัวเองไม่รู้อะไร,ฉันว่างเปล่า,ฉันเพียงแต่ถูกทำให้เหมือนเด็กท่อง ก ข ค เมื่อนั้นท่านจะใกล้ความจริงที่เป็นสัจจะ!...มีคนประสาทเกิดขึ้นมากมายจากการท่องจำ ซึ่งเห็นได้บ่อยๆเช่น ฉันบรรลุขั้นนี้ ฉันบรรลุขั้นนู้น นั่นคือการที่พอพบสภาวะอะไรที่เกิดจาก “ประสบการณ์นิดหน่อย” มันไปผนวกกับอัตตาแลความรู้ตัวอักษรที่เคยท่องมา จึงทำผลเกิดออกมาเป็นโรคประสาทเช่นนั้น

        การบรรลุจะมีได้อย่างไร ก็ในเมื่อ “สัจจะหรือตัวพุทธะ” มันอยู่ในตัวทุกๆคนอยู่แล้ว “มีเพียงแต่เมื่อถึงเวลาที่ท่านทำได้ถูกต้อง” อยู่ในปัจจุบัน แล้วมันก็จะปรากฏออกเอง...เรื่องของอุดมการณ์โพธิสัตว์ หรือแนวคิดร้อยแปดที่ดูเหนือกว่าคนธรรมดานั้น “เป็นเรื่องเอาไว้หลอกคนที่ยังไม่ค้นพบ!” เพื่อที่อย่างน้อยท่านที่ติดอยู่ขั้นศรัทธา ท่านก็ยังถูกจูงไปในทางดีหน่อยไม่เป็นอันตรายมากกว่าที่จะปล่อยให้คิดเอง แต่มันก็ยังติดอยู่ในขั้นดี-ชั่ว สภาวะคู่อยู่นั่นเอง...
        
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่