จากข่าวที่มีผู้ชายคนหนึ่งกินบุฟเฟ่ร้านดัง "ชาบูนางใน" มันสื่อถึงจิตสำนึกและมารยาทของการทานบุฟเฟ่์ต์นะ

คนไทย "บางส่วน" ถ้าเห็นคำว่าบุฟเฟ่ต์คิดก่อนเลยว่า "ต้องกินให้คุ้มกินให้เยอะ กินให้ได้มากที่สุดและยิ่งถ้ามีของแพง เช่น กุ้ง เนื้อ  ก็ต้องกินตุนไว้เยอะ "
แต่ต่างชาติเค้าไม่คิดแบบนี้นะ  เช่น ญี่ปุ่น ไม่มีคำว่า "กินไม่คุ้ม กินให้สะใจ " ไม่มีนะ เท่าที่รู้จักเพื่อนคนญี่ปุ่น หรือชาติอื่นๆ  
ร้าน

ชาบูนางใน เค้าก็มีมานานแล้วคนก็เยอะ แต่...ก็เห็นคนอื่นเค้าก็ปฎิบัติตามกฎนะ และมีมารยาทในการทานนะ  จะมาร้องเรียกสิทธิ์ว่า "ร้านไม่มีกฎหรือห้ามให้กินอะไรบางอย่าง "เยอะ ๆ "  ถ้าจะบอกว่าข่าว จนท.คิดเงินเพิ่ม  อืม......เราก็ควรคิดนะ หรือ "ไม่มีเงิน"  จริง ๆ คิดเพิ่มก็จ่าย ๆ ไปนะ ไม่ยากหรอกนะ 
ควรคิดถึงเหตุผลด้วยจริงมะ 

อย่าคิดแต่ว่า "กินให้เยอะ กินให้คุ้ม " เค้าไม่กำหนดเวลาก็ดีละนะ ยังจะเรื่องมากอีกเนอะ 

คนเราก็แปลก มีมารยาทในการร่วมรับประทานอาหารแบบบุฟเฟต์บ้างก็ดี หรือควรหัดไปศึกษาดี ๆ นะ อย่าให้ต่างชาติเค้ามาเมืองไทยแล้วเห็นคนไทย (บางคน บางกลุ่ม ) ตักอาหารแบบประมาณว่าจะกินเผื่อปีหน้าเลย    ก็อายอยู่นะ แต่กับบางคนคงไม่อายหรอกผมว่า  เงินตรู เงินฉัน จะทำไม 

ก็คิดซะแบบนี้ไง  สังคมถึงแปลกแยก  แบ่งกลุ่ม 

และยังไปโพสต์ตำหนิร้านอีกนอะ  มันส่อว่าคุณคือคนที่ "ตะกละ"    ก็แค่นั้นเอง  แล้วยังมาบอกอีกว่าจะไม่ไปกินแล้ว   ถ้าผมเป็นร้านชาบู ผมก็จะยินดีเลยครับ เชิญ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เกี่ยวอะไรกับมารยาท ในเมื่อไม่ได้ทำนอกกติกาของร้าน
เห็นทุกร้านก็บอกว่ากินไม่อั้นกันหมด ลูกค้าก็ทำตามกติกาแล้ว ใจไม่ถึงอย่าเปิดร้านแนวนี้ดีกว่าไหม
ความคิดเห็นที่ 9
สังคมที่พัฒนาแล้วเขาให้ความสำคัญกับ ความถูกต้อง กฎระเบียบ และสิทธิ ไม่ใช่มารยาท จะเห็นได้ว่าฝรั่งหลายคนอาจมีท่าทีรุนแรง ไม่เกรงใจ กับคนที่ไม่เคารพ/ละเมิด กฎระเบียบ กฎหมาย และสิทธิของคนอื่น เพราะเขากำลังปกป้องความถูกต้อง สมกับเป็นคนไทยจริง ๆ เอาเรื่องมารยาทนำความถูกต้อง อยู่กันแบบนี้ สังคมถึงบิดเบี้ยวกันไปหมด

1. ลูกค้าไม่ได้ทำผิดกฎหมายหรือกฎของร้าน เพราะฉะนั้น ร้านไม่มีสิทธิเรียกเงินเพิ่ม
2. สิ่งที่ร้านกำลังจะทำ คือ การเรียกเงินเพิ่ม มันผิดกฎหมาย เพราะไม่ได้ระบุเอาไว้ให้ลูกค้าทราบก่อน ตรงนี้ถ้าลูกค้าจ่ายเพิ่มไปแล้ว ร้อง สคบ. คงหลุดยาก
3. ถ้าต้องการลดต้นทุน หรือควบคุมค่าใช้จ่าย มันมีหลายวิธีอีกมากที่สามารถดำเนินการได้ โดยไม่ต้องปะทะ หรือข่มขู่ลูกค้าแบบนี้
4. สมัยนี้ การสื่อสารไปไวมาก การขาดการยับยั้งชั่งใจ และการขาดวุฒิภาวะ ของผู้ประกอบการ อาจเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว จนทุบหม้อข้าวตนเองได้
ความคิดเห็นที่ 13
ทำไมถึงคิดว่าเขา "ตะกละ" ล่ะ
ที่ดูในข่าวนี่คือเป็น ผช.ตัวโตเลยนะ
แล้วสมมติว่าเขาชอบกินแต่เนื้อ ไม่ชอบกินผัก สมมติอีกทีว่าเขากิน IF แบบกินแค่วันละ 1- 2 มื้อ
ในเมื่อเขาเลือกเดินเข้าร้านที่ตอบสนองต่อความต้องการของตัวเอง
กติกาของบุฟเฟต์ ไม่ว่าร้านนี้หรือร้านไหนๆก็ทราบกันเป็นสากลว่ากินไม่อั้น
แล้วร้านจะมาเปลี่ยนกฏเฉพาะกับลูกค้าแบบนี้ มันแฟร์กับลูกค้าหรือคะ
(ทราบนะคะว่าจะเปลี่ยนคราวหน้า แต่เดินไปบอกกับลูกค้าแบบนี้มันคือจงใจตำหนิลูกค้านั่นแหละ)

กินบุฟเฟต์แบบไร้มารยาทสำหรับเรานะ
- กินเหลือ
- ตักของที่มีจำกัดจนหมด
ร้านที่ดีควรมีให้ตักตลอดแต่บางอย่างจะจำกัดด้วยการออกเป็นรอบ บางคนตักจนหมดทั้งถาดในรอบนั้นเลย
ความคิดเห็นที่ 10
ตัวคุณเองผมมองว่ายังหลงประเด็นอยู่เลยนะครับ
ไม่เกี่ยวกับวัฒนธรรม  จิตสำนึก มารยาท การกินบุฟเฟ่ต์ ของแต่ละประเทศซักนิดเลย

กฎ กติกาของทางร้าน ระบุไว้แบบไหน ลูกค้าปฎิบัติตามกฎและกติกาของร้านหรือเปล่า แค่นั้นครับ
ความคิดเห็นที่ 7
กระทู้ล่อเป้า👍
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่