https://twcbgh15.blogspot.com/
ในขณะที่ทั่วโลกกำลังพัฒนาวัคซีน covid 19 อย่างเร่งรีบให้ทันกับการแก้ปัญหาโรคระบาดที่ลุกลามไปทั่วโลก..จากขั้นตอนตามปกติพี่ต้องใช้เวลาพัฒนาวัคซีน 10 ถึง 15 ปีอย่างน้อย..เหลือเพียงเวลาไม่ถึง1-2 ปี ทำให้น่าสงสัยว่าวัคซีนที่ผลิตได้จะเป็น ความหวังของทางรอด หรือ มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนของวัคซีน
https://www.gao.gov/products/GAO-20-583SP
วัคซีนที่ใช้วิธีการรูปแบบที่ใช้ในการผลิต เหมือนพวก Influenza Vaccine,(เป็นRNA virusเหมือนกัน)คงหวังผลประสิทธิภาพดีกว่าเดิมได้ยาก สักประมาณ 40 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์คือ 50 50 มีโอกาสเป็นหลังฉีดแต่อาการอาจจะไม่รุนแรงในคนที่แข็งแรงนะครับ
แต่เนื่องจากระยะเวลาอันสั้นในการวิจัยค้นคว้าที่เร่งการทดลองให้เร็วเกินไปสิ่งที่ตามมาคือความปลอดภัยอาจจะน้อยลง..เพราะว่าระยะเวลาในการสังเกตการณ์ทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการทดลองphase3 (ทดลองในคนจำนวนมาก หลายพันคน) ปกติใช้เวลาตรวจสอบประสิทธิภาพ ดูอาการผลข้างเคียงกันหลายปี..เมื่อแน่ใจแล้วจึงส่งให้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ตรวจสอบ และรับรอง จึงเข้าสู่กระบวนการผลิตออกสู่ตลาดได้
https://www.gsk.com/en-gb/research-and-development/development/how-we-develop-new-vaccines/
โอกาสที่จะลดเวลาในการวิจัยค้นคว้าผลิตวัคซีนใหม่ๆสามารถทำได้
1.เทคโนโลยีใหม่ๆที่เราสามารถค้นหาคัดแยกพันธุกรรมของเชื้อไวรัส หาชื้นสวนในเซลล์ที่เป็นเป้าหมายนำไปผลิตวัคซีนได้รวดเร็วขึ้น
2.ความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ,เอกชน บริษัทยาลดขั้นตอนเวลาต่างๆลงได้
3.กระบวนการผลิตวัคซีนหลายรูปแบบที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ประสบความสำเร็จเร็วขึ้น
ปัญหาที่ตามมาที่อาจเป็นไปได้ก็มีครับ
1.การกลายพันธุ์ของไวรัสที่อาจจะทำให้ประสิทธิภาพวัคซีนลดลงได้
2.ความเสี่ยงต่อผลแทรกซ้อนจากการฉีดวัคซีนเนื่องจากระยะเวลาในการตรวจสอบเฝ้าระวังดูอาการของกลุ่มคนที่ทดลองวัคซีนในเฟส 3 สั้นลง
3.ขั้นตอนการผลิตจำนวนมหาศาลที่ต้องใช้ทรัพยากรอย่างมากมายอาจจะไม่เพียงพอในระยะเวลาอันสั้น
มีตัวอย่างเช่น วัคซีนไข้เลือดออก ที่ผ่านกระบวนการต่างๆทุกขั้นตอนตามมาตรฐาน..จนWHOยอมรับแล้วออกมาขายในตลาดทั่วโลก..ปรากฏว่าที่ประเทศฟิลิปปินส์สั่งซื้อเป็นจำนวนมากเพื่อฉีดในเด็กทั้งประเทศยังต้องระงับเข็มที่ 3 ไว้เนื่องจากมีรายงานความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้น
ทางที่ดีหลังจากวัคซีน covid 19 ออกสู่ท้องตลาด ฉีดให้คนทั่วไปได้แล้ว. รอให้ปท.อื่นๆทดลองฉึด.(คิดว่าเป็น Extended Phase3 ละกัน)...ดูผลที่ตามมาก่อน อย่างน้อย 1 ปีถ้าแน่ใจเรื่องความปลอดภัยแล้วค่อยฉีดจะดีกว่าครับ (เป็นความเห็นส่วนตัวครับ)
Teddy Lim
10/9/2020
วัคซีน covid 19 ความหวังของทางรอด หรือความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน
ในขณะที่ทั่วโลกกำลังพัฒนาวัคซีน covid 19 อย่างเร่งรีบให้ทันกับการแก้ปัญหาโรคระบาดที่ลุกลามไปทั่วโลก..จากขั้นตอนตามปกติพี่ต้องใช้เวลาพัฒนาวัคซีน 10 ถึง 15 ปีอย่างน้อย..เหลือเพียงเวลาไม่ถึง1-2 ปี ทำให้น่าสงสัยว่าวัคซีนที่ผลิตได้จะเป็น ความหวังของทางรอด หรือ มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนของวัคซีน
https://www.gao.gov/products/GAO-20-583SP
วัคซีนที่ใช้วิธีการรูปแบบที่ใช้ในการผลิต เหมือนพวก Influenza Vaccine,(เป็นRNA virusเหมือนกัน)คงหวังผลประสิทธิภาพดีกว่าเดิมได้ยาก สักประมาณ 40 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์คือ 50 50 มีโอกาสเป็นหลังฉีดแต่อาการอาจจะไม่รุนแรงในคนที่แข็งแรงนะครับ
แต่เนื่องจากระยะเวลาอันสั้นในการวิจัยค้นคว้าที่เร่งการทดลองให้เร็วเกินไปสิ่งที่ตามมาคือความปลอดภัยอาจจะน้อยลง..เพราะว่าระยะเวลาในการสังเกตการณ์ทั้งประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการทดลองphase3 (ทดลองในคนจำนวนมาก หลายพันคน) ปกติใช้เวลาตรวจสอบประสิทธิภาพ ดูอาการผลข้างเคียงกันหลายปี..เมื่อแน่ใจแล้วจึงส่งให้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ตรวจสอบ และรับรอง จึงเข้าสู่กระบวนการผลิตออกสู่ตลาดได้
https://www.gsk.com/en-gb/research-and-development/development/how-we-develop-new-vaccines/
โอกาสที่จะลดเวลาในการวิจัยค้นคว้าผลิตวัคซีนใหม่ๆสามารถทำได้
1.เทคโนโลยีใหม่ๆที่เราสามารถค้นหาคัดแยกพันธุกรรมของเชื้อไวรัส หาชื้นสวนในเซลล์ที่เป็นเป้าหมายนำไปผลิตวัคซีนได้รวดเร็วขึ้น
2.ความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ,เอกชน บริษัทยาลดขั้นตอนเวลาต่างๆลงได้
3.กระบวนการผลิตวัคซีนหลายรูปแบบที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ประสบความสำเร็จเร็วขึ้น
ปัญหาที่ตามมาที่อาจเป็นไปได้ก็มีครับ
1.การกลายพันธุ์ของไวรัสที่อาจจะทำให้ประสิทธิภาพวัคซีนลดลงได้
2.ความเสี่ยงต่อผลแทรกซ้อนจากการฉีดวัคซีนเนื่องจากระยะเวลาในการตรวจสอบเฝ้าระวังดูอาการของกลุ่มคนที่ทดลองวัคซีนในเฟส 3 สั้นลง
3.ขั้นตอนการผลิตจำนวนมหาศาลที่ต้องใช้ทรัพยากรอย่างมากมายอาจจะไม่เพียงพอในระยะเวลาอันสั้น
มีตัวอย่างเช่น วัคซีนไข้เลือดออก ที่ผ่านกระบวนการต่างๆทุกขั้นตอนตามมาตรฐาน..จนWHOยอมรับแล้วออกมาขายในตลาดทั่วโลก..ปรากฏว่าที่ประเทศฟิลิปปินส์สั่งซื้อเป็นจำนวนมากเพื่อฉีดในเด็กทั้งประเทศยังต้องระงับเข็มที่ 3 ไว้เนื่องจากมีรายงานความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้น
ทางที่ดีหลังจากวัคซีน covid 19 ออกสู่ท้องตลาด ฉีดให้คนทั่วไปได้แล้ว. รอให้ปท.อื่นๆทดลองฉึด.(คิดว่าเป็น Extended Phase3 ละกัน)...ดูผลที่ตามมาก่อน อย่างน้อย 1 ปีถ้าแน่ใจเรื่องความปลอดภัยแล้วค่อยฉีดจะดีกว่าครับ (เป็นความเห็นส่วนตัวครับ)
Teddy Lim
10/9/2020