ช่วงนี้ห่างหายจากการออกทริปเที่ยวต่างจังหวัดไปนาน เพราะ COVID-19
และเพราะว่าดูรายการโตแล้ว...เที่ยวสังขละ [EP.138] เป็นเหตุ
พอสถานการณ์เริ่มดีขึ้น บวกกับมีเวลาว่าง 2 วัน ( 6-7/09/2020 )
เราเลยนึกถึงที่ที่นึงเป็นที่แรก นั่นก็คือ!!!
" สังขละบุรี SANGKHLABURI "
หมู่บ้านน่ารัก ชุมชนมอญเล็กๆ ให้ความรู้สึกถึงความเรียบง่าย และเงียบสงบ
ที่ที่เราลิสต์รายการไว้ว่าจะต้องหาเวลาไปเยือนซักครั้งให้จงได้
🚗ครั้งนี้เราเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
📍จากกรุงเทพ-สังขละบุรี ระยะทางประมาณ 339 กม.
🕑ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชม. 45 นาที
📍แนะนำสิ่งที่ต้องลองทำเมื่อไป "สังขละบุรี"
ระหว่างทางไป
▼ 1 : ต้องไปแวะเดินเล่นบนรางรถไฟที่
สะพานข้ามแม่น้ำแคว พร้อมกับถ่ายรูปสวยๆ ที่จุดชมวิวแม่น้ำแคว มีระยะทางเดินราวๆ 300 เมตร ทางการรถไฟไทยอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินบนรางรถไฟ แต่ต้องระวังสัญญาณรถไฟผ่านมา เพราะที่นี่ยังมีรถไฟสัญจรเป็นปกติทุกวันนะ
เรามาถึงที่สังขละบุรี 13.00 น.พอดี อากาศกำลังดี ไม่ร้อนมาก เพราะฝนกำลังตกนิดหน่อย
2 ฝั่งของสะพานจะเรียกว่า ฝั่งไทย กับ ฝั่งมอญ ที่พักที่เราเลือกจะอยู่ฝั่งมอญ
จองไว้ที่ บ้านสวนลุงป้อม ราคา 1,000 บาท / คืน (อยู่ห่างจากสะพานมอญ แค่ 20 เมตร) เอง
▼ 2 : ต้องไปเดินเล่นที่
สะพานมอญ สังขละบุรี แวะทักทายกับเด็กๆ ชาวมอญ น่ารักๆ
สะพานมอญ หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเลียไปยังหมู่บ้านมอญ
ถือเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นไฮไลท์ เป็นเอกลักษณ์ของสังขละบุรี
ซึ่งจะมีน้องๆ เด็กๆ คอยปะแป้งให้เรา แนะนำให้ลองปะแป้งทานาคาหอมๆ ส่วนค่าบริการก็แล้วแต่จะให้น้องๆ เลย
▼ 3 : ต้องไป
ล่องเรือชมวัดใต้น้ำ เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ประจำเมืองสังขละบุรี
วัดเก่าทั้ง 3 ประกอบด้วย วัดจมน้ำ หรือ วัดวังก์วิเวการามเดิม , วัดสมเด็จ และวัดศรีสุวรรณ
เนื่องจากการไฟฟ้า มีโครงการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า
เมื่อเก็บกักน้ำหลังเขื่อนแล้ว ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจนท่วมตัวอำเภอเก่า หมู่บ้านชาวมอญ
รวมถึงวัดทั้ง 3 ทางการจึงได้ อพยพชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ออกจากบริเวณที่น้ำท่วม
และย้ายวัดทั้ง 3 มาอยู่บนเนินเขา บริเวณวัดเดิม ถูกปล่อยให้จมอยู่ใต้น้ำ
เป็นที่รู้จักกันในนามของ "วัดใต้น้ำ" หรือ เมืองบาดาล
และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในแบบ Unseen Thailand"
ถ้ามาถึงแล้วไม่ควรพลาดกิจกรรมนี้ สามารถเดินเลือกได้เลยว่าจะนั่งเรือหางยาวไปกับพี่คนไหน
เราตกลงไปในราคา 350 บาท แบบเหมาลำนั่งไปกัน 2 คน
จุดแรกที่แวะ คือ วัดวังก์วิเวการาม (เก่า) หรือเมืองบาดาล
เป็นวัดเก่าที่หลวงพ่ออุตตมะสร้างขึ้น ก่อนจะจมอยู่ใต้ผืนน้ำในเขื่อน
แต่ก็จะโผล่ขึ้นมาให้เห็นในช่วงหน้าแล้งของทุกปี
ซากที่ยังคงหลงเหลือให้เห็นอยู่ก็คือ พระอุโบสถหลังเก่า กุฏิของหลวงพ่ออุตตมะ และหอระฆัง
จุดที่สองที่แวะ คือ วัดสมเด็จ (เก่า) ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเมืองบาดาล เป็นอุโบสถของวัดสมเด็จ (เก่า) ที่ถูกทิ้งร้าง
วัดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ ไม่ได้จมอยู่ใต้น้ำ ภายในอุโบสถมีพระประธานสภาพยังค่อนข้างสมบูรณ์
จุดที่สาม จุดสุดท้าย คือ วัดศรีสุวรรณ (เก่า) โบสถ์จมน้ำ
มาครั้งนี้โชคดีที่น้ำลดลงมากเลยมีโอกาสเดินเข้าไปได้ เพราะถ้าน้ำมากน้ำจะมิดโบสถ์เลย
ทั้ง 3 วัด เป็นเหมือนตัวแทนของ 3 ชนชาติ 1.วัดวังก์วิเวการาม คือ วัดของชาวมอญ
2.วัดสมเด็จ คือ วัดของชาวไทย และ 3.วัดศรีสุวรรณ คือ วัดของชาวกระเหรี่ยง
ตอนกลับเข้าฝั่ง สามารถบอกให้พี่คนขับเรือส่งฝั่งไทยหรือฝั่งมอญก็ได้นะ จะได้ไม่ต้องเดินข้ามฝั่งอีก
▼ 4 : ต้องลองกิน
หมูจุ่มพม่า มาที่นี่แล้วไม่ได้ลอง หมูจิ้มจุ่ม ถือว่ามาไม่ถึงนะ
เป็นหมูและเครื่องในต่างๆ ที่ต้มพร้อมเครื่องหอมๆ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เสียบไม้แหลม
วางไว้ให้เราเลือกหยิบทานได้ ไม้ละ 1 บาทเท่านั้นรสชาดประมาณหมูตุ๋น หอมๆ หวานๆ
กินเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ แถมด้วยลอง ยำหัวหมูมอญ/ยำพม่า ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ด้วยนะ รับรองว่าอร่อยสุด
ขนมเบื้องมอญ สุดอร่อย ถ้าดูในรายการโตแล้ว จะต้องร้องอ๋อเลยหล่ะกับร้านนี้
การสั่งจะมี 2 แบบให้เลือกนะ แบบธรรมดา 3 ชิ้น 20.- กับแบบใส่ไข่ ชิ้นละ 10.-
▼ 5 : ต้องตื่นเช้าๆ รับอากาศสดชื่น เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการ
ตักบาตรมอญ
ถือเป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวบ้านที่นี่เลยนะ ทุกเช้าเวลาประมาณ 06.30 น.
จะเห็นชาวบ้านรอใส่บาตรพระสงฆ์ แต่ช่วงนี้จะใส่บาตรตามซอยหน้าที่พัก ไม่ได้ใส่บาตรบนสะพานไม้แล้ว
ก่อนหน้านี้เราได้ไปจองชุดตักบาตรไว้แล้วกับพี่เจ้าของที่พัก
ราคาชุดละ 99.- ใน 1 Set จะมีชุดตักบาตร + ชุดมอญ (สามารถเลือกแบบ สี ได้ตามใจชอบ)
ตักบาตรเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาเดินเล่นหาอะไรกินเป็นมื้อเช้าสักหน่อย
[CR] SANGKHLABURI สังขละบุรี : Road Trip #ขับรถเที่ยว กาญจน์ เถอะ
ระหว่างทางไป
▼ 1 : ต้องไปแวะเดินเล่นบนรางรถไฟที่ สะพานข้ามแม่น้ำแคว พร้อมกับถ่ายรูปสวยๆ ที่จุดชมวิวแม่น้ำแคว มีระยะทางเดินราวๆ 300 เมตร ทางการรถไฟไทยอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินบนรางรถไฟ แต่ต้องระวังสัญญาณรถไฟผ่านมา เพราะที่นี่ยังมีรถไฟสัญจรเป็นปกติทุกวันนะ
สะพานมอญ หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเลียไปยังหมู่บ้านมอญ
ถือเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นไฮไลท์ เป็นเอกลักษณ์ของสังขละบุรี
ซึ่งจะมีน้องๆ เด็กๆ คอยปะแป้งให้เรา แนะนำให้ลองปะแป้งทานาคาหอมๆ ส่วนค่าบริการก็แล้วแต่จะให้น้องๆ เลย
วัดเก่าทั้ง 3 ประกอบด้วย วัดจมน้ำ หรือ วัดวังก์วิเวการามเดิม , วัดสมเด็จ และวัดศรีสุวรรณ
เนื่องจากการไฟฟ้า มีโครงการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์เพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า
เมื่อเก็บกักน้ำหลังเขื่อนแล้ว ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจนท่วมตัวอำเภอเก่า หมู่บ้านชาวมอญ
รวมถึงวัดทั้ง 3 ทางการจึงได้ อพยพชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ออกจากบริเวณที่น้ำท่วม
และย้ายวัดทั้ง 3 มาอยู่บนเนินเขา บริเวณวัดเดิม ถูกปล่อยให้จมอยู่ใต้น้ำ
เป็นที่รู้จักกันในนามของ "วัดใต้น้ำ" หรือ เมืองบาดาล
และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในแบบ Unseen Thailand"
ถ้ามาถึงแล้วไม่ควรพลาดกิจกรรมนี้ สามารถเดินเลือกได้เลยว่าจะนั่งเรือหางยาวไปกับพี่คนไหน
เราตกลงไปในราคา 350 บาท แบบเหมาลำนั่งไปกัน 2 คน
เป็นหมูและเครื่องในต่างๆ ที่ต้มพร้อมเครื่องหอมๆ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เสียบไม้แหลม
วางไว้ให้เราเลือกหยิบทานได้ ไม้ละ 1 บาทเท่านั้นรสชาดประมาณหมูตุ๋น หอมๆ หวานๆ
กินเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ แถมด้วยลอง ยำหัวหมูมอญ/ยำพม่า ใส่เส้นสปาเก็ตตี้ด้วยนะ รับรองว่าอร่อยสุด
ถือเป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวบ้านที่นี่เลยนะ ทุกเช้าเวลาประมาณ 06.30 น.
จะเห็นชาวบ้านรอใส่บาตรพระสงฆ์ แต่ช่วงนี้จะใส่บาตรตามซอยหน้าที่พัก ไม่ได้ใส่บาตรบนสะพานไม้แล้ว
ก่อนหน้านี้เราได้ไปจองชุดตักบาตรไว้แล้วกับพี่เจ้าของที่พัก
ราคาชุดละ 99.- ใน 1 Set จะมีชุดตักบาตร + ชุดมอญ (สามารถเลือกแบบ สี ได้ตามใจชอบ)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น