สวัสดีจร้าเพื่อนๆชาวพันทิปทุกๆท่าน กระทู้นี้ KATAI_MINI จะไปพาเพื่อนๆไปสุขทะลักกันที่ " เมืองแห่งสายหมอก " กันจร้า
ผู้ร่วมทริปเป็นเพื่อนๆที่ทำงาน 4 ท่าน เราเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวคะ



Meeting  :  ค่าใช้จ่ายของเรา 2 วัน 1 คืน รวมแล้วค่าใช้จ่ายทั้งหมด 5,896 บาท คนละ 1,474 บาท  ตามนี้เลยจร้า
1.    ค่าที่พัก 2,000 บาท
2.    ค่าน้ำมัน 2,000 บาท
3.    ค่าเหมาเรือ 300 บาท
4.    ค่าทำบุญตอนเช้า 396 บาท
5.    ค่าเหมาเที่ยวฝั่งเมียนมาร์ 1,200 บาท
6.    ค่าผ่านด่าน 200 บาท (ไม่ได้เสียค่าผ่านด่าน...เลยเอามาเป็นค่าเข้าอุทยานป้อมปี่เเทนคะ)

1  DAY  ( 12 December 2015)


การเดินทาง : เราเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ออกจากสระบุรี 02.30 น. มุ่งหน้าสู่ กาญจนบุรี ใช้เวลาการเดินทาง เกือบ 6 ชั่วโมงกว่าๆ

เราโชคดีที่เลือกเดินทางช่วงกลางคืน  เพราะรถไม่เยอะ  แต่พอถึง อ.ทองผาภูมิ Oh My God!!! หมอกเยอะมากๆคะ




หมอกหนาแทบมองไม่เห็นทางกันเลยทีเดียวคะ จอดรถ Selfie สิคะ รออะไรอยู่ 5555   


ป้อมปี่ อุทยานเขาแหลม  สี่สิบบาทแลกกับวิวหลักล้าน
เราขับรถกันไปเรื่อยๆ ก่อนถึงตัวอำเภอทองผาภูมิ จะมีสามแยก ให้เลี้ยวขวาไปทางอำเภอสังขละบุรี (ด่านเจดีย์สามองค์) จะผ่านวัดท่าขนุน น้ำตกเกริงกระเวีย น้ำตกไดช่องถ่อง ผ่านหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาแหลม(เกริงกระเวีย) แล้วขับเลยจากอุทยานแห่งชาติเขาแหลมไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะพบทางเข้าจุดชมวิวป้อมปี่อยู่ทางซ้ายมือคะ



ค่าธรรมเนียมอุทยานฯ
- คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
- ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
- รถจักรยาน คันละ 10 บาท มอเตอร์ไซค์ คันละ 20 บาท
- รถยนต์เก๋ง คันละ 30 บาท
- ค่าบริการกางเต็นท์ คืนละ 30 บาท/คน/คืน




วัดวังก์วิเวการาม เดิม(ใต้เขื่อน)  หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ
ขับรถออกจากป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ขับตรงไปเรื่อยๆจะสะพานข้ามแม่น้ำรันตีก่อนเข้าตัวอำเภอสังขละบุรีจะมีทางแยก ให้ขับตรงไปทางอำเภอสังขละบุรี (จะมีป้ายบอกทางไปวัดวังก์วิเวการาม) พอผ่านตัวอำเภอสังขละบุรี ข้ามสะพานซองกาเลีย พอเลยทางไปสะพานไม้ไปจะเจอสามแยก เลี้ยวขวาไปวัดวังก์วิเวการามคะ






เจดีย์พุทธคยา สังขละบุรี
ขับรถออกจากวัดวังก์วิเวการาม  เลี้ยวซ้ายไปประมาณ 300 เมตร จะเจอเจดีย์พุทธคยา สังขละบุรีคะ





สามประสบรีสอร์ท
ขับรถออกจากเจดีย์พุทธคยา สังขละบุรี กลับมาที่พักกันคะ แป๋ว!!!!! ยังเข้าที่พักไม่ได้จร้า มาก่อนเวลาที่ทางรีสอร์ทให้เข้าเช็คอินน์5555  พอดีเลย...หิวแล้ว...ระหว่างที่รอ..ก็ไปหาอะไรทานกันก่อนเลยจร้า แล้วกลับเข้ามารีสอร์ทใหม่ เจ้าของรีสอร์ทใจดีดี๊ อนุญาติให้เราเช็คอินน์เข้าได้ตอน 12.30 น.คะ


เย้ๆๆๆ ได้เข้าที่พักแย้ว!!!!!
"บ้านพักคันทรี่ลอดจ์" เป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นละ 3 ห้อง มีระเบียงด้านหน้าและด้านหลัง ห้องน้ำในตัว เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น โทรทัศน์ และไดร์เป่าผม Free Wi-fi และใกล้ที่จอดรถ สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำและสะพานไม้ได้อย่างงดงาม พักได้ห้องละ 3 คน ราคา 1,500 บาท
แต่เราพัก 4 คน ราคา 2,000 บาท เพิ่มเตียงเสริม 1 เตียงคะ (ขอหลับสักงีบเดี่ยว 17.00 น. จะเที่ยวต่อ5555)
***(รูปนี้เท่านั้น ที่เอามาจากเวปไซค์ของสามประสบรีสอร์ทคะ)


วัดวังก์วิเวการาม (วัดจมน้ำ)  หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดใต้น้ำ เมืองบาดาล
ราคาเหมาอยู่ที่ 1 วัด-300บาท  3 วัด-500 บาท


ก่อนลงเรือแวะซื้อเจ้าปลาไหลน้อยไปปล่อยกลางแม่น้ำกันหน่อยจร้า




ถึงเรือที่เราเช่าแล้ว เตรียมตัวลงเรือกันเลย




ตอนอยู่บนเรือบรรยากาศได้มากกกก ชอบมากกก เป็นครั้งแรกที่เคยนั่งเรือแบบนี้ ทั้งตื่นเต้นทั้งฟิน 5555







วัดนี้เป็น Unseen Thailand ของโปรแกรมนั่งเรือชมวัดจมน้ำคะ พอเรือมาถึงวัดเราจะเห็นน้องๆชาวมอญตัวน้อยๆ มาเดินขายดอกไม้ธูปเทียน และเป็นมัคคุเทศก์มาแนะการไหว้สักการะเล่าประวัติของวัดให้เราฟังคะ

ช่วยกันอุดหนุนน้องๆกันนะคะ ค่าดอกไม้ธูปเทียนชุดละ 10บาทเองคะ


น้องๆเค้าแนะนำว่า ก่อนเข้าไปไหว้สักการะภายในวัด เราต้องเอามือแนบผนังวัด ตั้งจิตอธิฐาน (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล)
1.ตั้งจิตขอเจ้าที่เจ้าทาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่บริเวณวัด เพื่อขออนุญาตให้เราเข้าไปไหว้สักการะภายในวัดได้
2.ตั้งจิตอธิฐานขอพรที่เราต้องการ 3 ข้อคะ




ขากลับออกจากวัดวังก์วิเวการาม (วัดจมน้ำ) ลูกเรือแนะนำให้เราไปลงที่ฝั่งมอญ เพื่อจะได้เดินชมสะพานมอญตอนขากลับที่พักคะ
ว๊าว!!!! มองไปทางซ้าย เห็นพระอาทิตย์ส่องแสงกระทบกับเจดีย์พุทธคยาและผิวน้ำ สวยจัง


สะพานมอญ (สะพานอุตตมานุสรณ์)
ถึงแล้วฝั่งมอญ!!!! เราเดินตรงดิ่งไปร้านป้าหยินเลยคะ เพื่อไปเช่าชุดเเละเครื่องของทำบุญพรุ่งนี้เช้าคะ ลูกสาวป้าหยินใจดีมากๆ พี่เค้าให้เราเลือกชุด ลองชุด กันตามสบายเลยจร้าแถมใช้แป้งทานาคา แต่งหน้าพวกเราให้เหมือนชาวมอญด้วย 555 น่ารักดีคะ




ฟินนนน!!!! เดินชมวิว บรรยากาศ ชิวๆ ลมเย็นๆ ฟินจนถึงที่พักเลยคะ





น้องๆชาวมอญ น่ารัก เป็นกันเอง คุยเก่ง หัวเราะเฮฮา แถมยังชอบถ่ายรูปด้วยนะคะ




ตลาดคนเดินสังขละบุรี
มีเฉพาะวันเสาร์ ตั้งอยู่บริเวณถนนด้านข้างโรงแรมศรีแดง ใกล้ตลาดสดเทศบาลสังขละบุรี ตั้งแต่ 17.00 – 22.00 น.
เย็นนี้ฝากท้องไว้ที่แหละกันคะ ไปกันเลย เดินสิคะ รออะไรอยู่ เพราะกลัวจะไม่มีที่จอดรถยนต์ เดิน กับ เดิน ระยะทางก็เกือบ 2กิโล จริงๆก็มีมอเตอไซต์รับจ้างวิ่งผ่านเยอะนะ ทำไมไม่นั่งไปก็ไม่รู้ แต่ขากลับนี่ไม่ไหวจิงๆ นั่งมอเตอไซต์รับจ้างกลับจะดีกว่านะ 5555

หอบแฮ่กๆๆๆ ถึงซักที 555


เดินเข้ามาเราจะเจอเสียงดนตรีเพราะๆ เล่นสด น้องๆตัวเล็กนิดเดียว เก่งมากๆคะ


การเเสดงของเด็กๆที่เรียนอยู่โรงเรียนในระเเวงนั้น น่ารักมากกก


น้องๆโชว์ฝีมือศิลปะ วาดรูปขายกันคะ


หิวๆๆๆๆหารัยกินกัน หอยครกชาวมอญ


สายไหมลุงกบ คนหล่อของสังขละบุรีคะ


เมนูเด็ด หมูจุ่มไม้ละ 1 บาท ใครมาสังขละบุรีแล้วไม่ได้ทาน เหมือนมาไม่ถึงสังขละบุรีกันเลยทีเดียว 555





เมี่ยงคำไม้ละ 3 บาท ถูกและอร่อย แง่มๆๆๆ


เดินทางกลับที่พัก มานั่งดีดกีต้าร์ ร้องเพลงเบาๆ จิบเบียร์เย็นๆ เอิงเอ่ยยยยยยย 55555


ตามมาๆ วันที่สองอยู่ด้านล่างนะคะ