❄❄มาลาริน/นายกฯเมินไร้ขุนคลัง ดึงเอกชนถกฟื้นเศรษฐกิจ แรมโบ้สวนพิชัยเจ็บ หอการค้าพบสัญญาณขายปลีกฟื้นตัว  ศก.เริ่มตั้งลำ

บิ๊กตู่ เมินไร้ขุนคลัง ดึงธุรกิจเอกชนถกฟื้นเศรษฐกิจไทย
วันที่ 03 ก.ย. 2563 เวลา 17:11 น.



นายกฯ เดินหน้าเชิญเอกชนร่วม workshop ระดมสมองขับเคลื่อนภาคธุรกิจสู่อนาคต จัดนัดแรก 3 รอบ พร้อมผู้นำในภาคธุรกิจอสังหาฯ-ค้าปลีก-อีคอมเมิร์ซ รวมกว่า 70 ราย 
 
รายงานข่าวเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ที่ผ่านมา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จัดประชุม workshop กับภาคธุรกิจต่างๆ ตามแนวทาง “รวมไทยสร้างชาติ” ที่ต้องเปิดโอกาสให้คนที่เก่งที่สุด จากทุกภาคส่วน และจากทุกระดับของสังคม ได้ใช้ความรู้ความสามารถ ทำงานร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนประเทศ

โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ดร. ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เข้าร่วมรับฟัง

โดย นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดการประชุมโดยสรุปว่าการก้าวผ่านวิกฤตโควิดและวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั้งโลกไปให้ได้ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่ง ที่ควรจะมองไปในอนาคตที่ไกลกว่านั้น และควรจะใช้ช่วงเวลานี้ให้เป็นโอกาส ที่จะนำพาประเทศไทยให้ไปอยู่ในจุดที่ดียิ่งขึ้น นั่นคือ เหตุผลในการเชิญทุกท่านมาในวันนี้ เพื่อแบ่งปันมุมมอง ความคิด ในฐานะที่เป็นบุคคลที่สุดยอดในภาคธุรกิจนี้ มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ตรงมายาวนาน
“ผมอยากทราบว่า ท่านมีมุมมองหรือความคิดในการขับเคลื่อนภาคส่วนของท่านอย่างไร โอกาสของภาคธุรกิจของท่านเป็นอย่างไร อนาคต 3ปีข้างหน้าภาคธุรกิจของท่านควรจะไปอยู่ที่จุดไหน อุปสรรคคืออะไร เป้าหมายของผม คือผมต้องการเข้าใจประเด็นหลักๆ และเข้าใจโดยลึกจากการฟังตรง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก เมื่อเวลาผมพิจารณานโยบาย หรือโครงการที่หน่วยงานต่างๆ นำเสนอ ผมจะสามารถตัดสินใจไปในแนวทางที่จะสนับสนุนวิสัยทัศน์ของพวกท่านได้” พลเอกประยุทธ์ กล่าว

https://www.posttoday.com/economy/news/632159

โอ๊ยเจ็บ 'โบ้' สวน 'พิชัย' วิจารณ์แบบไร้สม-ง ยุครัฐบาลเพื่อไทยจะเอาแต่นิรโทษฯสุดซอย ไม่แก้ปัญหาและพัฒนาประเทศเลย



4 ก.ย.63 - นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนต รีกล่าวถึงกรณีพิชัย นริพทะพันธุ์ ระบุถึงการลาออกของนายปรีดี ดาวฉาย จากตำแหน่ง รมว.คลัง เท่ากับหมดเวลาของนายกฯเพราะหมดความน่าเชื่อถือ เศรษฐกิจทรุดหนัก และให้นายกฯ ควรลาออกนั้นว่า การลาออกของนายปรีดี ถือเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากนายปรีดีได้ชี้แจงไปแล้วว่ามีข้อจำกัดของเวลาและปัญหาสุขภาพ ที่อาจทำงานได้ไม่เต็มที่ และยืนยันว่าไม่มีปัญหาใดกับคนในพรรคพลังประชารัฐ

"เชื่อว่าก่อนที่นายปรีดี จะเสียสละเข้ามาทำงานให้กับประเทศได้คิดไว้เป็นอย่างดีและรู้ดีถึงสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศอยู่แล้วโดยไม่ใช่เพราะว่าเข้ามาแล้วเห็นตัวเลขเศรษฐกิจ หรือเพราะนายกฯเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ดังนั้นนายพิชัย ก็ไม่ควรที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อมากล่าวหา หรือตำหนินายกฯและรัฐบาล เป็นการวิจารณ์แบบไร้สม-องคิดที่สุด"
 
นายสุภรณ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้นายพิชัยก็รู้ดีอยู่แล้วว่าเกิดจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ซึ่งเกิดขึ้นในทั่วโลก และรัฐบาลพยายามที่จะแก้ไขปัญหาทั้งการเยียวยาให้กับประชาชน และเกษตรกร อย่างเต็มที่เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม
 
"ยังมั่นใจว่าหากปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลก หากนายพิชัยให้นายกฯลาออก และให้คนในพรรคเพื่อไทยเข้ามาแก้ไขปัญหาก็ไม่สามารถช่วยได้ เพราะอย่าลืมว่าในสมัยพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลไม่ได้แก้ไขปัญหาอะไร และพัฒนาประเทศเลย มีแต่มุ่งเน้นที่จะผ่านกฎหมาย นิรโทษกรรมเหมาเข่ง หรือ นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย และปล่อยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเสียหายย่อยยับจนชาวนาหลายคนต้องผูกคอตายซึ่งแตกต่างจากรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ ที่เข้ามาได้พยายามแก้ไขปัญหาหลายอย่าง 

โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจในหลายโครงการ ช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการประกันราคาพืชผลทางการเกษตร และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นต่างๆ ที่ได้ผลดีในระดับพอใจ และสิ่งสำคัญรัฐบาลนี้จัดการปัญหาโควิด-19 ได้เป็นอย่างยอดเยี่ยม จนเป็นที่ยอมรับกันทั้งคนในประเทศและทั่วโลก ซึ่งการที่เศรษฐกิจชะลอตัวจึงไม่ใช่ความผิดพลาดของนายกฯและรัฐบาล จึงไม่เป็นธรรมที่จะให้นายกฯลาออกจากตำแหน่ง

และที่ชัดเจนที่สุดนายกฯที่ขื่อพล.อ.ประยุทธ์ คนนี้ ไม่มีประวัติเสียหายในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน เหมือนผู้นำในอดีตที่ใกล้ชิดนายพิชัย ที่มีข้อหาการทุจริตโกงข้าวชาวนา เสียหายมากมายเศรษฐกิจก็พังพินาศเสียหายย่อยยับ ผู้นำคนนั้นยังไม่เคยคิดลาออกเลย ทำไมนายพิชัยจึงไม่บอกให้ผู้นำคนนั้นลาออกบ้างละครับ"

http://www.thaipost.net/main/detail/76494

กลินท์”ระบุอย่าตื่นตระหนกพบคนติดโควิด ชี้เที่ยวอย่าการ์ดตก พบสัญญาณขายปลีกฟื้นตัว ศก.เริ่มตั้งลำ



นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า จากกรณีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศ หลังจากไม่พบผู้ติดเชื้อมาแล้ว 100 วันนั้นไม่อยากให้กังวลหรือตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะมาตรการในการคัดกรองและควบคุมโรคของประเทศไทยถือว่ามีประสิทธิภาพ สามารถดูแลจำกัดพื้นที่การระบาดของโรคได้ แต่ประชาชนต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังไม่ประมาทการ์ดห้ามตก เพื่อทำให้การติดเชื้อไม่แพร่กระจาย และมองว่าการพบผู้ติดเชื้อในประเทศเป็นเรื่องที่คาดเดาได้อยู่แล้ว แต่ไม่ได้ทำให้ความเชื่อมั่นลดลง

ทั้งนี้ในช่วงวันหยุดยาวนี้มองว่า การท่องเที่ยวภายในประเทศ บรรยากาศน่าจะยังคึกคัก และมีประชาชนเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น เนื่องจากสถานที่ต่างๆมีการเตรียมความพร้อมรองรับประชาชนและนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีสัญญาณมาจากสมาชิกหอการค้าทั่วประเทศ ระบุว่ายอดขายปลีกเริ่มดีกระเตื้องขึ้น จากการเดินทางของประชาชนถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีที่มองว่าเศรษฐกิจกำลังเรื่มขยับไปในทิศทางที่ดีขึ้น

https://siamrath.co.th/n/179938

นายกฯท่านถนัดใช้คนนอกเรื่องเศรษฐกิจ  ไม่ถนัดใช้นักการเมือง
 
ท่านพานาวาคสช.ผ่านมาได้อย่างสบายๆ

ตอนนี้นาวาประยุทธ์ 2 ท่านต้องผ่านได้เช่นกัน

ส่วนแรมโบ้นั้นช่างพูดได้ใจจริงค่ะ เจ็บไปเลยสิคะ นายพิชัย

ประธานหอการการค้าพบสัญญานดีๆ  ทางเศรษฐกิจ

นำมาบอกกล่าวค่ะ.....อมยิ้ม29



กุหลาบดอกเท่าถ้วยเคยเห็นไหมคะ....🌹

วันหยุด...สบายๆยาวไปค่ะ....🌂
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่