วันนี้พี่สาวชวนผมมาทำบุญที่วัดมหาบุษย์อยู่ภายในซอยอ่อนนุช 7 เมื่อทำธุระทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วก็แวะหาอะไรทานกันก่อนจะพากันแยกย้ายกลับบ้าน บริเวณฝั่งตรงข้ามกันมีห้างชื่อ People Park Community Mall ภายในโครงการนี้มีร้านอาหารให้เลือกเยอะแยะมากมายภาย จอดรถเดินเล่นเปิดเมนูแต่ละร้านไปเรื่อยๆจนมาพบกับร้าน "เฉิงฟู่สุกี้โบราณ" อยู่บริเวณชั้น 2 ใกล้ๆกับบันไดเลื่อน เป็นร้านขายสุกี้โบราณที่ดูทานง่ายๆแถมราคาก็ไม่แพงมากนัก ภายนอกดูแล้วร้านแค่เล็กๆแต่เพดานด้านในสูงดูน่านั่งสบายไม่อึดอัดดี เลยตัดสินใจว่าเราทานร้านนี้กันครับ

การตกแต่งภายในร้านมีกลิ่นอายความเป็นจีนอย่างเต็มเปี่ยม โทนสีที่ใช้ภายในร้านเป็นสีเข้มทั้งพื้นและผนังลายหินอ่อน ตัดด้วยลายไม้ธรรมชาติ-โต๊ะหินสีดำสนิท เพิ่มความสดใสด้วยเก้าอี้-ป้ายตกแต่งร้านสีแดง ส่วนกลางร้านเป็นโคมไฟซี่ไม้ดัดกลม มีรูปวาดดอกไม้บนผนัง-ป้ายภาษาจีนขนาดใหญ่ผสมกันแล้วดูโมเดิร์นอย่างลงตัว เมื่อนั่งที่โต๊ะพนักงานไม่ถามเลยว่าจะทานซุปอะไรเพราะเขามีให้แค่ซุปเดียว เป็นน้ำซุปสีเหลืองทองหอมหวานกลิ่นกระดูกหมูและผักยกมาวางรอไว้บนเตา พี่สาวผมจัดการออเดอร์อาหารต่างๆเรียบร้อย ส่วนผมขอยืมเล่มเมนูมาอ่านก่อนครับ

เมนูหลักส่วนใหญ่ที่ร้านก็คือสุกี้โบราณแบบเป็นจัดเป็นชุดที่เหลือเป็นลูกชิ้น/ผักสด/เห็ด/เส้นและไข่ไก่ หน้าแรกเป็นสุกี้โบราณรวมชุดใหญ่มีทั้งเนื้อล้วน/หมูล้วน/ไก่ล้วน/ทะเลล้วน ราคาเริ่มต้นที่ 579 บาทโดยใน 1 ชุดมีเนื้อสัตว์ปริมาณเท่ากับ 3 จานพร้อมกับผักสดและลูกชิ้นอิ่มกันได้ 2-3 คน หน้าที่สองเป็นจานหลักพวกเนื้อหมักโบราณ/หมูหมักโบราณ/ไก่หมักโบราณเริ่มต้นที่ 149 บาท ใครเป็นสายทะเลที่นี่มีกุ้งหมักโบราณ/หมึกหมักโบราณ/กระพงหมักโบราณให้เลือกสั่งอีกจานละ 199 บาท ถ้าหากใครยากทานของทะเลสดสามารถสั่งเป็นแบบถาดมีแมงกระพรุนและปลาหมึกกรอบเพิ่มขึ้นมาราคา 49-69 บาท หรือจะให้จัดรวมมาทุกอย่างเป็นแบบหมักจานละ 179 บาท แน่นอนว่าพวกหมู-เนื้อ-ไก่ก็มีแบบถาดเล็กขายแล้วยังมีตับหมูและหมูทรงเครื่องราคาถาดละ 45-65 บาท หมดพวกเมนูเนื้อหมักก็จะเป็นลูกชิ้น-เกี๊ยวและเต้าหู้ต่างๆราคาถาดละ 22-65 บาท ผักหลากหลายชนิดเริ่มต้นถาดละ 19 บาท ไปจนถึงชุดผักตะกร้าใหญ่ราคา 199 บาท เห็ดสดราคาถาดละ 25-32 บาท ถ้าสั่งแบบรวมจานใหญ่ก็ 99 บาท นอกเหนือจากนั้นก็เป็นไข่ไก่/ไข่เป็ด/ข้าวสวย/เส้นต่างๆ ไปจนถึงเครื่องปรุงซอสและซอสหมักโบราณขายใส่ถ้วยเพิ่มรสเข้มข้นของเนื้อหมักได้เองตามใจ หน้าสุดท้ายคือเครื่องดื่มที่มีขายทั้งแก้วและเหยือกราคาเริ่มต้น 25 บาท ส่วนของหวานมีแค่เมนูเดียวราคา 39 บาท ดูแล้วราคาถือว่ากลางๆตามเกรดร้านสุกี้ขึ้นห้างแต่สิ่งที่ไม่มีเหมือนเจ้าตลาดก็คือ หมูแดง/หมูกรอบ/เป็ดย่าง ถ้าใครเข้าร้านสุกี้แล้วติดนิสัยชอบสั่งเมนูเหล่านี้มาทานคู่กันที่ "เฉิงฟู่" ไม่ตอบโจทย์ครับ

เมนูชุดแรกมาเสิร์ฟอย่างอลังการนั่นก็คือ"ชุดใหญ่รวม"ราคา 659 บาท ภายในชุดนี้ประกอบด้วยเนื้อวัวหมัก/เนื้อหมูหมัก/เนื้อไก่หมัก/ลูกชิ้นปลาหมึก/ลูกชิ้นจ้าวสมุทร/ลูกชิ้นสาหร่าย/ชุดผักและวุ้นเส้น ราคารวมถือว่าถูกกว่าสั่งแยกมานิดหน่อยแต่ได้ความอลังการไว้ถ่ายอวดเพื่อนแน่นอน แต่พี่สาวผมเป็นคนทานผักเยอะมากๆเลยสั่งมาอีกทั้ง "ชุดผักรวม" ราคา 99 บาท ในชุดประกอบด้วยผักกาดขาว/ฟักทอง/ข้าวโพดอ่อน/ผักบุ้ง(รองอยู่ด้านล่าง)และข้าวโพดหวานเหมือนที่อยู่ในชุดใหญ่ เพิ่มคาร์โบไฮเดรตด้วย "บะหมี่ผัก" ราคา 32 บาท สั่งผักชื่อแปลกๆมาลองชิมอย่าง "ผักบ๊อกชอย" ราคา 29 บาท "ปวยเล้ง" ราคา 32 บาท ส่วนเห็ดสั่งมาแบบไม่ต้องคิดเยอะคือ "ชุดเห็ดรวม" ราคา 99 บาท ได้ทานครบทุกเห็ดทั้งเห็ดหูหนูขาว/เห็ดชิเมจิขาว/เห็ดหูหนูดำ/เห็ดออเร็นจิ/เห็ดเข็มทองและเห็ดชิเมจิดำในจานเดียวกัน สายผักอย่างพี่สาวผมจบไปแล้วมาต่อด้วยสายเนื้ออย่างเราต้องสั่งลูกชิ้นมาเพิ่มอีกเยอะๆครับ

สั่งมาเพียบรวมถึงลูกชิ้นที่ซ้ำกับในชุดใหญ่ทั้ง "เกี๊ยวฮ่องกง" ราคา 59 บาท มันคือเกี๊ยวกุ้งสดกรอบๆผสมหมูเด้งหอมกลิ่นน้ำมันงา จะลวกทานเปล่าๆหรือทานคู่กับน้ำซุปสีทองของทางร้านก็อร่อยสดชื่นถึงใจคนชอบทานเกี๊ยวกุ้งแบบผมมากๆ ถาดข้างกันคือ "ปลาม้วนไส้ชีส" ราคา 65 บาท เป็นลูกชิ้นปลาเนื้อแน่นทอดด้านนอกสีเหลืองสวยส่วนด้านในสอดไส้ชีสแบบไม่ทะลักมากแต่ได้สัมผัสเนื้อปลามากกว่า เมนูต่อมา"หมูทรงเครื่อง" ราคา 49 บาท ร้านอื่นมักจะเสิร์ฟเป็นก้อนใหญ่ๆหรือใส่ในกระบอกไม้ไผ่แต่ที่นี่ปั้นเป็นก้อนพร้อมทาน หมูทรงเครื่องที่ร้านนี้เนื้อนุ่ม หอมกลิ่นรากผักชี/กระเทียม/พริกไทยดำขึ้นจมูก ไม่ใช่แค่หมูเนื้อเด้งแต่รสชาติจืดชืดแบบหลายๆร้านที่เคยทานมา ต่อกันด้วยเมนูที่ดูธรรมดาคือ "เกี๊ยวปลา" ราคา 69 บาท ตอนแรกนึกว่ารสชาติก็คงเหมือนร้านอื่นๆแต่ที่นี่เป็นเกี๊ยวปลาที่ไส้ด้านในมีกลิ่นขิงอ่อนๆทำให้ได้ความสดชื่นช่วยล้างกลิ่นคาวของเกี๊ยวปลาได้อย่างดีงามสุดๆ"สาหร่ายทรงเครื่อง" ราคา 65 บาท เป็นสาหร่ายม้วนอัดแน่นด้วยไส้ที่น่าจะเป็นหมูแบบเดียวกับหมูทรงเครื่องทำให้รสชาติจัดจ้านดีมากๆ ต่อด้วย "ลูกชิ้นจ้าวสมุทร" ราคา 65 บาท ในเมนูบอกว่าเป็นลูกชิ้นขนาดใหญ่ใส่ไข่กุ้งและปูอัดได้สัมผัสกรุบกรอบๆไข่กุ้งนิดหน่อยแต่เนื้อแน่นดีมาก แต่อีกลูกที่สัมผัสแน่นกว่าคือ"ลูกชิ้นปลาหมึกยักษ์"ราคา 65 บาท เหมือนเอาหมึกยักษ์มาบดเป็นเนื้อลูกชิ้นจริงๆเพราะเหนียวหนึบถึงใจ แถมมีเนื้อปลาหมึกเคี้ยวกรุบๆไม่เป็นมิตรกับคนจัดฟันสักเท่าไหร่ สุดท้ายอยากทานซีฟู๊ดนิดหน่อยเลยสั่งมาเป็น "ซีฟู๊ดหมักโบราณ" ราคา 179 บาท ได้ทานวัตถุดิบทุกอย่างในที่เดียวกันทั้ง กุ้งสด/หมึกสด/ปลากระพง/หมึกกรอบ/แมงกระพรุนหมักซอส เมื่อมาครบแล้วก็เริ่มลุยกันเลยครับผม

วิธีการทานสุกี้โบราณของที่ร้านถูกเขียนเอาไว้แล้วบนใบรองจานที่โต๊ะนั่นคือใช้ตะเกียบเคล้าวัตถุดิบสดๆ-ซอสและไข่ทุกอย่างให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว ก่อนที่จะรวบเนื้อสัตว์ลงกระบวยแล้วใส่ลงไปในหม้อน้ำซุปที่กำลังเดือด (หากสั่งมาเป็นจานเล็กก็เทลงไปทั้งจานได้เลย) เมื่อเนื้อสัตว์สุกแล้วก็เตรียมไปสนุกกับน้ำจิ้มทั้ง 3 สูตรของร้านได้เลยจ้า

น้ำจิ้มของที่ร้านเฉิงฟู่มีให้เลือกทาน 3 สูตรคือ น้ำจิ้มสุกี้สูตรโบราณ เป็นน้ำจิ้มข้นที่มีกลิ่นคล้ายกับใส่เต้าหู้ยี้ลงไปเล็กน้อยแต่ความข้นและรสชาติเปรี้ยว/หวาน/เค็มตามแบบฉบับสุกี้โบราณยังอยู่ครบลงตัว ทานกับเนื้อหมักนุ่มๆแต่ไม่ถึงกับเละได้เคี้ยวกรุบกรอบนิดๆหอมกลิ่นซอสหมักเบสพริกไทยดำของที่ร้าน เรียกได้ว่าเป็นรสชาติจีนโบราณแท้ๆมีความกลมกล่อมกว่าหลายสูตรที่ผมเคยทาน (ที่อื่นมักจะหนักเต้าหู้ยี้ไม่ก็ใส่เครื่องสมุนไพรอื่นๆเพิ่มลงไปด้วย) ใครชอบน้ำจิ้มรสไม่จัดจ้านมากนักรับรองว่าถูกใจแน่นอนครับ สูตรต่อมาก็คือ น้ำจิ้มสุกี้สูตรกวางตุ้ง รู้สึกแตกต่างที่ซอสพริกเป็นเบสแต่ไม่มีกลิ่นฉุน หอมกลิ่นน้ำมันงารสหวานอมเปรี้ยวนิดๆไม่เบียดรสชาติของเนื้อหมักซอสแต่ทำให้ไม่รู้สึกเลี่ยนและทานง่ายมากยิ่งขึ้นขึ้น สูตรความอร่อยอีกอย่างในใบแนะนำบนโต๊ะคือเอาน้ำจิ้ม 2 สูตรแรกผสมกันจะได้ความอร่อยแบบใหม่ (ก็คือรวมสิ่งที่ขาดหายไปของแต่ละสูตรเข้าด้วยกัน) หากใครต้องการความจัดจ้านหน่อยก็สามารถเพิ่มพริกสด-กระเทียม-น้ำมะนาวลงไปได้แต่ต้องสั่งเพิ่มชุดละ 20 บาทนะจ๊ะ น้ำจิ้มสุดท้ายเป็นสูตรเด็กๆคือ น้ำจิ้มเฉิงฟู่ เบสเหมือนเป็นซีอิ๊วขาวที่ปรุงรสมาเค็มอมหวานหอมกล่นน้ำมันงาและสมุนไพรคล้ายกับน้ำข้าวหน้าเป็ด ทางร้านแนะนำว่าให้จิ้มกับผักสดหรือซีฟู๊ด ถ้าจิ้มเยอะจะเค็มเกินไปแนะนำว่าให้แตะนิดๆจะช่วยดึงรสหวานของผักสด-ซีฟู๊ดออกมาให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่ทานเผ็ดเลยหรือทานจืดหน่อยน้ำจิ้มนี้ตอบโจทย์ครับ

ต่อจากนี้ก็ใส่ลูกชิ้นต่างๆลงไปลวก (ลูกชิ้นที่นี่เนื้อแน่นมากๆ) ต่อกันด้วยนำเนื้อหมักต่างๆคลุกกับซอสและไข่ไก่ก่อนจะเทลงไปในหม้อพร้อมกับผักสดรอจนเดือดสุกแล้วอร่อยกับน้ำจิ้มของทางร้านไปได้เรื่อยๆ ไก่หมัก-เนื้อหมัก-หมูหมักของทางร้านนุ่มหอมกลิ่นพริกไทยมีความเด้งสู้ฟันและไม่เหม็นกลิ่นน้ำมันงาแบบหลายๆร้านที่เคยทานมา ในส่วนของซีฟู๊ดอย่างกุ้งสด/ปลาหมึก/ปลากระพงถือว่าเนื้อสดแน่นไม่เปื่อยยุ่ยทานอร่อยดี เมื่อใส่ซอสหมักเนื้อต่างๆลงไปในซุปเรื่อยๆสุดท้ายก็กลายเป็นซุปรสเผ็ดจัดจ้านหอมกลิ่นพริกไทยดำ แค่ทานเปล่าๆไม่ต้องทานกับน้ำจิ้มยังได้ เรียกได้ว่าอร่อยเพลินตั้งแต่คำแรกจนน้ำซุปหมดหม้อย่างแท้จริงครับ ส่วนเครื่องดื่มวันนี้ผมสั่งเป็น"ชาอู่หลง" ราคาเหยือกละ 69 บาท น้ำแข็งแก้วละ 5 บาท เป็นชาแบบไม่หวานมีกลิ่นหอมคล้ายตราสามม้าเย็นสดชื่นสไตล์จีนดีครับ