เกี่ยวกับแถลงการณ์ของ รามาและสาธารณะสุข

ฟังแล้วน่าตลกแต่จริงๆคือกังวล ที่ผมห่วงไม่ใช่เชื้อเป็นหรือซากเชื้อ แต่ประเด็นที่ห่วงคือ เคสแรกเข้ามากักตัว 14 วันตรวจแล้วไม่เจอ เคสสองเจอแต่เช็คซ้ำไม่เจอก็ปล่อย แต่พอออกไปแล้วกลับมาตรวจใหม่เจอ "ซากเชื้อ"!
คำถาม
1. ก่อนเป็นซากเชื้อ มันต้องมีเชื้อเป็นใช่มั้ย?
2. หากข้อ 1 คำตอบคือใช่ แล้วระหว่างที่มีเชื้อเป็นคือช่วงเวลาไหน?
3. หากเป็นมาก่อนเข้าประเทศ แล้วทำไมระหว่างกักตัว 14 วัน ถึงตรวจไม่เจอซากเชื้อ? คุณภาพการตรวจสอบมีระดับความแม่นยำเพียงใด? (อ่านข้อความ 2 ข้อความข้างล่างประกอบ ค่อนข้างย้อนแย้ง)
""รายแรกนี้เมื่อกักตัวครบ 14 วัน ได้รับอนุญาตให้กลับภูมิลำเนา จ.ชัยภูมิ ทำการพักแยกตัวจนครบ 30 วันตามมาตรฐาน และวันที่ 17 ส.ค. เข้ารับการตรวจสุขภาพเพื่อหาเชื้อโควิด-19 ในการเตรียมไปทำงานต่างประเทศที่ รพ.รามาธิบดี ผลออกมาวันที่ 18 ส.ค. พบสารพันธุกรรมในปริมาณน้อย"
"ส่วนรายที่ 2 อายุ 35 ปี กลับจากทำงานสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เช่นกัน เดินทางถึงไทยวันที่ 24 มิ.ย. เข้ากักตัวตามกำหนด 14 วัน ตรวจเชื้อทั้ง 2 ครั้ง ไม่พบเชื้อ จึงให้กลับภูมิลำเนา จ.เลย และวันที่ 16 ส.ค. เดินทางเข้า กทม. โดยรถยนต์ส่วนตัว เพื่อตรวจสุขภาพเตรียมตัวเดินทางไปทำงานต่างประเทศ โดยวันที่ 18 ส.ค. เข้ารับการตรวจและพบสารพันธุกรรม "
 
เพี้ยนจุดจุดจุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่