กางไทม์ไลน์ชาวเลยเคยติด COVID-19 สอบสวนโรค 24 คนใกล้ชิด

กางไทม์ไลน์ชาวเลยเคยติด COVID-19 สอบสวนโรค 24 คนใกล้ชิด
 19:27 |  20 สิงหาคม 2563 |  96
 
กระทรวงสาธารณสุข กางไทม์ไลน์หญิงชาวเลยติดเชื้อ COVID-19 คาดเคยติดเชื้อจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ราว 3 เดือนก่อนกลับไทย ชี้เจอเชื้อพันธุกรรมแบบอ่อน-มีภูมิคุ้มกัน ตีวงผู้ใกล้ชิด 24 คนทั้งกลุ่มเพื่อน ครอบครัว คนขับแท็กซี่ ยืนยันไม่ต้องปิดโรงเรียนความเสี่ยงน้อย

วันนี้ (20 ส.ค.63) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) พร้อมด้วยตัวแทนจากโรงพยาบาลรามาธิบดีและกรมควบคุมโรค ร่วมแถลงกรณีพบหญิงไทย 2 คน ตรวจพบสารพันธุกรรมเชื้อ COVID-19 และรักษาตัวในโรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา

โดยศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผอ.โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า กรณีผู้ป่วยอายุ 35 ปีหญิงไทยที่มาตรวจสุขภาพ เพื่อจะเดินทางไปทำงานที่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และตรวจพบสารพันธุกรรมเชื้อ COVID-19 เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา แต่ตรวจสารพันธุกรรมในปริมาณที่น้อย จากนั้นมีการตรวจซ้ำอีกครั้งวันที่ 18 และ 20 ส.ค.ซึ่งตรงกับผลตรวจของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งครั้งที่ 2 และ 3 ผลเป็นลบ จากนั้นยังตรวจเลือด เพื่อดูภูมิคุ้มกันอีกครั้ง และพบว่าผลเป็นบวก แสดงว่ามีการติดเชื้อภูมิคุ้มกัน แต่มีการติดเชื้อ COVID-19

“ตอนนี้ยังอาการปกติ แต่เพื่อความรอบคอบ และให้เกิดมั่นใจจึงให้อยู่โรงพยาบาลและติดตามอาการ ตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจเพาะเชื้อไวรัส เพื่อให้สังคมสบายใจ ว่าตรวจเชื้อสารพันธุกรรมปริมาณน้อยเป็นส่วนของไวรัส และเพื่อให้มั่นใจว่ายังเป็นเชื้ออันตรายพวกเราหรือไม่ แม้ทางทีมจะมั่นใจว่าเป็นส่วนของไวรัสที่ไม่ทำให้เกิดการติดต่อ”

  ไทม์ไลน์ต้องดูใน 3 เดือนที่ติดเชื้อมาอย่างไร

พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการสอบสวนโรคหญิงชาวเลย ซึ่งในระบบได้ร่วมกับสำนักอนามัยของกทม. และหลายหน่วยงาน เพราะผู้สงสัยติดเชื้ออยู่ใน จ.เลย และกทม. จากการสอบสวนกลับจาก 24 มิ.ย. เข้ากักตัวท่ชลบุรี และมีการตรวจ 29 มิ.ย. และ5 ก.ค. ซึ่งเป็น2 ครั้งที่อยู่ใน และไม่พบสารพันธุกรรม และเดินทางกลับบ้านที่ จ.เลยวันที่ 9 ก.ค.เดินทางกลับบ้านที่จ.เลย และมีเพื่อนมารับและเมือกลับไปมีพ่อแม่ และเพื่อนๆรวม 5 คนที่ใกล้ชิด และช่วงเดือนนี้สวนใหญ่อยู่ในจ.เลยและไปเยี่ยมเพื่อนที่ รพ.ปากชม ที่คลอดลูก และสอบถามมีผู้ใกล้ชิด 6 คนเป็นกลุ่มเพื่อนและคนที่ไปเจอ

จากนั้น 12-13 ส.ค.ไปกินร้านอาหาร และจำชื่อร้านไม่ได้ มีเพื่อนไปด้วยกัน 3 คน รวมผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งหมด ดูว่าใครที่สัมผัสใกล้ชิดจริงได้ลงไปเก็บตัวอย่างทั้งหมดรอผลตรวจ กระทั่งวันที่ 16 ส.ค.จะกลับไปทำงาน จึงเดินทางมากทม.โดยมีพ่อและแม่ขับรถ เข้าพักที่โรงแรมบอดีเเพลส มีเพื่อนอีก 2 คนมีแม่บ้านของโรงแรม และทางกทม.ไปเก็บตัวอย่างแล้ว และผู้อาศัยในโรงแรม 104 คนต่และไม่ได้เจอกันโดยตรง และไม่ถือว่ากลุ่มนี้สัมผัสใกล้ชิด แต่หากกังวลให้มาตรวจหาเชื้อได้

วันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมาเดินทงไปโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อและเตรียมตัวเดินทางกลับไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขึ้นแท็กซี่ และมีผู้สัมผัสใกล้ชิดแท็กซี่ 1 และในโรงพยาบาลอีก 5 คน ซึ่งในวันที่  18 ส.ค. ทางโรงพยาบาลรามาธิบดี ตรวจพบแต่มีสารพันธุกรรมน้อย และต้องติดตามผู้สงสัยติดเชื้อเข้ามา และจากนั้นจะตรวจผลซ้ำตามที่เสนอไป

“ผลการสอบสวนโรคถ้าดูจากผู้ใกล้ชิดทั้งหมดไม่ติดเชื้อเพิ่มจะทำให้บอกได้ว่าไม่มีการติดเชื้อในไทย”

สถานที่ในจ.เลย-กทม.ไม่ต้องปิด  

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ถึงแม้จะผลบวกอ่อนๆ ทีมต้องใช้เวลาที่ต้องวิเคราะห์ว่าเกิดขึ้นแล้ว แม้ว่ารอบหลังเป็นลบ คนนี้ไม่ได้ติดเชื้อแล้ว และบวกอ่อนๆ ต้องไล่ย้อนหลัง  3 เดือน รวมตัวเลขที่มีคนที่ต้องตามสอบสวน 24 คนที่จะตามสอบสวน ส่วนสถานที่ที่เปิดเผยรายชื่อ ยังดำเนินการได้ปกติ เพราะความเสี่ยงไมได้เกิดกับสถานที่ และไม่ต้องกังวลส่วนบุคคลใกล้ชิดมีการเข้ารบบสอบสวนโรคแล้ว

“จ.เลย และกทม.บางแห่งที่คนไข้นี้ไปถึง ยังไม่มีสิ่งที่ต้องกังวลใจ เพราะตอนนี้มีข่าวในโซเชียลว่าโรงเรียนจะปิดขอย้ำว่าในจ.เลย ไม่ต้องปิดสถานที่ใด เป็นหน้าที่ของทีมสอบสวนโรคที่มีขึ้นมาจะนำมาตรวจรักษา”

นพ.ทวีศิลป์ ย้ำว่า กรณีหญิงคนนี้เท่ากับเป็นลบ และไม่ได้นับรวมกับจำนวนคนป่วยสะสมในประเทศไทย ส่วนคำถามที่ว่ามั่นใจไมไ่ด้ติดในประเทศ 
คาดติดเชื้อจากนอกประเทศ 3 เดือนก่อนมาไทย-แต่มีภูมิ

เมื่อถามว่าหญิงคนนี้ถือเป็นคนป่วยหรือไม่ และติดจากที่ไหน ผศ.นพ.ชนเมธ เตชะแสนศิริ รองผอ.การโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ได้นับว่าเป็นคนป่วยเพราะตรวจซ้ำ 2 ครั้ง เป็นลบและตรวจเลือดมีภูมิคุ้มกัน 1 ครั้ง แสดงว่าเขาเคยติดเชื้อในอดีต ซึ่งปัญหาในอดีตที่ผ่านมาน่าจะอยู่ในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่วันที่ตรวจเจอเมื่อ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา และเขาอาจจะติดมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือตอนที่อยู่ในจ.เลย จึงต้องสอวนฌโรคน้อยกลับไปทุกพื้นที่ และข้อูลทางระบาดวิทยาไม่มีคนไข้รายใหม่ มีแต่คนไข้ที่เข้าข่ายสอบสวนโรค และเรายังมั่นใจว่าไม่มีการติดภายในประเทศ

“แต่ขอให้รอดูผลจากการสอบสวนโรคอีกรอบ ดังนั้นจึงขอให้และในสถานที่ต่างๆที่บอกยังเปิดได้ตามปกติ และทำตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด ”
ตอนนี้ในสังคมตื่นตระหนกและต้องรอตรวจเพื่อให้เกิดความสบายใจ และจะมีการเพาะเชื้อในสิ่งส่งตรวจ และที่ตรวจชิ้นส่วนพันธุกรรมที่ตรวจไม่ใช่ซากชิ้นส่วนที่สมบูรณ์
 
https://news.thaipbs.or.th/content/295666
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่