นิยายเบาสมอง : Mikaza ไอ้บ้าเอ๊ย! ( 3 : เจ็บโอ๊ยเจ๊บ )

"นี่!   ไม่ใส่เสื้อก่อนอุ้มยัยปลายวะ!"   หนุ่มหล่อหน้ามนยืนเต็มตัวกอดอกโวยเพื่อน  แต่ใบหน้าคล้ายมีรอยยิ้ม
            สองหนุ่มสง่าเมื่อยืนใกล้กัน  ส่วนสูงนั้นเท่ากัน
            "กู...ก็ซัดสะเต็มข้อ   เห็นเสื้อฟ้า ๆ เสาเหล็กขาว ๆ ก็นึกว่าประตูมันอยู่ทางนั้น   ทำอะไรไม่ถูกโว้ย  อย่าพึ่งด่ากู"  เสียงห้าวพูดกลับแล้วคว้ารับเสื้อทันทีที่กอล์ฟโยนให้
            “ถามจริง ๆ เคืองปลายขนาดนั้น”
            “ใช่ที่ไหน  ต่อให้โกรธมากกว่านี้  กูก็ไม่ทำผู้หญิงหรอก”  เขาตอบขณะสวมเสื้อหัวยังอยู่ภายใน
            “แน่ใจ...กูรู้อยู่หรอกว่าเคืองปลาย  เรื่องที่ปล่อยลมจักรยานเมื่อวันก่อน  ได้จังหวะเตะบอลใส่  ไม่เนียนเลยนะ”   กอล์ฟพูดไปยิ้มไปพยายามคาดคั้นต้อนรัตนะต่อ  ตามประสาคนชอบกวน
            กัปตันทีมลูบคางขบคิด  เหตุไฉนเขาถึงยิงพลาดเป้า   ประตูกับสแตนด์สีฟ้าอยู่คนละทิศแทบตั้งฉากกัน
            พี่แจ๊สเดินออกมาคนแรกจากภายในโซนเตียงนอนพัก มีอาจารย์แดงและฟางเดินตามหลัง   พยาบาลสาวพุ่งปราดไปยืนตรงหน้าร่างสูง แหงนหน้ามอง
            "เธอ...ใครที่ไหนเขาบ้าฟุตบอลอย่างเธอ   พึ่งบริจาคเลือดตอนบ่ายสี่โมงไปหยก ๆ  แล้วไปซ้อมบอลต่อเลยเนี้ยนะ   ไม่สลบก็ดีเท่าไรแล้ว..."  หล่อนบ่นออกมาเสียงดังกรนด่าให้สำนึกตัว
            "ก็สลบนี่ครับ"   รัตนะชี้นิ้วไปที่สาวร่างบาง
            "นี่แนะ!  ยังจะเล่นอีก!"   มือเล็กจากกำเป็นแบวาดเร็วตบเข้าที่หัวรัตน์หนึ่งโบ๊ะทันที   แล้วเดินไปอยู่ข้างเตียงเปลี่ยนน้ำเสียงตามภาพที่เห็น 
"ผู้หญิงสวย ๆ  ตัวบาง ๆ  โดนลูกฟุตบอลอัดสะเต็มแรง   น่าสงสารจังเลย..."  
ดวงหน้าเล็กจิ้มลิ้มหลุบตามองร่างบางที่นอนแน่นิ่ง  เส้นผมดำสยายบางเบาปิดบังอยู่ครึ่งหน้า  มือเล็กจึงลูบหัวเบาอย่างเวทนา   พร้อมกับใช้สายตามองสำรวจทั่วเรือนร่าง  อาจมีบาดแผลฟกช้ำหลุดรอสายตา  มืออีกข้างใช้สำลีซับแอมโมเนียกวัดแกว่งเชื่องช้าที่ปลายจมูก
ร่างเล็กสันทัน  สูงไม่ถึงมาตรฐานชายไทย  ผิวกร้านดำแดง  แต่เมื่อครั้นอดีตยังหนุ่ม ๆ หลายเสียงแว่วบอกว่าฝีเท้าจัดจ้านยิ่งนัก  เดินมาสัมทับที่ด้านข้าง
            "หมอครับ   ครูว่าเราควรทำยังไงกันดี   ถ้าหนูปลายไม่พื้นง่าย  หน้าก็ดูเหมือนมีรอยแดงช้ำ  พ่อแม่คงโวยแน่   ลูกสาวต้องมาเสียโฉมเพราะเอ็ง  นายรัตนะ!"   
โค๊ชบอลกล่าวหนักแน่นชัดเจนคล้ายครูฝึกทหาร  ปลายตามองรัตนะเป็นคนสุดท้ายของสุ่มเสียง  หวังกดดันรัตน์เช่นเคยตามนิสัยโค๊ชกับศิษย์รัก   ขนาดอยู่นอกสนามนะนี่
            "เดี๋ยวหนูโทรเองค่ะอาจารย์   พยาบาลพูด...จะน่าเชื่อถือกว่านะคะ   ในสถานะการณ์แบบนี้"   ว่าแล้วก็ถอยฉากผละห่างไปหยิบโทรศัพท์ที่วางบนโต๊ะทำงาน  หล่อนต้องการปลีกตัวออกจากอาจารย์หนุ่มร่างเล็กผู้นี้อยู่แล้ว  ที่ยืนใกล้เธอจนเกินไป   
ร่างเล็กบางในชุดพยาบาล  เดินกลับมาเปลี่ยนมายืนข้างนักเรียนผมหน้าม้าสั้นเพียงบ่า
สองสาวต่างวัยยืนใกล้กัน  รูปร่างสัดส่วนหุ่นและทรงผมดันคล้ายกันคงเป็นทรงผมยอดฮิตของสาวสมัยนี้   ผิดกันที่ใบหน้าและผิวพรรณ  พยาบาลสาวดูมีออร่ามากกว่า
"ฟาง...พี่ขอเบอร์พ่อแม่ของปลายหน่อยสิ"   
            ขณะที่สาวน้อยแว่นกลมจะขยับปาก  มีมือเรียวซีดขาวจับที่ข้อมือเล็กของพี่แจ๊ส
            ทุกสายตาหันไปที่ใบหน้านวลละออ 
            ปลายนภาลืมตาได้เพียงครึ่งดวง  มองหน้าหญิงสองคน 
"อย่าพึ่งโทรนะคะ   เดี๋ยวพ่อปลาย  ไม่ให้ซ้อมเชียร์กันพอดี"  เสียงสั่นเทาอยู่ในลำคอพยายามฝืนพูดออกมา
            สองสาวพยุงร่างระหงประคองขึ้นมานั่งหนุนหมอนรองพิงหลังหัวเตียง   แล้วให้หนุ่ม ๆ ออกไปรอห้องข้างหน้า   รูดม่านรอบเตียงปิดมิดชิดตรวจอาการ
            เสียงรูดม่านดังขึ้นอีกครั้ง  สามหนุ่มยืนลุ้นมองตาม
            ร่างเล็กเดินนำ  มีฟางคอยประคองปลายนภาอย่างระมัดระวังเดินตามหลัง   ก้าวแรกที่พ้นผ่านห้องออกมา  เดินเร็วไปที่รัตนะ
          ฝามือเล็กบางฟาดเร็วเบิร์ดกะโหลกหนุ่มร่างสูงเสียงดังสองที
            "นี่ดูสิ!   นอกจากหน้ามีรอยยี่ห้อบอลแล้ว    ข้อมือน้องเค้ายังเคล็ดอีก  ดีนะที่ไม่หัก!"  เธอกระแทกเสียงดังพอดู   
            เมื่อพูดอย่างชี้เป้า  จึงมองไปที่เดียวกัน  บริเวณหน้าผากเหนือคิ้วซ้าย  มีรอยยี่ห้อฟุตบอลรูปดาวห้าแฉกเป็นรอยแดงเด่นเห็นได้ชัด  ขนาดยืนห่าง 2-3 เมตรยังเห็น  
แทนที่หนุ่ม ๆ จะสงสารหน้าสวย ๆ   แต่ต้องได้กลั้นอมขำเก็บรอยยิ้มไว้ที่เกือบทะลักออกมาจนปวดกราม  อยากจะหัวเราะออกมาเลยให้มันแล้ว ๆ ก็ไม่กล้า   เพราะสายตาของปลายนภาตอนนี้มองแรงเคืองรัตนะเป็นอย่างมาก   มือเรียวสองข้างกำขยี้ขย้ำขากางเกงตัวเองไว้แน่นระบายโกรธ
            เดือนโรงเรียนรู้ดีว่าเป็นความผิดตนเองเต็ม ๆ  พอสะกดกลั้นขำเอาไว้ได้  มือลูบหัวตัวเองไปมารู้สึกทั้งผิดทั้งอาย   ซ้ำโดนพี่พยาบาลตบหัวต่อหน้าคนอื่น  จึงเดินหน้าหงอย ๆ  ไปหาหัวหน้าปอมปอมเชียร์ที่คนยืนประคอง   
ตาโตคู่งามเหลือกแทบถลน  มันดูเหมือนมีมีดพวยพุ่งออกมานับสิบ ๆ เล่ม  คล้ายสามารถเฉือนเนื้อรัตนะออกมาแล่ทาเกลือสะให้ได้  เธออยากจะระเบิดแค้นออกมา  แต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรง   
รัตนะสู้รังสีอาฆาตไม่ไหวหลบตามองทางอื่น  เขาต้องรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำ  จึงเดินเข้าไปหาอีกก้าวเพื่อขอโทษ   ขณะก้มโค้งยกมือไหว้ขอโทษสำนึกผิดอย่างจริงใจ
          ร่างใหญ่ล้มฮวบทั้งยืนลงทันที  เหมือนตุ๊กตายางที่ถูกปล่อยลมจนหมด  
            โชคยังดีที่มีผู้ชายเหลืออยู่ในห้องพยาบาล   ไม่งั้นเอาร่างสูงใหญ่ของรัตนะไม่ขึ้นแน่ ๆ  จะให้พวกไทยมุงด้านนอกเข้ามาช่วยก็ดูจะวุ่นวายไปเกินควบคุม
            ผ่านไปไม่นาน  รัตนะได้สติลืมตาขึ้นขยับตัวลุกขึ้นนั่ง   
            พี่แจ๊สเห็นอาการไม่สู้ดีของเด็กในสังกัดและน้องนักเรียนหญิงคนป่วย  จึงเดินไปหาโค๊ชบอล
            "อาจารย์ค่ะหนูว่า   เอารถกระบะมาจอดหน้าห้องนี่เถอะนะคะ   สองคนนี้คงกลับบ้านเองไม่ได้แล้วละ  คนหนึ่งก็เจ็บข้อมือขี่มอ’ไซค์กลับบ้านไม่ได้...”
แล้วเหลือบมองหนุ่มร่างใหญ่  “อีกคนก็อย่าพึ่งบ้าพลัง   อวดดีปั่นจักรยานกลับบ้าน   เดี๋ยวก็หน้ามืดลงข้างทาง   เด็กสมัยนี้ทำตัวอย่างกะเป็นนักข่าว   ดูสิยังออกันเต็ม   นี่กะถ่ายรูปลงโซเชียลกันรั่ว ๆ แน่"  หน้าเล็กปลายตาชี้นำไปหน้าต่างแต่ละบาน   
ถึงแม้มีม่านหนาบังไว้  แต่ก็เผยให้เห็นเงารางของกลุ่มอยู่มากมาย  พยายามชะเง้อยื้อแย่งเพื่อมองดูคนที่อยู่ด้านใน
            "เอางี่   ผมมีแผน..." หนุ่มหล่อเบอร์ 2  ยิ้มย่องเหมือนคิดอะไรสนุก ๆ ได้
 
 
เมื่อรถกระบะสีขาว 4 ประตูเคลื่อนตัวมาจอดเทียบที่หน้าอาคารเดี่ยวชั้นเดียว   บานประตูหน้าอาคารเปิดออกกว้าง  
เหล่าแฟนคลับจากเกาะหนึบเหมือนปลิงตามบานหน้าต่าง   พากันย้ายมาหน้าอาคารอย่างรวดเร็วต่างแย่งชิงพื้นที่   โทรศัพท์มือถือชูร่าเร็วไว  หวังที่จะไม่พลาด  เตรียมกดบันทึกเรื่องราวไม่ว่าจะภาพนิ่งหรือเคลื่อนไว  บางคนถึงขั้นกด Live สด  ไปกันใหญ่เลยทีนี้   
          โอปป้าหุ่นขาวจั้วยืนเด่นกลางประตู  ใบหน้าขาวนวลประดับยิ้มละมุนอย่างมีเสน่ห์   เขาอยู่ในชุดฟุตบอลแค่เพียงครึ่งล่าง   เผยอกขาวแผ่นไหล่กว้าง  ผิวพรรณดีจนผู้หญิงบางคนยังต้องอาย  อุ้มผู้หญิงร่างบางไว้ในอ้อมแขน  เสื้อบอลของกอล์ฟปกปิดใบหน้าคลุมร่างเกือบมิดทั้งตัว  เห็นเพียงช่วงขาที่สวมใส่กางเกงวอร์มขายาวสีน้ำเงินเข้ม   แต่รองเท้าผ้าใบที่ใส่  แฟนคลับจำได้ว่าเป็นของปลายนภา
ความมึนงงของเหล่าไทยมุงเกิดขึ้นในชั่วขณะ...ทำไมกอล์ฟต้องอุ้มปลาย
ร่างสูงยืนอุ้มสตรีนั้นลอบมองทุกสายตารวดเร็ว   จึงต้องเอ่ยบางอย่างเพื่อทำลายบรรยากาศที่เงียบสงัดลง  ก่อนที่หลายเสียงจะซักถาม
  "มะ...เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอที่บ้านเอง"  น้ำเสียงนุ่มนวลใบหน้าหล่อเหลาเกาหลีประกอบกับหุ่นขาวล่ำน่ากิน   มันทำให้ไทยมุงขณะนี้ต่างเคลิ้มตามไปด้วย
            ว่าแล้วก็ก้าวเดินออกไปยังลานจอดรถมอเตอร์ไซค์นักเรียน   ห่างออกไป 200 เมตร   กลุ่มผู้ติดตามทุกคนก็เดินตามติดสิ   ตอนนี้ไม่ต้องใช้ความคิดประเมินสถานการณ์กันแล้ว  ใช้แต่ตาเชยชมของดี
            ...หรือพี่กอล์ฟจะเปลี่ยนมาจีบพี่ปลายแล้ว...
          ...อ้าวแล้วที่จีบตรีก่อนหน้าละ...
ขณะเดินตามมีบางคนซุบซิบพอให้ได้ยิน  ซึ่งก็โดนใจคนส่วนมากที่ตามเชียร์  หากเบอร์ 2  จูนกันเองเคมีก็น่าจะเข้ากันดี   เรื่องนี้คงได้เมาท์กับเพื่อนสนุกปากกันเลยคืนนี้
กอล์ฟเมื่อได้ยินยิ้มในหน้า  รู้สึกเข้าทางตามที่วางไว้
            เมื่อเดินมาถึงรถมอเตอร์ไซค์ฟีโน่สีขาวลายดำ   หลายคนจำได้  คันนี้ไม่ใช่ของปลายนภานี่  ของกอล์ฟก็ไม่ใช่  เดือนอันดับสองเดินมาโรงเรียนอยู่แล้ว  บ้านใกล้สะจนยืนมองตรงนี้ยังเห็นหลังคาเรือน
มือหนาสะกิดท่อนแขนส่งสัญญาณสามที  ร่างเล็กบางสันทัดผมม้าบ๊อบสั้นสวมแว่นตากลม  ก็เปิดเสื้อบอลออกพ้นตัวทันที  
กอล์ฟปล่อยให้ฟางลงมายืน   เอาเสื้อฟุตบอลกลับมาสวมคืน  ยิ้มแย้มให้ทุกคนที่เดินตาม   เหล่าแฟนคลับสาว ๆ รับยิ้มหล่อของโอปป้าหน้ามนอย่างปลาบปลื้ม  ตอนนี้รู้แล้วว่าเป็นแผนของกอล์ฟ   แต่ทุกคนรู้สึกว่าคุ้มเห็นหุ่นเนื้อตัวในระยะกระชั้นชิด  คงไม่มีโอกาสไหนเท่าครั้งนี้อีกแล้ว  
            บางคนนึกขึ้นได้ก็อิจฉาเพื่อนสนิทปลายนภา  ที่อยู่ในอ้อมอกของกอล์ฟ   ได้สัมผัสอกขาวล่ำแน่นทุกย่างก้าว  อยากรู้ตอนนั้นมือไม้เธอซุกซนรึเปล่า  คนโชคดีสุดน่าจะเป็นฟาง  เพราะกัปตันทีมปอมปอมเชียร์ตอนสลบเมือดกลับไม่รู้สึกตัวขณะอยู่ในอ้อมอกของรัตนะ
            กอล์ฟและฟางไม่รอช้าให้เกิดการไถ่ถาม  ชิงจังหวะคนหนึ่งสตาร์ทรถบิดออกไปโดยไว  อีกคนวิ่งเร็วพุ่งตรงกลับบ้านตัวเอง
            รถกระบะสีขาว 4 ประตูของอาจารย์แดง   แล่นผ่านกลุ่มนักเรียนเหล่านี้ไป  ตอนนี้ทำได้เพียงแค่มองท้ายกระบะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่