ม็อบประชาชนปลดแอกมากันล้นลงถนน ตั้งเวทีเตรียมปราศรัยใหญ่ ไม่เอา [เผล่ะจัง]
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4717182
ม็อบประชาชนปลดแอกมากันล้นลงถนน ตั้งเวทีเตรียมปราศรัยใหญ่ ไม่เอา [เผล่ะจัง] ทำให้ต้องปิดการจราจรบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยบางส่วนไปโดยปริยาย
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 16 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีกลุ่มคณะประชาชนปลดแอกนัดชุมนุมใหญ่ เพื่อย้ำ 3 ข้อเรียกร้องกับ 2 จุดยืน ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเวลา 15.00 น.
ในส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัย กองบัญชาการตำรวจนครบาล จัดกำลังตำรวจ 4 กองร้อย กองร้อยละ 150 นาย รวม 600 นาย พร้อมตำรวจชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบ ลงพื้นที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยตั้งแต่บ่ายโมงไปจนจบสถานการณ์ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย และป้องกันบุคคลที่ 3 เข้ามาสร้างความวุ่นวาย
ทั้งนี้ สน.ชนะสงคราม จะรับผิดชอบพื้นที่ฝั่งร้านแมคโดนัลด์ของกลุ่มที่ใช้ชื่อว่าเลือกข้างประชาธิปไตย โดยช่วงเช้า พ.ต.ท.ปิติพันธ์ กฤดากร ณ อยุธยา รองผกก.สน.ชนะสงคราม มาทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุมให้ชุมนุมอย่างสงบ และอนุญาตให้ชุมนุมได้บนทางเท้าเท่านั้น ซึ่งวันนี้ส่วนของสน.ชนะสงคราม จัดกำลัง 2 กองร้อยดูแลความเรียบร้อย และกลุ่มนี้ได้ขออนุญาตชุมนุมไว้ 10.00-15.00 น. ก่อนไปรวมกับกลุ่มคณะประชาชนปลดแอก
ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. ผู้ชุมนุมและนักศึกษา เริ่มทยอยเดินทางมายังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจำนวนเพิ่มมากขึ้น จนผู้ชุมนุมเริ่มล้นลงถนนราชดำเนิน ก่อนผู้ชุมนุมจะฮือลงไปบนถนน ทำให้ต้องปิดการจราจรบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยบางส่วนไปโดยปริยาย ก่อนเตรียมตั้งเวทีปราศรัยใหญ่
'แรงงาน' ฉะรัฐ 'รังแกเด็ก' ไล่จับทุกวัน ลั่น 'สัญญา' วายป่วง โกหกพกลม เห็นด้วย 'ยุบสภา'
https://www.matichon.co.th/politics/news_2309383
‘แรงงาน’ ฉะรัฐ ‘รังแกเด็ก’ ไล่จับทุกวัน ลั่น ‘สัญญา’ วายป่วง โกหกพกลม เห็นด้วย ‘ยุบสภา’
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม เวลา 09.30 น. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน จัดเสวนา “
ทำไมขบวนการแรงงานต้องร่วมปลดแอก” เพื่อประกาศเจตนารมณ์สนับสนุนขบวนการนักศึกษาที่ออกมาเรียกร้องเพื่อสิทธิ เสรีภาพ ลดช่องว่างทางชนชั้น ภายใต้ 3 ข้อเรียกร้อง คือ
1. หยุดคุกคามประชาชน
2. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่
และ 3. ยุบสภา
โดยเพิ่มเติมคือ 4. รัฐสวัสดิการ
นาง
ศรีไพร นนทรีย์ ตัวแทนกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง ในฐานะนักจัดตั้งสหภาพแรงงาน กล่าวว่า เรื่องการยุบสภานั้น ยุบไม่ยุบมีอยู่ในใจ เหตุผลที่ต้องเข้าร่วมปลดแอก เพราะมีเรื่องการยุบสภา ซึ่งตนเห็นด้วย เพราะคือการแสดงออกภายใต้หลักการประชาธิปไตย ทั่วโลกสากลก็มีเดินขบวนประท้วง แต่ในประเทศไทยโดนจับเข้าคุก บางคนสูญหาย รัฐบาลไม่มีความชอบธรรมที่จะอยู่ต่อไปอีกแล้ว นโยบายของพลังประชารัฐ ที่ว่า ถ้าได้เข้ามาเป็นรัฐบาล จะให้ค่าจ้างขั้นต่ำ 400-425 บาท ปัจจุบันยังมีคนกินเงินเดือนไม่ถึง 9,000 บาท ลองไปถามลูกจ้างอิเล็กทรอนิกส์แถวหลักสี่ดู แล้วพวกเขาจะอยู่อย่างไร
“รปภ. ทำงาน 12 ชั่วโมง ไม่เคยได้ค่าจ้างขั้นต่ำด้วยซ้ำ ลูกจ้างรถบรรทุก 10, 18, 22 ล้อ บางบริษัทอย่างร่ำรวย การันตีค่าจ้าง 2,500 ต่อเดือน ยิ่งไม่ได้การันตีเป็นบริษัทคนขับได้แค่ค่าเที่ยว ซึ่งเขากินทั้งครอบครัวปัญหาไม่เคยถูกแก้ไข มีแต่เหยียบให้จมดิน เหมือนที่ คสช.เข้ามาปีแรก ฟากรังสิตโดนประจำ เขาบอกขอให้แก้ไขปัญหาภายในจังหวัด อย่านำเข้ากรุงเทพ กอ.รมน.บอกกับเราแบบนี้ตลอดเวลา ถูกขู่ตลอดเวลา ความจริงแทบจะแยกไม่ได้ระหว่างรัฐบาลประยุทธ์ 1 กับ 2 เพราะเป็นคนเดิมๆ ทำอะไรแบบเดิมๆ ผู้ใช้แรงงานที่ผ่านมาก็ถูกคุกคาม มีผู้ที่คิดต่างแล้วสูญหาย รัฐบาลเงียบเฉย ปัจจุบันพ่อแม่ก็ยังรอลูกกลับบ้าน เหล่านี้ ใครจะเป็นกระบอกเสียงให้เขา วันหนึ่งจะเกิดขึ้นกับผู้ใช้แรงงานหรือไม่ เพราะปี 2557 เคยมีการอุ้มผู้นำแรงงานขึ้นรถตู้ ตอนเอากลับมาส่ง บอกว่า ต้องยุติการชุมนุมคนงานทันที คนงานก็ยุติภายใน 2 วัน ข้อเรียกร้วงไมได้อะไร”
“ล่าสุด เวลารัฐบาลพูดว่ามีการเลือกตั้งแล้ว เรามีประชาธิปไตย 99.99 เปอร์เซ็นต์ แต่ทนายอานนท์ยังถูกจับ เด็กคืออนาคตของชาติ เวลาพูดดีจริงๆ ท่องมาแต่ไหนแต่ไร แต่จับอนาคตของชาติเกือบทุกวัน ทำแบบนี้ได้อย่างไร แล้วอนาคตของชาติจะมีจริงหรือไม่ ถ้าให้ใครบางคนที่แค่มานั่งถ่ายรูปในสภาก็หลับ จะลุกทีต้องผยุง 3-4 คน นี่คืออนาคตของชาติหรือ เสียสละให้ลูกหลานดีไหม” นาง
ศรีไพรกล่าว และว่า
“ช่วงที่เขาเข้ามา จะเห็นสโลแกน ‘เราจะทำตามสัญญา’ เพราะแต่เพลง สัญญา....หายวายป่วง คืนความสุขทุกวัน ถามว่าใครได้รับความสุขนั้นบ้าง”
“รัฐจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง จะเน้นคนไว้เป็นศูนย์กลาง ศูนย์กลางมาก จับไว้รวมในศูนย์ที่เตรียมไว้ ตั้งแต่รัฐประหาร เศรษฐกิจแย่ลงมาตลอด ทั้งที่ทีมเศรษฐกิจบอกว่าจะดีขึ้น ซึ่งไม่ดีตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังเลือกตั้งก็ไม่ดีขึ้น โควิดมาก็ยิ่งซ้ำร้าย ถ้ามีผู้นำรัฐบาลดีๆ ประชาชนจะได้ลืมตาอ้าปาก ไม่ต้องมารมควันในรถมากขนาดนี้ มากกว่าคนคิดโควิดตาย คนจนเป็นหนี้สินมากขึ้น มีลูกคนงานคนไหนที่ไม่กู้เงิน กยศ.บ้าง รัฐบาลก็พยายามทวงหนี้ จะทำให้คนจนลืมตาอ้าปากได้อย่างไร ข้าวของแพงขึ้นมากมาย มีแต่ให้คนจนสู้ตามลำพัง เหล่านี้เป็นปัญหาอย่างหนัก จำเป็นที่เราจะต้องออกมาร่วมกันกับขบวนการอื่น โดยเฉพาะนักศึกษาที่มาจุดประเด็นให้เห็นความสำคัญ”
นาง
ศรีไพรกล่าวอีกว่า การนั่งที่บ้านไม่มีส่วนร่วม ไม่ใช่อีกต่อไป แรงงานเราได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรกๆ ด้วยซ้ำ ควรออกมาร่วมกันให้รัฐบาลนี้ไปได้เสียที เพื่อให้คนอื่นที่มีฝีมือ มีโอกาสเข้ามาบริหารประเทศ
“รมต.แรงงาน ล่าสุด มาตั้งคำถามว่า ต้องการอะไร บ้าหรือป่าว มานั่งเป็นรัฐมนตรี แต่ไม่รู้ว่าลูกจ้างต้องการอะไร นโยบายตัวเองก็มี ทำให้ได้ก่อน รัฐบาลนี้มาทำอะไรไม่ได้ โกหกพกลมไปวันๆ รังแกแต่เด็ก ผู้ใหญ่ที่รังแกเด็ก ไม่มีที่ไหนในโลกเขาเอา”
“กรณีพรรคการเมือง ถ้าจะกำหนดอนาคตของตัวเอง ควรจะมีพรรคของชนขั้นล่าง ซึ่งก็มี พรรคสามัญชน พรรคเกียนเกิดขึ้น แต่ด้วย รัฐธรรมนูญไม่เอื้มให้พรรคเล็กเกิดขึ้น เราเคยมีแนวคิดเรื่อง พรรคแรงงาน อาจจะยากมากขึ้น แต่ยังไม่ละความพยายาม สำคัญสุดคือ คนใช้แรงงานต้องมานั่งคิดว่า จะไปรับใช้ชนชั้นสูง หรือชนชั้นล่าง จะยกมือชูกำปั้น หรือ จะพนมมือกราบกราน เป็นเรื่องที่เราจะต้องคิดกัน” นาง
ศรีไพรกล่าว
JJNY : ม็อบประชาชนปลดแอกมากันล้นลงถนน/แรงงานเห็นด้วยยุบสภา/'วันชัย'ชี้กระแสแรงเกินคาด/“โชว์ช้างไทย” อียู/สหรัฐฯ แบน
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4717182
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 16 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีกลุ่มคณะประชาชนปลดแอกนัดชุมนุมใหญ่ เพื่อย้ำ 3 ข้อเรียกร้องกับ 2 จุดยืน ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเวลา 15.00 น.
ในส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัย กองบัญชาการตำรวจนครบาล จัดกำลังตำรวจ 4 กองร้อย กองร้อยละ 150 นาย รวม 600 นาย พร้อมตำรวจชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบ ลงพื้นที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยตั้งแต่บ่ายโมงไปจนจบสถานการณ์ ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวาย และป้องกันบุคคลที่ 3 เข้ามาสร้างความวุ่นวาย
ทั้งนี้ สน.ชนะสงคราม จะรับผิดชอบพื้นที่ฝั่งร้านแมคโดนัลด์ของกลุ่มที่ใช้ชื่อว่าเลือกข้างประชาธิปไตย โดยช่วงเช้า พ.ต.ท.ปิติพันธ์ กฤดากร ณ อยุธยา รองผกก.สน.ชนะสงคราม มาทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุมให้ชุมนุมอย่างสงบ และอนุญาตให้ชุมนุมได้บนทางเท้าเท่านั้น ซึ่งวันนี้ส่วนของสน.ชนะสงคราม จัดกำลัง 2 กองร้อยดูแลความเรียบร้อย และกลุ่มนี้ได้ขออนุญาตชุมนุมไว้ 10.00-15.00 น. ก่อนไปรวมกับกลุ่มคณะประชาชนปลดแอก
ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. ผู้ชุมนุมและนักศึกษา เริ่มทยอยเดินทางมายังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจำนวนเพิ่มมากขึ้น จนผู้ชุมนุมเริ่มล้นลงถนนราชดำเนิน ก่อนผู้ชุมนุมจะฮือลงไปบนถนน ทำให้ต้องปิดการจราจรบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยบางส่วนไปโดยปริยาย ก่อนเตรียมตั้งเวทีปราศรัยใหญ่
'แรงงาน' ฉะรัฐ 'รังแกเด็ก' ไล่จับทุกวัน ลั่น 'สัญญา' วายป่วง โกหกพกลม เห็นด้วย 'ยุบสภา'
https://www.matichon.co.th/politics/news_2309383
‘แรงงาน’ ฉะรัฐ ‘รังแกเด็ก’ ไล่จับทุกวัน ลั่น ‘สัญญา’ วายป่วง โกหกพกลม เห็นด้วย ‘ยุบสภา’
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม เวลา 09.30 น. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน จัดเสวนา “ทำไมขบวนการแรงงานต้องร่วมปลดแอก” เพื่อประกาศเจตนารมณ์สนับสนุนขบวนการนักศึกษาที่ออกมาเรียกร้องเพื่อสิทธิ เสรีภาพ ลดช่องว่างทางชนชั้น ภายใต้ 3 ข้อเรียกร้อง คือ
1. หยุดคุกคามประชาชน
2. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่
และ 3. ยุบสภา
โดยเพิ่มเติมคือ 4. รัฐสวัสดิการ
นางศรีไพร นนทรีย์ ตัวแทนกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง ในฐานะนักจัดตั้งสหภาพแรงงาน กล่าวว่า เรื่องการยุบสภานั้น ยุบไม่ยุบมีอยู่ในใจ เหตุผลที่ต้องเข้าร่วมปลดแอก เพราะมีเรื่องการยุบสภา ซึ่งตนเห็นด้วย เพราะคือการแสดงออกภายใต้หลักการประชาธิปไตย ทั่วโลกสากลก็มีเดินขบวนประท้วง แต่ในประเทศไทยโดนจับเข้าคุก บางคนสูญหาย รัฐบาลไม่มีความชอบธรรมที่จะอยู่ต่อไปอีกแล้ว นโยบายของพลังประชารัฐ ที่ว่า ถ้าได้เข้ามาเป็นรัฐบาล จะให้ค่าจ้างขั้นต่ำ 400-425 บาท ปัจจุบันยังมีคนกินเงินเดือนไม่ถึง 9,000 บาท ลองไปถามลูกจ้างอิเล็กทรอนิกส์แถวหลักสี่ดู แล้วพวกเขาจะอยู่อย่างไร
“รปภ. ทำงาน 12 ชั่วโมง ไม่เคยได้ค่าจ้างขั้นต่ำด้วยซ้ำ ลูกจ้างรถบรรทุก 10, 18, 22 ล้อ บางบริษัทอย่างร่ำรวย การันตีค่าจ้าง 2,500 ต่อเดือน ยิ่งไม่ได้การันตีเป็นบริษัทคนขับได้แค่ค่าเที่ยว ซึ่งเขากินทั้งครอบครัวปัญหาไม่เคยถูกแก้ไข มีแต่เหยียบให้จมดิน เหมือนที่ คสช.เข้ามาปีแรก ฟากรังสิตโดนประจำ เขาบอกขอให้แก้ไขปัญหาภายในจังหวัด อย่านำเข้ากรุงเทพ กอ.รมน.บอกกับเราแบบนี้ตลอดเวลา ถูกขู่ตลอดเวลา ความจริงแทบจะแยกไม่ได้ระหว่างรัฐบาลประยุทธ์ 1 กับ 2 เพราะเป็นคนเดิมๆ ทำอะไรแบบเดิมๆ ผู้ใช้แรงงานที่ผ่านมาก็ถูกคุกคาม มีผู้ที่คิดต่างแล้วสูญหาย รัฐบาลเงียบเฉย ปัจจุบันพ่อแม่ก็ยังรอลูกกลับบ้าน เหล่านี้ ใครจะเป็นกระบอกเสียงให้เขา วันหนึ่งจะเกิดขึ้นกับผู้ใช้แรงงานหรือไม่ เพราะปี 2557 เคยมีการอุ้มผู้นำแรงงานขึ้นรถตู้ ตอนเอากลับมาส่ง บอกว่า ต้องยุติการชุมนุมคนงานทันที คนงานก็ยุติภายใน 2 วัน ข้อเรียกร้วงไมได้อะไร”
“ล่าสุด เวลารัฐบาลพูดว่ามีการเลือกตั้งแล้ว เรามีประชาธิปไตย 99.99 เปอร์เซ็นต์ แต่ทนายอานนท์ยังถูกจับ เด็กคืออนาคตของชาติ เวลาพูดดีจริงๆ ท่องมาแต่ไหนแต่ไร แต่จับอนาคตของชาติเกือบทุกวัน ทำแบบนี้ได้อย่างไร แล้วอนาคตของชาติจะมีจริงหรือไม่ ถ้าให้ใครบางคนที่แค่มานั่งถ่ายรูปในสภาก็หลับ จะลุกทีต้องผยุง 3-4 คน นี่คืออนาคตของชาติหรือ เสียสละให้ลูกหลานดีไหม” นางศรีไพรกล่าว และว่า
“ช่วงที่เขาเข้ามา จะเห็นสโลแกน ‘เราจะทำตามสัญญา’ เพราะแต่เพลง สัญญา....หายวายป่วง คืนความสุขทุกวัน ถามว่าใครได้รับความสุขนั้นบ้าง”
“รัฐจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง จะเน้นคนไว้เป็นศูนย์กลาง ศูนย์กลางมาก จับไว้รวมในศูนย์ที่เตรียมไว้ ตั้งแต่รัฐประหาร เศรษฐกิจแย่ลงมาตลอด ทั้งที่ทีมเศรษฐกิจบอกว่าจะดีขึ้น ซึ่งไม่ดีตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังเลือกตั้งก็ไม่ดีขึ้น โควิดมาก็ยิ่งซ้ำร้าย ถ้ามีผู้นำรัฐบาลดีๆ ประชาชนจะได้ลืมตาอ้าปาก ไม่ต้องมารมควันในรถมากขนาดนี้ มากกว่าคนคิดโควิดตาย คนจนเป็นหนี้สินมากขึ้น มีลูกคนงานคนไหนที่ไม่กู้เงิน กยศ.บ้าง รัฐบาลก็พยายามทวงหนี้ จะทำให้คนจนลืมตาอ้าปากได้อย่างไร ข้าวของแพงขึ้นมากมาย มีแต่ให้คนจนสู้ตามลำพัง เหล่านี้เป็นปัญหาอย่างหนัก จำเป็นที่เราจะต้องออกมาร่วมกันกับขบวนการอื่น โดยเฉพาะนักศึกษาที่มาจุดประเด็นให้เห็นความสำคัญ”
นางศรีไพรกล่าวอีกว่า การนั่งที่บ้านไม่มีส่วนร่วม ไม่ใช่อีกต่อไป แรงงานเราได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรกๆ ด้วยซ้ำ ควรออกมาร่วมกันให้รัฐบาลนี้ไปได้เสียที เพื่อให้คนอื่นที่มีฝีมือ มีโอกาสเข้ามาบริหารประเทศ
“รมต.แรงงาน ล่าสุด มาตั้งคำถามว่า ต้องการอะไร บ้าหรือป่าว มานั่งเป็นรัฐมนตรี แต่ไม่รู้ว่าลูกจ้างต้องการอะไร นโยบายตัวเองก็มี ทำให้ได้ก่อน รัฐบาลนี้มาทำอะไรไม่ได้ โกหกพกลมไปวันๆ รังแกแต่เด็ก ผู้ใหญ่ที่รังแกเด็ก ไม่มีที่ไหนในโลกเขาเอา”
“กรณีพรรคการเมือง ถ้าจะกำหนดอนาคตของตัวเอง ควรจะมีพรรคของชนขั้นล่าง ซึ่งก็มี พรรคสามัญชน พรรคเกียนเกิดขึ้น แต่ด้วย รัฐธรรมนูญไม่เอื้มให้พรรคเล็กเกิดขึ้น เราเคยมีแนวคิดเรื่อง พรรคแรงงาน อาจจะยากมากขึ้น แต่ยังไม่ละความพยายาม สำคัญสุดคือ คนใช้แรงงานต้องมานั่งคิดว่า จะไปรับใช้ชนชั้นสูง หรือชนชั้นล่าง จะยกมือชูกำปั้น หรือ จะพนมมือกราบกราน เป็นเรื่องที่เราจะต้องคิดกัน” นางศรีไพรกล่าว