รีวิวการขูดมดลูกครั้งแรกในชีวิต เพราะแท้งค้าง ตัวอ่อนไม่เจริญเติบโตต่อในครรภ์ ตอนที่ตรวจอายุครรภ์ 12 วีค แต่ตัวอ่อนหยุดเจริญเติบโตไปตอน 9 วีค หลังจากรอน้องมา 10 ปี นี่คือท้องแรก มันเป็นข่าวร้ายที่ไม่คิดว่าจะเกิดกับตัวเองจริงๆ คุณหมอที่ฝากครรภ์ แนะนำให้ขูดมดลูก เพราะผ่านมา 3 วีคแล้วยังไม่หลุดออกมาเอง เดี๋ยวจะเป็นอันตรายต่อตัวเรา คุณหมอเลยส่งตัวไปที่รพ.ที่มีสิทธิประกันสังคม เพื่อรักษาต่อ
12 ส.ค 9 โมงเช้า ไปพบคุณหมอที่รพ.ที่มีสิทธิประกันสังคม คุณหมอเช็คเอกสารฝากครรภ์เ(เก่า) และ ใบส่งตัว พร้อมกับซาวด์เช็คน้องในครรภ์ว่า เป็นไปตามที่หมอส่งตัวมาหรือไม่ พอหมอลงความเห็นตรงตามใบส่งตัว หมอก็นัดมาขูดมดลูกในวันถัดไป งดน้ำงดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืน หมอนัดพบก่อนทำตอน 9 โมงเช้า
- หลังกลับมาจากรพ. ก็หาข้อมูลเตรียมตัว อาการหลังทำ อาการข้างเคียง เพื่อเป็นข้อมูล หลังจากอ่านไม่กังวลตอนทำเลย แต่กังวลอาการปวดท้องต้องเหน็บยามากกว่า
13 ส.ค มาถึงวันที่ต้องไปทำจริง ไปพบคุณหมอ คุณหมอแจ้งขั้นตอนต่างๆ ระยะเวลาในการขูดมดลูก จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที เจาะเลือด X-Ray ปอด เหน็บยา และ รอคิวห้องผ่าตัด ว่างเมื่อไหร่ได้เข้าตอนนั้น ใจหวิวมาก แล้วกี่โมงคะคุณหมอ .. มาที่ขั้นตอนเริ่มแรก
1. เริ่มด้วย เซ็นต์เอกสารยินยอมผ่าตัด และ รับการรักษา
2. จองห้องแอดมิทเพื่อแอดมิท เราเลือกห้องคู่ มีส่วนต่างเพิ่มจากประกันสังคมนิดหน่อย ที่รพ.นี้ หากมีสิทธิประกันสังคมจะได้ลดค่าใช้จ่ายส่วนเกินด้วย 10%
3. X-Ray ปอด
4. เข้าห้องพักเพื่อรอห้องผ่าตัดเรียกคิว
มาถึงห้องพัก พยาบาลก็เอาชุดมาให้เปลี่ยน สอนวิธีใส่ผ้าอนามัยแบบยางยืด หากแต่งหน้ามาล้างหน้าให้สะอาด ห้ามทาเล็บมือเล็บเท้า ถอดเครื่องประดับจากตัวออกให้หมด สักพักพยาบาลก็มาเจาะเลือดเพื่อเตรียมเลือดสำรอง ต่อสายน้ำเกลือ และ ขั้นตอนที่รอคอยคือ เหน็บยา
เหน็บยาไปตอน 12.00 (จากที่อ่านรีวิวคนอื่นคือ อาการปวดจะมาหลังจากเหน็บยา 1 ชม.) แต่..ของเรานี่มาหลังจากเหน็บยา 30 นาที และ ยังไม่รู้ว่าจะได้คิวผ่าตัดตอนกี่โมง และ ใช่ค่ะ ปวดมาก ปวดเหมือนช่วงล่างจะหลุด ปวดท้องปจด.ว่าทรมานแล้ว ต้องหยุดงานนอนเฉยๆ แต่วันนั้นทรมานมากกว่า น้ำตาไหลมาเองโดยอัตโนมัติ แล้วมีโควต้ายาแก้ปวดแค่ 1 ครั้งค่ะ เรียกพยาบาลขอยา ตอน 13.00 น. ฉีดยาอาการก็ทุเลาลง แต่ยังไม่ได้หายขาดซะทีเดียว สักพักไม่ถึง 1 ชม. อาการปวดมาอีก คราวนี้ขอยาไม่ได้แล้ว ทนนอนปวดดิ้นไปดิ้นมา รู้สึกว่าเลือดไหลมาเยอะมาก ปวดจนหลับไปตอนไหนไม่รู้ หลับแบบจับราวเตียงแน่นมาก สักพักนึงได้ยินเสียงเคาะประตูพร้อมเสียงเข็นเตียง ห้องผ่าตัดเรียกคิวแล้ว ...
มาถึงห้องผ่าตัด พยายามมองหานาฬิกาแต่หาไม่เจอ ไม่รู้ว่าเข้าห้องผ่าตัดไปตอนกี่โมง ครั้งแรกในชีวิตที่ได้เข้าห้องผ่าตัด มันไม่เย็น แต่มันวุ่นวายมาก มีหลายห้อง พยาบาลเดินสวนไปมา พยาบาลมาซักประวัติ 3 คน เช็คสติ ตรวจฟัน ตรวจเล็บ แล้วคุณหมอก็มาคุยต่อ แล้วก็เข็นเข้าห้องผ่าตัด เปลี่ยนเตียงปุ๊บ มีพยาบาล 4 คน แขน ซ้าย-ขวา ขา ซ้าย-ขวา ติดอะไรไม่รู้เต็มหน้าอก วัดนิ้ว วัดความดัน ต่อขาหยั่ง สติสุดท้ายที่รับรู้คือ ตอนยกขา เลือดไหลเต็มต้นขาและหมอพูดว่า หลุดแล้วนิ แล้วภาพก็ตัดไปเลย
รู้สึกตัวอีกทีคือ พยาบาลหลายคนมาก พยายามเรียกชื่อ ให้เรารู้สติ เรารู้สตินะ แต่มันตอบรับไม่ได้ จนฝืนเฮือกนึงยกมือว่าเรารับรู้นะ แล้วภาพก็ตัดไปอีก รู้สึกตัวอีกทีคืออยู่ในจุดพักพื้นในแผนกผ่าตัด สติก็ยังไม่กลับมาเต็มที่ พยาบาลก็เดินมาถามเรื่อยๆ จนผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ สติกลับมา 80% นิ้วมือก็วัดชีพจร แขนขวาก็วัดความดันทุก 15 นาที ที่มีสตินี่เพราะที่วัดความดันนี่แหละ เดี๋ยวบีบเดี๋ยวบีบตลอด เหลือบไปเห็นนาฬิกา แต่ก็ภาพไม่ชัด มองไม่ออกว่ากี่โมง
จนพยาบาลห้องผ่าตัด จะส่งเคสขึ้นวอร์ด มาถึงห้องพักดูนาฬิกา 6 โมงเย็นกว่าๆ โชคดีที่ตอนฟื้นมาไม่มีอาการอะไร ไม่อ้วกไม่เวียนหัวไม่อะไรเลย อาการหลังขูดมดลูก ก็มีหน่วงๆปวดๆบ้าง แต่พยาบาลก็จัดยามาเตรียมไว้ให้ แล้วบอกว่าเปลี่ยนเป็นผ้าอนามัยของเราได้นะ ใส่กางเกงชั้นในได้นะ เราก็จัดแจ้งเปลี่ยนเพราะใส่ผ้าอนามัยที่เตรียมมา เพราะของทางรพ.ไม่ถนัด สักพักพยาบาลก็มาถอดสายน้ำเกลือออกให้ แต่ยังลุกนั่งไม่ได้ นั่งแล้วเวียนหัว ต้องนอนกินข้าว
แฟนบอกว่า เราเข้าไปในห้องผ่าตัดทั้งหมด 2 ชม.เต็มๆ เราก็ยังไม่รู้ว่าทำไมนานขนาดนั้น ประมาณ 1 ทุ่ม คุณหมอที่ดูแลเคสก็เข้ามาแจ้งว่า ทำการขูดมดลูกเรียบร้อย ได้รกค่อนข้างเยอะ ต้องใช้เวลาขูดนาน และ แจ้งวิธีดูแลตัวเองหลังจากนี้
อาการของเราหลังจากขูดเสร็จ จะมีหน่วงท้องน้อย เสียดท้องบ้าง แต่ไม่มีอาการปวดท้องใดๆ ลุกเข้าห้องน้ำได้ปกติ ในคืนแรกเราเปลี่ยนมาใส้ผ้าอนามัยแบบกลางคืน ตื่นเช้าวันรุ่งขึ้นก็เต็มแผ่น ปริมาณเลือดเหมือนตอนมีปจด. เราเตรียมตัวเจอคุณหมออีกรอบก่อนออกจากรพ. เลือดก็เริ่มจะไหลช้าลง แต่ก็ยังมีอยู่ อาการปวดท้องไม่มี แค่หน่วงและเสียดเล็กน้อย คุณหมอบอกว่าปกติ ให้หยุดงาน 1 อาทิตย์ และ นัดมารีเช็คอาการในอาทิตย์หน้า
วันที่เขียน เป็นวันที่ 2 หลังจากกลับจากรพ. เลือดซึมน้อยมาก แต่มีอาการเสียดท้องด้านขวา อ่านจากท่านอื่นๆในพันทิป และ ถามเพื่อนที่มีประสบการณ์ เดี๋ยวอาการจะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ เราก็อยากฝากประสบการณ์นี้ไว้ให้เพื่อนๆพี่ๆได้อ่าน การขูดมดลูกสำหรับเราไม่ได้น่ากลัว ไม่เจ็บ แต่สำหรับเรา อาการปวดท้องจากการเหน็บยาทรมานมากกว่า
สุดท้ายนี้ เราก็ยังหวังว่า จะมีสักวันที่เราได้รับรู้ความรู้สึก ความสุขของการเป็นแม่อีกครั้ง และ ยังคงไม่หมดหวังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ค่ะ
ประสบการณ์ การขูดมดลูก
12 ส.ค 9 โมงเช้า ไปพบคุณหมอที่รพ.ที่มีสิทธิประกันสังคม คุณหมอเช็คเอกสารฝากครรภ์เ(เก่า) และ ใบส่งตัว พร้อมกับซาวด์เช็คน้องในครรภ์ว่า เป็นไปตามที่หมอส่งตัวมาหรือไม่ พอหมอลงความเห็นตรงตามใบส่งตัว หมอก็นัดมาขูดมดลูกในวันถัดไป งดน้ำงดอาหารตั้งแต่เที่ยงคืน หมอนัดพบก่อนทำตอน 9 โมงเช้า
- หลังกลับมาจากรพ. ก็หาข้อมูลเตรียมตัว อาการหลังทำ อาการข้างเคียง เพื่อเป็นข้อมูล หลังจากอ่านไม่กังวลตอนทำเลย แต่กังวลอาการปวดท้องต้องเหน็บยามากกว่า
13 ส.ค มาถึงวันที่ต้องไปทำจริง ไปพบคุณหมอ คุณหมอแจ้งขั้นตอนต่างๆ ระยะเวลาในการขูดมดลูก จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที เจาะเลือด X-Ray ปอด เหน็บยา และ รอคิวห้องผ่าตัด ว่างเมื่อไหร่ได้เข้าตอนนั้น ใจหวิวมาก แล้วกี่โมงคะคุณหมอ .. มาที่ขั้นตอนเริ่มแรก
1. เริ่มด้วย เซ็นต์เอกสารยินยอมผ่าตัด และ รับการรักษา
2. จองห้องแอดมิทเพื่อแอดมิท เราเลือกห้องคู่ มีส่วนต่างเพิ่มจากประกันสังคมนิดหน่อย ที่รพ.นี้ หากมีสิทธิประกันสังคมจะได้ลดค่าใช้จ่ายส่วนเกินด้วย 10%
3. X-Ray ปอด
4. เข้าห้องพักเพื่อรอห้องผ่าตัดเรียกคิว
มาถึงห้องพัก พยาบาลก็เอาชุดมาให้เปลี่ยน สอนวิธีใส่ผ้าอนามัยแบบยางยืด หากแต่งหน้ามาล้างหน้าให้สะอาด ห้ามทาเล็บมือเล็บเท้า ถอดเครื่องประดับจากตัวออกให้หมด สักพักพยาบาลก็มาเจาะเลือดเพื่อเตรียมเลือดสำรอง ต่อสายน้ำเกลือ และ ขั้นตอนที่รอคอยคือ เหน็บยา
เหน็บยาไปตอน 12.00 (จากที่อ่านรีวิวคนอื่นคือ อาการปวดจะมาหลังจากเหน็บยา 1 ชม.) แต่..ของเรานี่มาหลังจากเหน็บยา 30 นาที และ ยังไม่รู้ว่าจะได้คิวผ่าตัดตอนกี่โมง และ ใช่ค่ะ ปวดมาก ปวดเหมือนช่วงล่างจะหลุด ปวดท้องปจด.ว่าทรมานแล้ว ต้องหยุดงานนอนเฉยๆ แต่วันนั้นทรมานมากกว่า น้ำตาไหลมาเองโดยอัตโนมัติ แล้วมีโควต้ายาแก้ปวดแค่ 1 ครั้งค่ะ เรียกพยาบาลขอยา ตอน 13.00 น. ฉีดยาอาการก็ทุเลาลง แต่ยังไม่ได้หายขาดซะทีเดียว สักพักไม่ถึง 1 ชม. อาการปวดมาอีก คราวนี้ขอยาไม่ได้แล้ว ทนนอนปวดดิ้นไปดิ้นมา รู้สึกว่าเลือดไหลมาเยอะมาก ปวดจนหลับไปตอนไหนไม่รู้ หลับแบบจับราวเตียงแน่นมาก สักพักนึงได้ยินเสียงเคาะประตูพร้อมเสียงเข็นเตียง ห้องผ่าตัดเรียกคิวแล้ว ...
มาถึงห้องผ่าตัด พยายามมองหานาฬิกาแต่หาไม่เจอ ไม่รู้ว่าเข้าห้องผ่าตัดไปตอนกี่โมง ครั้งแรกในชีวิตที่ได้เข้าห้องผ่าตัด มันไม่เย็น แต่มันวุ่นวายมาก มีหลายห้อง พยาบาลเดินสวนไปมา พยาบาลมาซักประวัติ 3 คน เช็คสติ ตรวจฟัน ตรวจเล็บ แล้วคุณหมอก็มาคุยต่อ แล้วก็เข็นเข้าห้องผ่าตัด เปลี่ยนเตียงปุ๊บ มีพยาบาล 4 คน แขน ซ้าย-ขวา ขา ซ้าย-ขวา ติดอะไรไม่รู้เต็มหน้าอก วัดนิ้ว วัดความดัน ต่อขาหยั่ง สติสุดท้ายที่รับรู้คือ ตอนยกขา เลือดไหลเต็มต้นขาและหมอพูดว่า หลุดแล้วนิ แล้วภาพก็ตัดไปเลย
รู้สึกตัวอีกทีคือ พยาบาลหลายคนมาก พยายามเรียกชื่อ ให้เรารู้สติ เรารู้สตินะ แต่มันตอบรับไม่ได้ จนฝืนเฮือกนึงยกมือว่าเรารับรู้นะ แล้วภาพก็ตัดไปอีก รู้สึกตัวอีกทีคืออยู่ในจุดพักพื้นในแผนกผ่าตัด สติก็ยังไม่กลับมาเต็มที่ พยาบาลก็เดินมาถามเรื่อยๆ จนผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ สติกลับมา 80% นิ้วมือก็วัดชีพจร แขนขวาก็วัดความดันทุก 15 นาที ที่มีสตินี่เพราะที่วัดความดันนี่แหละ เดี๋ยวบีบเดี๋ยวบีบตลอด เหลือบไปเห็นนาฬิกา แต่ก็ภาพไม่ชัด มองไม่ออกว่ากี่โมง
จนพยาบาลห้องผ่าตัด จะส่งเคสขึ้นวอร์ด มาถึงห้องพักดูนาฬิกา 6 โมงเย็นกว่าๆ โชคดีที่ตอนฟื้นมาไม่มีอาการอะไร ไม่อ้วกไม่เวียนหัวไม่อะไรเลย อาการหลังขูดมดลูก ก็มีหน่วงๆปวดๆบ้าง แต่พยาบาลก็จัดยามาเตรียมไว้ให้ แล้วบอกว่าเปลี่ยนเป็นผ้าอนามัยของเราได้นะ ใส่กางเกงชั้นในได้นะ เราก็จัดแจ้งเปลี่ยนเพราะใส่ผ้าอนามัยที่เตรียมมา เพราะของทางรพ.ไม่ถนัด สักพักพยาบาลก็มาถอดสายน้ำเกลือออกให้ แต่ยังลุกนั่งไม่ได้ นั่งแล้วเวียนหัว ต้องนอนกินข้าว
แฟนบอกว่า เราเข้าไปในห้องผ่าตัดทั้งหมด 2 ชม.เต็มๆ เราก็ยังไม่รู้ว่าทำไมนานขนาดนั้น ประมาณ 1 ทุ่ม คุณหมอที่ดูแลเคสก็เข้ามาแจ้งว่า ทำการขูดมดลูกเรียบร้อย ได้รกค่อนข้างเยอะ ต้องใช้เวลาขูดนาน และ แจ้งวิธีดูแลตัวเองหลังจากนี้
อาการของเราหลังจากขูดเสร็จ จะมีหน่วงท้องน้อย เสียดท้องบ้าง แต่ไม่มีอาการปวดท้องใดๆ ลุกเข้าห้องน้ำได้ปกติ ในคืนแรกเราเปลี่ยนมาใส้ผ้าอนามัยแบบกลางคืน ตื่นเช้าวันรุ่งขึ้นก็เต็มแผ่น ปริมาณเลือดเหมือนตอนมีปจด. เราเตรียมตัวเจอคุณหมออีกรอบก่อนออกจากรพ. เลือดก็เริ่มจะไหลช้าลง แต่ก็ยังมีอยู่ อาการปวดท้องไม่มี แค่หน่วงและเสียดเล็กน้อย คุณหมอบอกว่าปกติ ให้หยุดงาน 1 อาทิตย์ และ นัดมารีเช็คอาการในอาทิตย์หน้า
วันที่เขียน เป็นวันที่ 2 หลังจากกลับจากรพ. เลือดซึมน้อยมาก แต่มีอาการเสียดท้องด้านขวา อ่านจากท่านอื่นๆในพันทิป และ ถามเพื่อนที่มีประสบการณ์ เดี๋ยวอาการจะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ เราก็อยากฝากประสบการณ์นี้ไว้ให้เพื่อนๆพี่ๆได้อ่าน การขูดมดลูกสำหรับเราไม่ได้น่ากลัว ไม่เจ็บ แต่สำหรับเรา อาการปวดท้องจากการเหน็บยาทรมานมากกว่า
สุดท้ายนี้ เราก็ยังหวังว่า จะมีสักวันที่เราได้รับรู้ความรู้สึก ความสุขของการเป็นแม่อีกครั้ง และ ยังคงไม่หมดหวังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ค่ะ