บันทึกเรื่องราวของชีวิต และแชร์ประสบการณ์การตั้งครรภ์และการแท้ง
ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่รู้ว่าตั้งครรภ์จนถึงวันแท้งลูก
4 Jan 19 - ปจด ครั้งสุดท้าย 18 พ.ย. ตั้งครรภ์ 6w 5d (นับจาก ปจด ล่าสุด) ซาวน์ทางช่องคลอด ไม่พบถุงตั้งครรภ์ ตรวจเลือด ค่า Beta HCG 400-500 นัดตรวจเลือดใหม่ 7 ม.ค.
7 Jan 19 - ตรวจเลือด ค่า Beta HCG 1326 ค่าขึ้นตามปกติ แต่ไม่สัมพันธ์กับอายุครรภ์ ติดตามผลอีก 3 สัปดาห์
25 Jan 19 - อัลตร้าซาวน์ทางช่องคลอด พบถุงการตั้งครรภ์ขนาด 1.46 ซม. พบถุงไข่แดง ตั้งครรภ์ 5w 5d (ประเมินจากขนาดถุงการตั้งครรภ์) ไม่พบตัวอ่อน ติดตามผลอีก 2 สัปดาห์
7 Feb 19 - อัลตร้าซาวน์ทางช่องคลอด พบตัวอ่อน วัดหัวใจเต้น 88 bpm อายุตั้งครรภ์ 5w 6d (ประเมินจากขนาดตัวอ่อน) ถุงไข่แดงเริ่มผิดรูป ไม่แน่ใจว่าชีพจรมาจากตัวอ่อน หรือแม่ ติดตามผลอีก 2 สัปดาห์
8 Feb 19 – อาการแพ้ท้องหายไป
17 -22 Feb – มีเลือดออกเป็นมูกเลือด
21 Feb 19 - อัลตร้าซาวน์ทางช่องคลอด อายุครรภ์ 6w 1d ไม่พบการเต้นของหัวใจ ไม่มีการเจริญเติบโต ถุงไข่แดงฝ่อ ถุงการตั้งครรภ์ผิดรูป ประเมินยุติการตั้งครรภ์
ประมาณค่าใช้จ่ายในการดูดมดลูก 25k– 35k ยังไม่รวมค่าตรวจร่างกายก่อนทำ ค่ารมยา ค่าตรวจชิ้นเนื้อ รวมประมาณ 40k+ พยาบาลแนะนำว่าสามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมในการขูดมดลูกกับโรงพยาบาลที่มีสิทธิ์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือหากอยากทำที่นี่ก็โทรมานัดวันทำได้ ระหว่างนี้ขอกลับไปคิดว่าจะรอให้หลุดออกมาเองหรือว่าขูด/ดูดมดลูกออก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้*ตรวจครรภ์ นพ.นพดล จันทรเทพเทวัญ อัลตร้าซาวด์ นพ.กิตติ วงษ์กิติโสภณ รพ.บางปะกอก9
23-24 Feb - ปวดบีบท้องน้อย มีเลือดออกเป็นลิ่ม ตัดสินใจกับสามีว่าจะเข้าไปขอคำปรึกษากับหมอที่ รพ.ประกันสังคมก่อน ถ้าไม่โอเค จะนัดวันดูดมดลูกที่ รพ.จุฬา หรือ บางปะกอก9
_________________________________________________________
25 Feb 2019 | วันแท้งลูก
Part 1 : โรงพยาบาลประกันสังคม
7:30 น. รพ.ประกันสังคม ใกล้บ้าน
8:10 น. เข้าตรวจ หมอสูติสอบถามประวัติการตั้งครรภ์ ขออัลตร้าซาวด์อีกครั้งเพื่อแน่ใจว่าแท้งจริง ขึ้นเตียงขาหยั่ง
หมอ : เคยตรวจภายในไหม
เรา : ไม่เคยค่ะ เคยแต่อัลตร้าซาวด์
หมอ : มาวันนี้อยากให้หมอทำอะไร
เรา : จะมาปรึกษาเรื่องขูดมดลูก จริงๆอยากให้หลุดออกมาเอง แต่ถ้าไม่ได้ก็จะขูดมดลูกค่ะ
หมอ : แล้วเราคิดว่ายังไง จะให้หมอช่วยยังไง
หมอเอาเครื่องมือสอดในช่องคลอด เสียงดัง แกร่กๆๆ ไม่เจ็บ แต่ตกใจ
หมอ : ซาวด์ดู เห็นถุงน้ำฝ่อแล้ว แท้งแน่นอนแล้ว
เรา : เขาจะออกมาเองได้ไหมคะ
หมอ : คืออยากให้เขาออกมาเองใช่ไหม งั้นเอายาเหน็บไหม ละพรุ่งนี้มาดู ถ้าไม่ออกค่อยขูดมดลูก
เรา : งั้นก็ได้ค่ะ แล้วถ้าเหน็บยาจะเป็นอย่างไรคะ
หมอ : เงียบก่อน เดี๋ยวค่อยคุย พยาบาล ขอยาเหน็บ
เสียงเครื่องมือ แกร่กๆๆ ไม่รู้สึกเจ็บ แต่ตกใจอีก ไม่ทันตั้งตัวว่าโดนเหน็บยาแล้ว
หมอ : เสร็จแล้ว แต่งตัว เดี๋ยวออกประตูนี้ไปรอเรียก แล้วค่อยมาคุยกัน
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากกกกก ไม่ถึง 5 นาทีบนขาหยั่ง ออกมานอกห้องเจอสามีเลยบอกว่าหมอเหน็บยาให้แล้ว ยาอะไรไม่รู้
จากนั้นพยาบาลก็เรียกเข้าไปคุยกับหมอ
หมอ : เหน็บยาไปแล้ว พรุ่งนี้จะนัดมาดู ว่าออกมาไหม ยาเหน็บนี้ไม่รับประกันนะว่าจะออกมาหมดรึเปล่า เดี๋ยวเช้ามาซาวด์ดู ถ้าไม่ออกก็ต้องขูดมดลูก
เรา : แล้วหนูต้องทำตัวยังไง มีผลข้างเคียงยังไงคะหมอ
หมอ : ตามปกติแล้วเหน็บยาจะทำให้ปวดท้อง ปวดท้องแล้วยังไง จะมีเลือดออก ไม่ต้องตกใจ ทีนี้ก็มาดูกันว่าออกหมดไหม
สามี : แล้วถ้าออกไม่หมดต้องขูดมดลูกที่นี่ใช้วิธีขูดแบบไหนครับ
หมอ : ก็ขูดเพื่อเอาเศษชิ้นเนื้อ ถุงเด็กออก
สามี : เป็นการขูด หรือการดูดครับ
หมอ : ก็ขูดธรรมดานี่แหละ ไม่จำเป็นต้องดูด เพราะของเรายังเล็กอยู่มาก
เรา : แล้ววางยาสลบไหมคะ
หมอ : มันไม่ใช่เป็นการผ่าตัด เราไม่ต้องถึงขั้นดมยาหรอก 2นาทีก็เสร็จ เดี๋ยวจะฉีดยาชากับยาแก้ปวดให้ ทำไม่นาน เสร็จแล้วก็กลับบ้านได้เลย
เรา : แล้วแบบวางยาสลบไม่มีเหรอคะ
หมอ : มันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น แล้วที่นี่ก็ไม่มีแบบดูด มีแต่ขูดธรรมดานี่แหละ ยังไงพรุ่งนี้มาดูกันว่าออกไหม ถ้าออกก็จบ
ไหนบอกซิ ว่าเหน็บยาแล้วจะเป็นยังไง
เราและสามี : จะปวดท้องค่ะ
หมอ : ปวดท้องแล้วจะเป็นยังไงต่อ
เราและสามี : มีเลือดออกค่ะ
หมอ : ดีมาก โอเค วันนี้เรียบร้อย กลับไปนอนพักนะ พรุ่งนี้มาตรวจตามนัด
เราออกจากห้องมาแบบงงๆ รวมใช้เวลาคุยกับหมอทั้งหมดไม่ถึง 5 นาที หมอพูดจาดี กระชับ ฉับไวมากกก เข้าใจว่าเพราะคนไข้มารอคิวเยอะมากเนื่องจากเป็น รพ.ประกันสังคม การบริการโดยรวมก็โอเค คนอาจจะเยอะและรอคิวนานหน่อย วันนี้ใจจริงคือแค่ต้องการมาปรึกษา เผื่อเป็นทางเลือกในการขูดมดลูก แต่ด้วยความกระชับ ฉับไวของหมอ ทำให้สถานการณ์พาไปให้เราตอบ say yes ในการเหน็บยาไปแบบไม่ทันตั้งตัว สามีบ่นเราใหญ่เลย ว่าไปให้หมอเหน็บยาทำไม แล้วจะมาขูดมดลูกที่นี่เหรอ ไม่มีวางยานะ ขูดสดๆ 2 นาที เนี่ยนะ สามีเลยจะให้เราไปนัดซาวด์ที่ รพ.บางปะกอก9 ที่เคยรักษาแทน และถ้าต้องขูดมดลูกก็ทำที่นั่นเลย เรากลับมานอนพักที่บ้าน สามีไปทำงานต่อ
_______________________________________________
Part 2 : ตกเลือด
กลับมาบ้านทุกอย่างยังดูปกติ วันนี้แม่และอาอยู่บ้าน ก็บอกที่บ้านไปว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เที่ยงก็กินข้าวได้ปกติ
ช่วงบ่าย เริ่มปวดท้อง ปวดมากแบบมดลูกบีบตัว ก็บอกที่บ้านว่าอาการเริ่มละ ซักพักเลือดเริ่มไหลออกมา เราก็ยังไม่เป็นไร เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว ตามที่หมอทวน
ซักบ่าย 2 เริ่มปวดท้องมากขึ้น บีบตัวมากขึ้น ผ้าอนามัยแบบกลางวันเอาไม่อยู่ ใส่แบบกลางคืนยาวสุดๆไปเลย อยู่ได้พักเดียว เลือดทะลักออกมาพร้อมชิ้นเนื้อลักษณะเหมือนตับหมูสด รีบไปห้องน้ำ เรียกแม่กับอามาช่วยดู เป็นแค่ชิ้นเนื้อ ยังไม่ใช่ถุงตั้งครรภ์ แม่เอาขวดใส่น้ำร้อนมาให้ประคบท้อง ออกมานั่งโยกตัวให้มันหลุดออกมาเรื่อยๆ เพราะถ้านอนมันไม่ไหล พอลุกขึ้นเท่านั้นแหละ มันทะลักพรั่งพรู เป็นรูก็อกเลย
เกือบๆบ่าย 3 เริ่มปวดท้องมากขึ้นๆ สามีโทรมา จะรีบพาไป รพ. เรายังดื้อ บอกว่ายังไหวอยู่ อยากรอให้ออกมาให้หมด ทีนี้เลือดสดๆไหลออกมาจากช่องคลอดเป็นสายไม่หยุด รู้สึกเหมือนมีอะไรคาช่องคลอด เราพยายามเอามือล้วงเอาก้อนเลือดออกมา เลือดเป็นลิ่มๆพร้อมกับเม็ดยาทรง6เหลี่ยมติดออกมาด้วย คงจะเป็นยาเหน็บ กลิ่นคาวคละคลุ้งเต็มห้องน้ำไปหมด เป็นเลือดแดงๆอย่างกับน้ำเย็นตาโฟ สภาพเหมือนมีเหตุฆาตกรรมนองเลือดขึ้นหมาดๆ เริ่มเอะใจ ที่หมอบอกจะมีเลือด แล้วเลือดมันต้องเยอะขนาดนี้ไหมนะ
ซักประมาณ 4 โมงเย็น ผ้าอนามัยใดๆก็เอาไม่อยู่ ไปยืนในห้องน้ำ และแล้วในที่สุดก็มีชิ้นเนื้อหลุดออกมาตกลงพื้น เราตะโกนบอกแม่กับอาว่าออกมาแล้ว คิดว่าใช่แน่ๆ เป็นถุงกลมๆมีเยื่อขาวๆรอบๆ อาเอาถุงร้อนมาใส่ให้ เก็บใส่ตู้เย็นเรียบร้อย รอน้ำเกลือจากสามี เริ่มหน้ามืด ขอน้ำหวานกิน
แต่ความเจ็บปวดยังไม่จบ ยังคงปวดท้องอย่างต่อเนื่อง มีชิ้นเนื้อหลุดเหมือนตับออกมาเรื่อยๆ มากขึ้นๆ โกยได้เป็นกำมือๆ เราคิดว่าดีแล้ว จะได้ออกมาให้หมด ได้ไม่ต้องขูดมดลูก น้ากลับจากทำงาน เอาผ้าอ้อมผู้ใหญ่มาให้ใส่ เลือดและชิ้นเนื้อล้นทะลักจนผ้าอ้อมตุงไปหมด ให้สามีแวะซื้อมาเพิ่ม
5.30 ได้ แล้วสามีก็กลับมา เราหมดสภาพมาก หมดแรง สามีเลยออกไปซื้อข้าว เราปวดถ่ายท้อง เข้าไปนั่งในห้องน้ำ เริ่มหน้ามืด อาเจียนออกมา เสร็จออกมานอนแผ่อยู่หน้าห้องน้ำ สามีกลับมาเจอเห็นท่าไม่ดี จะพาไปรพ. เรายังดื้ออยู่อีก นอนเถียงได้อยู่เลย ตอนเรานอนเราโอเคเลย มีแรงเถียง ทุกอย่างปกติ แค่รู้สึกเพลีย อยากพัก ขอพัดลมมาจ่อ เพราะหายใจไม่ออก สามีบอกสภาพไม่ไหวยังไงก็ต้องไป ถ้ากลางคืนแย่กว่านี้จะทำยังไง เรายังดื้อบอกไป รพ.ประกันสังคมก็ได้นะ สามีไม่โอเคจะพาไปบางปะกอก9 เลย
พอจังหวะแม่และสามีพยุงให้ลุกจากที่นอนราบอยู่กับพื้น ก้าวเดินกำลังจะไปขึ้นรถ โลกเราเริ่มหมุน สติดับวูบ….
“Que sera sera, whatever will be will be” เสียงเพลงมาจากไหนไม่รู้ ฟังเพลินดี มองเห็นภาพแสงสีสวยงามเต็มไปหมด กำลังเคลิบเคลิ้มเลย
แล้วก็ได้ยินเสียงตะโกนของสามี พร้อมรู้สึกเหมือนโดนตบ สติกลับมา ลืมตามาเห็นหน้าสามีกับแม่กำลังร้องไห้และตะโกนเรียกเรา รีบพาเราหามขึ้นรถ มารู้ทีหลังว่าตอนนั้นเราหมดสติไป และมีอาการตาเหลือก ชักเกร็ง ตัวกระตุก ส่วนเราตะโกนว่าสามีว่าจะเรียกทำไม เสียงดัง ตกใจหมด แค่กำลังหลับฝันไป ละยังนอนบนรถบ่นสามีได้ไปตลอดทาง
ถึง รพ.บางปะกอก9 ถูกหามขึ้นเตียง เข็นไปห้องฉุกเฉิน พยาบาลซักประวัติ ตรวจร่างกายทั่วไป ตรวจคลื่นหัวใจ เจาะน้ำตาลในเลือด น้ำตาลสูง จากการกินน้ำหวานไปเยอะ นอนรอหมอสูมาตรวจ
คุณหมอกอบชัยมาก็ซักประวัติ มีอาการยังไง เป็นยังไงมา เราก็เล่าว่าได้ไปเหน็บยาที่ รพ.ประกันสังคมมา แล้วตอนนี้เสียเลือดมาก ยังบอกหมออย่างภูมิใจด้วยว่าถุงตั้งครรภ์หลุดออกมาแล้ว เก็บมาให้หมอดูด้วย
หมอ : ส่ายหน้า แล้วถามว่า แล้วหมอที่นั่นไม่บอกเหรอ ว่าหลุดมาแล้วต้องทำยังไงต่อ ทำไมถึงให้กลับไปบ้าน
เรา : ไม่ได้บอกค่ะ แหะๆ
จากนั้นหมอตรวจโดยใช้นิ้วมือหมอล้วงและควานเข้าไปในช่องคลอด พร้อมใช้อีกมือกดท้องน้อยเรา เหมือนคลำมดลูกอยู่ พอเอามือออกเลือกก็ทะลักตามมา
หมอบอกว่าหลุดมาน่าจะ 90% แล้ว ไม่น่าห่วงอะไร ถ้าอยากให้เลือดหยุดเลยจะดูดมดลูกก็ได้ แต่หมอคิดว่าไม่จำเป็น รอซัก 3-7 วันก็จะหลุดออกมาหมดเอง สาเหตุที่หมดสติ น่าจะเป็นเพราะเราเสียเลือดไปมาก อ่อนเพลีย และลุกขึ้นเร็วเกินไป
ได้ยินแบบนั้นก็โล่งใจมากๆที่ไม่ต้องขูดมดลูก หมอส่งชิ้นเนื้อไปตรวจ พร้อมนัดอีก 7 วันค่อยมาตรวจดูใหม่ จากนั้นก็จ่ายยาฆ่าเชื้อ ยาบำรุงเลือด ให้กลับไปพักที่บ้านได้ โดยห้ามเคลื่อนไหวร่างกายเร็ว เดินเยอะ ยกของหนัก และให้หยุดงาน 1 อาทิตย์
กลับบ้านก็มีอาการเพลียๆ ไม่สามารถลุกเดินได้ ยังมีอาการหน้ามืด มึนหัว ไม่สบายตัวอยู่ แต่ปวดท้องน้อยลง และเลือดออกน้อยลงมากแล้ว
วันนี้ได้ประสบการณ์หลากหลายให้จดจำมาก ทั้งตื่นเต้น ตกใจ เจ็บปวด เสียใจ ดีใจ
ต้องขอบคุณแม่ สามี อา น้าๆ ที่ไม่ปล่อยให้เราผ่านเรื่องนี้ไปคนเดียว รวมถึงครอบครัวสามี พี่ๆที่ทำงาน ทุกคนที่มีความห่วงใย เป็นกำลังใจที่มีค่ามากๆ ระหว่างช่วงเวลากว่า 2 เดือนที่เราต้องเผชิญ คิดซะว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก แค่เป็นเรื่องใหม่สำหรับเรา
แล้วซักวันเราจะพบกันใหม่.........
แชร์ประสบการณ์การแท้ง การเหน็บยา การตกเลือด
ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่รู้ว่าตั้งครรภ์จนถึงวันแท้งลูก
4 Jan 19 - ปจด ครั้งสุดท้าย 18 พ.ย. ตั้งครรภ์ 6w 5d (นับจาก ปจด ล่าสุด) ซาวน์ทางช่องคลอด ไม่พบถุงตั้งครรภ์ ตรวจเลือด ค่า Beta HCG 400-500 นัดตรวจเลือดใหม่ 7 ม.ค.
7 Jan 19 - ตรวจเลือด ค่า Beta HCG 1326 ค่าขึ้นตามปกติ แต่ไม่สัมพันธ์กับอายุครรภ์ ติดตามผลอีก 3 สัปดาห์
25 Jan 19 - อัลตร้าซาวน์ทางช่องคลอด พบถุงการตั้งครรภ์ขนาด 1.46 ซม. พบถุงไข่แดง ตั้งครรภ์ 5w 5d (ประเมินจากขนาดถุงการตั้งครรภ์) ไม่พบตัวอ่อน ติดตามผลอีก 2 สัปดาห์
7 Feb 19 - อัลตร้าซาวน์ทางช่องคลอด พบตัวอ่อน วัดหัวใจเต้น 88 bpm อายุตั้งครรภ์ 5w 6d (ประเมินจากขนาดตัวอ่อน) ถุงไข่แดงเริ่มผิดรูป ไม่แน่ใจว่าชีพจรมาจากตัวอ่อน หรือแม่ ติดตามผลอีก 2 สัปดาห์
8 Feb 19 – อาการแพ้ท้องหายไป
17 -22 Feb – มีเลือดออกเป็นมูกเลือด
21 Feb 19 - อัลตร้าซาวน์ทางช่องคลอด อายุครรภ์ 6w 1d ไม่พบการเต้นของหัวใจ ไม่มีการเจริญเติบโต ถุงไข่แดงฝ่อ ถุงการตั้งครรภ์ผิดรูป ประเมินยุติการตั้งครรภ์
ประมาณค่าใช้จ่ายในการดูดมดลูก 25k– 35k ยังไม่รวมค่าตรวจร่างกายก่อนทำ ค่ารมยา ค่าตรวจชิ้นเนื้อ รวมประมาณ 40k+ พยาบาลแนะนำว่าสามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมในการขูดมดลูกกับโรงพยาบาลที่มีสิทธิ์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือหากอยากทำที่นี่ก็โทรมานัดวันทำได้ ระหว่างนี้ขอกลับไปคิดว่าจะรอให้หลุดออกมาเองหรือว่าขูด/ดูดมดลูกออก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
23-24 Feb - ปวดบีบท้องน้อย มีเลือดออกเป็นลิ่ม ตัดสินใจกับสามีว่าจะเข้าไปขอคำปรึกษากับหมอที่ รพ.ประกันสังคมก่อน ถ้าไม่โอเค จะนัดวันดูดมดลูกที่ รพ.จุฬา หรือ บางปะกอก9
_________________________________________________________
25 Feb 2019 | วันแท้งลูก
Part 1 : โรงพยาบาลประกันสังคม
7:30 น. รพ.ประกันสังคม ใกล้บ้าน
8:10 น. เข้าตรวจ หมอสูติสอบถามประวัติการตั้งครรภ์ ขออัลตร้าซาวด์อีกครั้งเพื่อแน่ใจว่าแท้งจริง ขึ้นเตียงขาหยั่ง
หมอ : เคยตรวจภายในไหม
เรา : ไม่เคยค่ะ เคยแต่อัลตร้าซาวด์
หมอ : มาวันนี้อยากให้หมอทำอะไร
เรา : จะมาปรึกษาเรื่องขูดมดลูก จริงๆอยากให้หลุดออกมาเอง แต่ถ้าไม่ได้ก็จะขูดมดลูกค่ะ
หมอ : แล้วเราคิดว่ายังไง จะให้หมอช่วยยังไง
หมอเอาเครื่องมือสอดในช่องคลอด เสียงดัง แกร่กๆๆ ไม่เจ็บ แต่ตกใจ
หมอ : ซาวด์ดู เห็นถุงน้ำฝ่อแล้ว แท้งแน่นอนแล้ว
เรา : เขาจะออกมาเองได้ไหมคะ
หมอ : คืออยากให้เขาออกมาเองใช่ไหม งั้นเอายาเหน็บไหม ละพรุ่งนี้มาดู ถ้าไม่ออกค่อยขูดมดลูก
เรา : งั้นก็ได้ค่ะ แล้วถ้าเหน็บยาจะเป็นอย่างไรคะ
หมอ : เงียบก่อน เดี๋ยวค่อยคุย พยาบาล ขอยาเหน็บ
เสียงเครื่องมือ แกร่กๆๆ ไม่รู้สึกเจ็บ แต่ตกใจอีก ไม่ทันตั้งตัวว่าโดนเหน็บยาแล้ว
หมอ : เสร็จแล้ว แต่งตัว เดี๋ยวออกประตูนี้ไปรอเรียก แล้วค่อยมาคุยกัน
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากกกกก ไม่ถึง 5 นาทีบนขาหยั่ง ออกมานอกห้องเจอสามีเลยบอกว่าหมอเหน็บยาให้แล้ว ยาอะไรไม่รู้
จากนั้นพยาบาลก็เรียกเข้าไปคุยกับหมอ
หมอ : เหน็บยาไปแล้ว พรุ่งนี้จะนัดมาดู ว่าออกมาไหม ยาเหน็บนี้ไม่รับประกันนะว่าจะออกมาหมดรึเปล่า เดี๋ยวเช้ามาซาวด์ดู ถ้าไม่ออกก็ต้องขูดมดลูก
เรา : แล้วหนูต้องทำตัวยังไง มีผลข้างเคียงยังไงคะหมอ
หมอ : ตามปกติแล้วเหน็บยาจะทำให้ปวดท้อง ปวดท้องแล้วยังไง จะมีเลือดออก ไม่ต้องตกใจ ทีนี้ก็มาดูกันว่าออกหมดไหม
สามี : แล้วถ้าออกไม่หมดต้องขูดมดลูกที่นี่ใช้วิธีขูดแบบไหนครับ
หมอ : ก็ขูดเพื่อเอาเศษชิ้นเนื้อ ถุงเด็กออก
สามี : เป็นการขูด หรือการดูดครับ
หมอ : ก็ขูดธรรมดานี่แหละ ไม่จำเป็นต้องดูด เพราะของเรายังเล็กอยู่มาก
เรา : แล้ววางยาสลบไหมคะ
หมอ : มันไม่ใช่เป็นการผ่าตัด เราไม่ต้องถึงขั้นดมยาหรอก 2นาทีก็เสร็จ เดี๋ยวจะฉีดยาชากับยาแก้ปวดให้ ทำไม่นาน เสร็จแล้วก็กลับบ้านได้เลย
เรา : แล้วแบบวางยาสลบไม่มีเหรอคะ
หมอ : มันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น แล้วที่นี่ก็ไม่มีแบบดูด มีแต่ขูดธรรมดานี่แหละ ยังไงพรุ่งนี้มาดูกันว่าออกไหม ถ้าออกก็จบ
ไหนบอกซิ ว่าเหน็บยาแล้วจะเป็นยังไง
เราและสามี : จะปวดท้องค่ะ
หมอ : ปวดท้องแล้วจะเป็นยังไงต่อ
เราและสามี : มีเลือดออกค่ะ
หมอ : ดีมาก โอเค วันนี้เรียบร้อย กลับไปนอนพักนะ พรุ่งนี้มาตรวจตามนัด
เราออกจากห้องมาแบบงงๆ รวมใช้เวลาคุยกับหมอทั้งหมดไม่ถึง 5 นาที หมอพูดจาดี กระชับ ฉับไวมากกก เข้าใจว่าเพราะคนไข้มารอคิวเยอะมากเนื่องจากเป็น รพ.ประกันสังคม การบริการโดยรวมก็โอเค คนอาจจะเยอะและรอคิวนานหน่อย วันนี้ใจจริงคือแค่ต้องการมาปรึกษา เผื่อเป็นทางเลือกในการขูดมดลูก แต่ด้วยความกระชับ ฉับไวของหมอ ทำให้สถานการณ์พาไปให้เราตอบ say yes ในการเหน็บยาไปแบบไม่ทันตั้งตัว สามีบ่นเราใหญ่เลย ว่าไปให้หมอเหน็บยาทำไม แล้วจะมาขูดมดลูกที่นี่เหรอ ไม่มีวางยานะ ขูดสดๆ 2 นาที เนี่ยนะ สามีเลยจะให้เราไปนัดซาวด์ที่ รพ.บางปะกอก9 ที่เคยรักษาแทน และถ้าต้องขูดมดลูกก็ทำที่นั่นเลย เรากลับมานอนพักที่บ้าน สามีไปทำงานต่อ
_______________________________________________
Part 2 : ตกเลือด
กลับมาบ้านทุกอย่างยังดูปกติ วันนี้แม่และอาอยู่บ้าน ก็บอกที่บ้านไปว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เที่ยงก็กินข้าวได้ปกติ
ช่วงบ่าย เริ่มปวดท้อง ปวดมากแบบมดลูกบีบตัว ก็บอกที่บ้านว่าอาการเริ่มละ ซักพักเลือดเริ่มไหลออกมา เราก็ยังไม่เป็นไร เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว ตามที่หมอทวน
ซักบ่าย 2 เริ่มปวดท้องมากขึ้น บีบตัวมากขึ้น ผ้าอนามัยแบบกลางวันเอาไม่อยู่ ใส่แบบกลางคืนยาวสุดๆไปเลย อยู่ได้พักเดียว เลือดทะลักออกมาพร้อมชิ้นเนื้อลักษณะเหมือนตับหมูสด รีบไปห้องน้ำ เรียกแม่กับอามาช่วยดู เป็นแค่ชิ้นเนื้อ ยังไม่ใช่ถุงตั้งครรภ์ แม่เอาขวดใส่น้ำร้อนมาให้ประคบท้อง ออกมานั่งโยกตัวให้มันหลุดออกมาเรื่อยๆ เพราะถ้านอนมันไม่ไหล พอลุกขึ้นเท่านั้นแหละ มันทะลักพรั่งพรู เป็นรูก็อกเลย
เกือบๆบ่าย 3 เริ่มปวดท้องมากขึ้นๆ สามีโทรมา จะรีบพาไป รพ. เรายังดื้อ บอกว่ายังไหวอยู่ อยากรอให้ออกมาให้หมด ทีนี้เลือดสดๆไหลออกมาจากช่องคลอดเป็นสายไม่หยุด รู้สึกเหมือนมีอะไรคาช่องคลอด เราพยายามเอามือล้วงเอาก้อนเลือดออกมา เลือดเป็นลิ่มๆพร้อมกับเม็ดยาทรง6เหลี่ยมติดออกมาด้วย คงจะเป็นยาเหน็บ กลิ่นคาวคละคลุ้งเต็มห้องน้ำไปหมด เป็นเลือดแดงๆอย่างกับน้ำเย็นตาโฟ สภาพเหมือนมีเหตุฆาตกรรมนองเลือดขึ้นหมาดๆ เริ่มเอะใจ ที่หมอบอกจะมีเลือด แล้วเลือดมันต้องเยอะขนาดนี้ไหมนะ
ซักประมาณ 4 โมงเย็น ผ้าอนามัยใดๆก็เอาไม่อยู่ ไปยืนในห้องน้ำ และแล้วในที่สุดก็มีชิ้นเนื้อหลุดออกมาตกลงพื้น เราตะโกนบอกแม่กับอาว่าออกมาแล้ว คิดว่าใช่แน่ๆ เป็นถุงกลมๆมีเยื่อขาวๆรอบๆ อาเอาถุงร้อนมาใส่ให้ เก็บใส่ตู้เย็นเรียบร้อย รอน้ำเกลือจากสามี เริ่มหน้ามืด ขอน้ำหวานกิน
แต่ความเจ็บปวดยังไม่จบ ยังคงปวดท้องอย่างต่อเนื่อง มีชิ้นเนื้อหลุดเหมือนตับออกมาเรื่อยๆ มากขึ้นๆ โกยได้เป็นกำมือๆ เราคิดว่าดีแล้ว จะได้ออกมาให้หมด ได้ไม่ต้องขูดมดลูก น้ากลับจากทำงาน เอาผ้าอ้อมผู้ใหญ่มาให้ใส่ เลือดและชิ้นเนื้อล้นทะลักจนผ้าอ้อมตุงไปหมด ให้สามีแวะซื้อมาเพิ่ม
5.30 ได้ แล้วสามีก็กลับมา เราหมดสภาพมาก หมดแรง สามีเลยออกไปซื้อข้าว เราปวดถ่ายท้อง เข้าไปนั่งในห้องน้ำ เริ่มหน้ามืด อาเจียนออกมา เสร็จออกมานอนแผ่อยู่หน้าห้องน้ำ สามีกลับมาเจอเห็นท่าไม่ดี จะพาไปรพ. เรายังดื้ออยู่อีก นอนเถียงได้อยู่เลย ตอนเรานอนเราโอเคเลย มีแรงเถียง ทุกอย่างปกติ แค่รู้สึกเพลีย อยากพัก ขอพัดลมมาจ่อ เพราะหายใจไม่ออก สามีบอกสภาพไม่ไหวยังไงก็ต้องไป ถ้ากลางคืนแย่กว่านี้จะทำยังไง เรายังดื้อบอกไป รพ.ประกันสังคมก็ได้นะ สามีไม่โอเคจะพาไปบางปะกอก9 เลย
พอจังหวะแม่และสามีพยุงให้ลุกจากที่นอนราบอยู่กับพื้น ก้าวเดินกำลังจะไปขึ้นรถ โลกเราเริ่มหมุน สติดับวูบ….
“Que sera sera, whatever will be will be” เสียงเพลงมาจากไหนไม่รู้ ฟังเพลินดี มองเห็นภาพแสงสีสวยงามเต็มไปหมด กำลังเคลิบเคลิ้มเลย
แล้วก็ได้ยินเสียงตะโกนของสามี พร้อมรู้สึกเหมือนโดนตบ สติกลับมา ลืมตามาเห็นหน้าสามีกับแม่กำลังร้องไห้และตะโกนเรียกเรา รีบพาเราหามขึ้นรถ มารู้ทีหลังว่าตอนนั้นเราหมดสติไป และมีอาการตาเหลือก ชักเกร็ง ตัวกระตุก ส่วนเราตะโกนว่าสามีว่าจะเรียกทำไม เสียงดัง ตกใจหมด แค่กำลังหลับฝันไป ละยังนอนบนรถบ่นสามีได้ไปตลอดทาง
ถึง รพ.บางปะกอก9 ถูกหามขึ้นเตียง เข็นไปห้องฉุกเฉิน พยาบาลซักประวัติ ตรวจร่างกายทั่วไป ตรวจคลื่นหัวใจ เจาะน้ำตาลในเลือด น้ำตาลสูง จากการกินน้ำหวานไปเยอะ นอนรอหมอสูมาตรวจ
คุณหมอกอบชัยมาก็ซักประวัติ มีอาการยังไง เป็นยังไงมา เราก็เล่าว่าได้ไปเหน็บยาที่ รพ.ประกันสังคมมา แล้วตอนนี้เสียเลือดมาก ยังบอกหมออย่างภูมิใจด้วยว่าถุงตั้งครรภ์หลุดออกมาแล้ว เก็บมาให้หมอดูด้วย
หมอ : ส่ายหน้า แล้วถามว่า แล้วหมอที่นั่นไม่บอกเหรอ ว่าหลุดมาแล้วต้องทำยังไงต่อ ทำไมถึงให้กลับไปบ้าน
เรา : ไม่ได้บอกค่ะ แหะๆ
จากนั้นหมอตรวจโดยใช้นิ้วมือหมอล้วงและควานเข้าไปในช่องคลอด พร้อมใช้อีกมือกดท้องน้อยเรา เหมือนคลำมดลูกอยู่ พอเอามือออกเลือกก็ทะลักตามมา
หมอบอกว่าหลุดมาน่าจะ 90% แล้ว ไม่น่าห่วงอะไร ถ้าอยากให้เลือดหยุดเลยจะดูดมดลูกก็ได้ แต่หมอคิดว่าไม่จำเป็น รอซัก 3-7 วันก็จะหลุดออกมาหมดเอง สาเหตุที่หมดสติ น่าจะเป็นเพราะเราเสียเลือดไปมาก อ่อนเพลีย และลุกขึ้นเร็วเกินไป
ได้ยินแบบนั้นก็โล่งใจมากๆที่ไม่ต้องขูดมดลูก หมอส่งชิ้นเนื้อไปตรวจ พร้อมนัดอีก 7 วันค่อยมาตรวจดูใหม่ จากนั้นก็จ่ายยาฆ่าเชื้อ ยาบำรุงเลือด ให้กลับไปพักที่บ้านได้ โดยห้ามเคลื่อนไหวร่างกายเร็ว เดินเยอะ ยกของหนัก และให้หยุดงาน 1 อาทิตย์
กลับบ้านก็มีอาการเพลียๆ ไม่สามารถลุกเดินได้ ยังมีอาการหน้ามืด มึนหัว ไม่สบายตัวอยู่ แต่ปวดท้องน้อยลง และเลือดออกน้อยลงมากแล้ว
วันนี้ได้ประสบการณ์หลากหลายให้จดจำมาก ทั้งตื่นเต้น ตกใจ เจ็บปวด เสียใจ ดีใจ
ต้องขอบคุณแม่ สามี อา น้าๆ ที่ไม่ปล่อยให้เราผ่านเรื่องนี้ไปคนเดียว รวมถึงครอบครัวสามี พี่ๆที่ทำงาน ทุกคนที่มีความห่วงใย เป็นกำลังใจที่มีค่ามากๆ ระหว่างช่วงเวลากว่า 2 เดือนที่เราต้องเผชิญ คิดซะว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก แค่เป็นเรื่องใหม่สำหรับเรา
แล้วซักวันเราจะพบกันใหม่.........