Rare 'Strawberries and Cream' Tree Blooms in Two Different Colors
1
The Strawberries and Cream Tree in Backwell, North Somerset, England © Mojo0306/Wikimedia Commons
2
.
บนเกาะเล็ก ๆ ที่มีการจราจรเบาบาง
บนถนน Rodney ในเมือง Backwell ในเขต North Somerset ของอังกฤษ
มีพืชสวนซึ่งน่าสนใจเพราะมีความแปลกประหลาดมากต้นหนี่ง
คือ มีต้น Cherry ที่ให้ดอกสองสีที่แตกต่างกัน
คือ สีชมพูด้านหนึ่งและสีขาวอีกด้านหนึ่ง
ต้นไม้สองสีนี้คาดว่าถูกปลูกขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1950
ชื่อที่เด็ก ๆ ในเมืองตั้งให้คือ
Strawberries และ Cream Tree
Strawberries และ Cream Tree มาจากการต่อกิ่งของ
ต้นเชอร์รี่ป่าพันธุ์พื้นเมือง
Prunus avium และ
Prunus Kanzan
ซึ่งเป็นต้นเชอร์รี่ดอกไม้ประดับสายพันธุ์จากญี่ปุ่น
เชอร์รี่ป่าให้ดอกสีขาวในขณะที่ Kanzan ให้ดอกสีชมพู
การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อต้นไม้ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อตอนที่
เนื้อเยื่อของพืชสองชนิดที่แตกต่างกันทางพันธุกรรม
หลอมรวมหลังจากการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ
เพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตที่เติบโตเพียงครั้งเดียว
ซึ่งรักษาเนื้อเยื่อทั้งสองประเภทไว้ในการปลูกถ่ายเพียงครั้งเดียว
ตัวอย่างที่รู้จักกันดีของการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ
คือ
Laburnocytisus Adamii
ซึ่งเกิดจากการหลอมรวมกันของ Laburnum และ Broom
ต้นไม้ที่เกิดขึ้นมีดอกสีเหลืองทั่วไปของ
Laburnum และดอกไม้สีม่วงของ
Broom
3
Laburnocytisus adamii หรือ Adam's laburnum หรือ broom laburnum © Simon Garbutt/Wikimedia Commons
.
Chimerism หรือไคเมร่าเป็นปรากฏการณ์ที่ผิดปกติ
ในสัตว์ไคมีร่าเกิดจากการผสมของไข่ที่ปฏิสนธิสองฟองขึ้นไป
ซึ่งอาจจะส่งผลให้สัตว์ไคมีร่ามีสารพันธุกรรมมากกว่าหนึ่งชนิด
สิ่งเหล่านี้แสดงออกมาในแต่ละลักษณะผ่านรูปแบบที่ละเอียดอ่อน
เช่น สีตาที่ต่างกันในดวงตาทั้งสองข้าง หรือการมีอวัยวะเพศทั้งหญิงและชาย
ในพืช chimeras มักเกิดจากการกลายพันธุ์ ระหว่างการแบ่งเซลล์ธรรมดา
แต่ในบางครั้งพืชไคมีราอาจจะเป็นผลมาจากการต่อกิ่ง
Bizzaria คือพืชชนิดแรกของโลกที่เกิดจากการต่อกิ่งไคมีรา
ระหว่าง
Florentine citron กับ ส้มเปรี้ยว
sour oranges
ต้นไม้ชนิดนี้ผลิตทั้ง Florentine citron และส้มเปรี้ยว
ผลไม้ที่น่าเกลียดน่าชังเป็นก้อนสีเหลืองและสีเขียว
ที่มีลักษณะทางสัณฐานวิทยาของทั้งสองชนิด
4
Bizzaria © Labrina / Wikimedia Commons
.
คำอธิบายของ Bizzaria ปรากฏครั้งแรกในวรรณคดีพืชสวนในปี 1674
เมื่อ Pietro Nati ชาวสวนชาวฟลอเรนติน่าได้ค้นพบพืชไคมีราที่เติบโตจากการแยกต่อกิ่ง
การเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ของตัวอย่างที่ผิดปกติดังกล่าวในขั้นต้น
ทำให้ชุมชนวิทยาศาสตร์ต่างงงงวยและนำไปสู่การคาดเดาต่าง ๆ นานา
เกี่ยวกับลักษณะของการถ่ายทอดทางพันธุกรรมและการผสมพันธุ์ของพืช
Charles Darwin เสนอว่า ลูกผสมใหม่เหล่านี้เป็นผลมาจาก
การที่ต้นตอและหน่อ/กิ่งอ่อนหลอมรวมเข้าด้วยกันที่จุดต่อกิ่ง
เพื่อสร้างพืชใหม่โดยไม่อาศัยเพศ ท่านเรียกมันว่า graft-hybrids
แต่ในปี 1907
Hans Winkler นักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน
ได้ตรวจสอบปรากฏการณ์นี้อีกครั้งด้วยการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อของพืช
ไม้เลื้อยสีดำ (
Solanum nigrum)ลงในมะเขือเทศ (
Solanum lycopersicum)
และค้นพบว่าหน่อที่เกิดขึ้นที่จุดเชื่อมต่อของเนื้อเยื่อทั้งสอง
มีลักษณะทั้งของ ไม้เลื้อยที่ด้านหนึ่งและมะเขือเทศ ในอีกด้านหนึ่ง
ท่านจึงเรียกการค้นพบนี้ว่า Chimera
ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสัตว์ประหลาดกรีก
ที่หายใจด้วยไฟซึ่งประกอบด้วยหัวสิงโต ลำตัวแพะ และหางงู
ไคมีร่ายังเป็นปรากฎการณ์ที่หายากมาก
แม้ว่าจะมีความพยายามสร้างพวกมันด้วยการตัดต่อกิ่ง
จนทุกวันนี้มี Chimeras ของกุหลาบ แอปเปิ้ลและลูกแพร์
5
A chimera apple © flyingbrickciderco.com.au
เรียบเรียง/ที่มา
6
Wild cherry foliage and fruit
7
8
Red glands (extrafloral nectaries) on the petiole
9
10
11
12
Prunus Kanzan
13
Laburnum anagyroides
14
เมล็ด
15
16
Cytisus purpureus
17
18
19
20
Cytisus purpureus
21
22
Citrus aurantium bizzarria Drawing; A.Poiteau 1811, watercolor; D.Del Pino 1821
23
Florentine citron
24
25
Florentine hybrid
26
Citrus × aurantium
27
The bitter orange, whole and sectioned
28
Bitter oranges
29
30
31
32
33
34
35
36
หมายเหตุ
มาเสียบยอดมะนาว กับ มะกรูด
ให้ต้นเติบโตเป็นต้นเดียวกัน
เพราะต้นมะสัง/ต้นมะขวิดเป็นพี่เลี้ยงได้ดี
นัยว่าเป็นของแปลกอย่างหนึ่ง
Graft Chimera ของพืช
บนถนน Rodney ในเมือง Backwell ในเขต North Somerset ของอังกฤษ
มีพืชสวนซึ่งน่าสนใจเพราะมีความแปลกประหลาดมากต้นหนี่ง
คือ มีต้น Cherry ที่ให้ดอกสองสีที่แตกต่างกัน
คือ สีชมพูด้านหนึ่งและสีขาวอีกด้านหนึ่ง
ต้นไม้สองสีนี้คาดว่าถูกปลูกขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1950
ชื่อที่เด็ก ๆ ในเมืองตั้งให้คือ Strawberries และ Cream Tree
Strawberries และ Cream Tree มาจากการต่อกิ่งของ
ต้นเชอร์รี่ป่าพันธุ์พื้นเมือง Prunus avium และ Prunus Kanzan
ซึ่งเป็นต้นเชอร์รี่ดอกไม้ประดับสายพันธุ์จากญี่ปุ่น
เชอร์รี่ป่าให้ดอกสีขาวในขณะที่ Kanzan ให้ดอกสีชมพู
การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อต้นไม้ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อตอนที่
เนื้อเยื่อของพืชสองชนิดที่แตกต่างกันทางพันธุกรรม
หลอมรวมหลังจากการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ
เพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตที่เติบโตเพียงครั้งเดียว
ซึ่งรักษาเนื้อเยื่อทั้งสองประเภทไว้ในการปลูกถ่ายเพียงครั้งเดียว
ตัวอย่างที่รู้จักกันดีของการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ
คือ Laburnocytisus Adamii
ซึ่งเกิดจากการหลอมรวมกันของ Laburnum และ Broom
ต้นไม้ที่เกิดขึ้นมีดอกสีเหลืองทั่วไปของ Laburnum และดอกไม้สีม่วงของ Broom
.
Chimerism หรือไคเมร่าเป็นปรากฏการณ์ที่ผิดปกติ
ในสัตว์ไคมีร่าเกิดจากการผสมของไข่ที่ปฏิสนธิสองฟองขึ้นไป
ซึ่งอาจจะส่งผลให้สัตว์ไคมีร่ามีสารพันธุกรรมมากกว่าหนึ่งชนิด
สิ่งเหล่านี้แสดงออกมาในแต่ละลักษณะผ่านรูปแบบที่ละเอียดอ่อน
เช่น สีตาที่ต่างกันในดวงตาทั้งสองข้าง หรือการมีอวัยวะเพศทั้งหญิงและชาย
ในพืช chimeras มักเกิดจากการกลายพันธุ์ ระหว่างการแบ่งเซลล์ธรรมดา
แต่ในบางครั้งพืชไคมีราอาจจะเป็นผลมาจากการต่อกิ่ง
Bizzaria คือพืชชนิดแรกของโลกที่เกิดจากการต่อกิ่งไคมีรา
ระหว่าง Florentine citron กับ ส้มเปรี้ยว sour oranges
ต้นไม้ชนิดนี้ผลิตทั้ง Florentine citron และส้มเปรี้ยว
ผลไม้ที่น่าเกลียดน่าชังเป็นก้อนสีเหลืองและสีเขียว
ที่มีลักษณะทางสัณฐานวิทยาของทั้งสองชนิด
เมื่อ Pietro Nati ชาวสวนชาวฟลอเรนติน่าได้ค้นพบพืชไคมีราที่เติบโตจากการแยกต่อกิ่ง
การเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ของตัวอย่างที่ผิดปกติดังกล่าวในขั้นต้น
ทำให้ชุมชนวิทยาศาสตร์ต่างงงงวยและนำไปสู่การคาดเดาต่าง ๆ นานา
เกี่ยวกับลักษณะของการถ่ายทอดทางพันธุกรรมและการผสมพันธุ์ของพืช
Charles Darwin เสนอว่า ลูกผสมใหม่เหล่านี้เป็นผลมาจาก
การที่ต้นตอและหน่อ/กิ่งอ่อนหลอมรวมเข้าด้วยกันที่จุดต่อกิ่ง
เพื่อสร้างพืชใหม่โดยไม่อาศัยเพศ ท่านเรียกมันว่า graft-hybrids
แต่ในปี 1907 Hans Winkler นักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน
ได้ตรวจสอบปรากฏการณ์นี้อีกครั้งด้วยการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อของพืช
ไม้เลื้อยสีดำ (Solanum nigrum)ลงในมะเขือเทศ (Solanum lycopersicum)
และค้นพบว่าหน่อที่เกิดขึ้นที่จุดเชื่อมต่อของเนื้อเยื่อทั้งสอง
มีลักษณะทั้งของ ไม้เลื้อยที่ด้านหนึ่งและมะเขือเทศ ในอีกด้านหนึ่ง
ท่านจึงเรียกการค้นพบนี้ว่า Chimera
ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสัตว์ประหลาดกรีก
ที่หายใจด้วยไฟซึ่งประกอบด้วยหัวสิงโต ลำตัวแพะ และหางงู
ไคมีร่ายังเป็นปรากฎการณ์ที่หายากมาก
แม้ว่าจะมีความพยายามสร้างพวกมันด้วยการตัดต่อกิ่ง
จนทุกวันนี้มี Chimeras ของกุหลาบ แอปเปิ้ลและลูกแพร์