อาการพืชบอกโรค🌱🌱

รู้ก่อนสาย อาการพืชบอกโรค
  พืชเป็นสิ่งมีชีวิตที่เจริญเติบโตอยู่ร่วมกับสัตว์และมนุษย์จนเป็นระบบนิเวศวิทยา มนุษย์นั้นรับประทานพืชเป็นอาหารมาช้านาน พืชกับมนุษย์มีสรีระ โครงสร้างที่แตกต่างกัน จนต้องจัดอยู่คนละอาณาจักร มีเพียงสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน  คือการมีชีวิต  มนุษย์นั้นเวลาเจ็บป่วยก็จะแสดงอาการพื้นฐานให้เราทราบว่าเป็นอาการของโรคหรือความผิดปกติชนิดใด
พืชก็เช่นกันพืชนั้นแสดงความเป็นโรคทางใบ ราก ลำต้น ถ้าเราเรียนรู้ภาษาของพืชที่แสดงออกมาเราจะรักษาและป้องได้อย่างทันท่วงที หากต้องการให้พืชที่เราปลูกได้ผลผลิตดีตามที่เราต้องการนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องเข้าใจธรรมชาติของพืชและความความผิดปกติในพืชแต่ละอาการที่แสดงออกมา 
    วันนี้ครูชาตรีขอเชิญเพื่อนๆมาเรียนรู้อาการพื้นฐานของโรคที่แสดงออกบนใบ รากพืช รวมทั้งระบบราก เพื่อเป็นข้อมูลสมมุติฐานในการวินิจฉัยโรคเพื่อหาทางป้องกันจนไม่สายเกินแก้ เริ่มเรียนกันเลยนะครับ
        1.อาการใบจุด   
       ลักษณะอาการเกิดเป็นแผลที่ใบ มีรูปร่างแตกต่างกันแล้วแต่สาเหตุที่เข้าทำลาย ขนาดของแผลอาจเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ บนใบ อาจเกิดกระจายกันทั่วทั้งใบ ถ้าเกิดจุดแผลมาก ๆ อาจจะทำให้ใบแห้งได้ โรคใบจุดของพืชส่วนมากเกิดจากเชื้อราและแบคทีเรีย เช่น โรคใบจุดของถั่วเขียว โรคใบจุดของคื่นฉ่าย โรคใบจุดของถั่วฝักยาว เป็นต้น
        2.อาการใบไหม้  
        ลักษณะอาการที่พบ ใบจะมีแผลแห้งขนาดใหญ่ บางครั้งแห้งจากเนื้อใน หรือจากขอบใบ  แต่ที่แตกต่างจากใบจุด คืออาการใบไหม้จะใหญ่กว่า กินเนื้อที่ของใบกว้างกว่า  สาเหตุเกิดจากเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย(อาการต่างจากเชื้อราคือขอบแผลจะมีน้ำเยิ้ม) นอกจากนี้อาจเกิดจากการให้ปุ๋ยมากเกินไป หรืออีกสาเหตุหนึ่งคือโดนยากำจัดวัชพืช ถูกสารเคมีเช่น ยาปราบวัชพืช ยาฆ่าแมลงในปริมาณที่มากเกินไปและมีสภาพอากาศที่ร้อนจัด
      3.อาการใบขาวซีด  
       มักเกิดจากขาดแสงสว่าง ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการผลิตคลอโรฟิลล์ที่ทำให้ต้นไม้มีใบสีเขียว สังเกตได้จากการนำต้นไม้ปกติไปวางในที่มืด ผ่านไปไม่กี่วันใบก็จะเป็นสีขาวซีดและอ่อนแอ 
   4.อาการใบด่าง  
       มักเกิดจากเชื้อไวรัส ที่มีแมลงต่างๆเป็นพาหะ ซึ่งโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสนี่ถ้าเป็นแล้ว มีแต่ตายกับตายลูกเดียว แก้ไขยาก เพราะมันทำลายลึกลงไปในระดับเซลล์และกระจายไปทั่วต้นผ่านระบบการลำเลียงอาหารและน้ำของพืชแตกต่างจากโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราหรือแบคทีเรียที่เกิดขึ้นเฉพาะจุด เฉพาะส่วน ดังนั้น แนะนำให้กำจัดทิ้ง ขุดรากถอนโคนเอาต้นที่เป็นโรคออกจากแปลงไปเผาทิ้งให้ไกลๆ สวนก่อน เพราะถ้าเกิดมีแมลงไปดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นที่เป็นโรคแล้วไปดูดกินต้นที่ไม่เป็นโรคต่อ 
  5.ใบขาวเหลือง   
      เนื้อใบสีเขียวจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองซีด หรือเขียวอ่อนถึงสีขาว โดยมักจะเปลี่ยนสีทั้งใบ สาเหตุหลักมักมาจากเชื้อ ไมโครพลาสมา
   6.ใบหงิกใบหด 
      อาการที่เห็นเนื้อใบไม่แผ่ มักจะหงิกงอเป็นคลื่น ขอบใบม้วนขึ้นหรือม้วนลง  สาเหตุมักเดิดจากเชื้อไวรัส หรือแมลงดูดกิน ถ้าเป็นแมลงดูกินจะเห็นตัวแมลงและร่องรอยเจอะดูดบนส่วนของพืช
   7.อาการโรคราแป้ง 
        เมื่อเรามองที่ใบพืช จะเห็นลักษณะเหมือนแป้งฝุ่นปกคลุมใบ จะเกิดที่ส่วนของยอดใบก่อน แล้วขยายลุกลามตามใบพืช จนทำให้พืชตาย สาเหตุจากเชื้อรา
   8.อาการโรคราน้ำค้าง
          ถ้าเรามองด้านบนของใบจะมีลักษณะสีเหลืองซีด บริเวณใต้ใบมักพบของเซลล์ตายบนรอยแผลใต้ใบ ถ้าอากาศเย็นมีความชื้นจะเห็นส่วนของราชัดเจนมีลักษณะเป็นผงสีขาว อาการโรคนี้จะต่างกันในแต่ละพืชต้องหมั่นสังเกต
    9.อาการโรคราดำ 
       โรคนี้จะเห็ดอาการชัดเจน  ใบจะมีผงคล้ายเขม่าสีดำปกคลุมส่วนของพืช ถ้าเอามือสัมผัสผงสีดำจะติดมือมา  สาเหตุมาจากเพลี้ยจั๊กจั่นดูดน้ำเลี้ยงแล้วขับถ่ายออกมาเป็นน้ำหวาน ซึ่งเป็นอาหารของเชื้อรา
   10.อาการโรคราสนิม 
       ใบจะเป็นแผลลักษณะตุ่มหรือขุยคล้ายสนิม พบในทุกส่วนของใบ มักเป็นกับพืชตระกูลหญ้า ถ้ารุนแรงจะพบว่ามีผงละอองคล้ายสนิม สาเหตุจากเชื้อรา
  11.อาการแอนเทคโนส
        ใบหรือผลจะเกิดแผลแห้งตายมีสีน้ำตาล ลักษณะเป็นวงคล้ายวงแหวน เรียงซ้อนเป็นชั้นๆ บางครั้งจะเกิดบริเวณกลางใบ ถ้ารุนแรงใบจะแห้งตายในที่สุด 
 12 .อาการเหี่ยว 
      พืชมักจะมีใบเหี่ยวจากนั้นค่อยๆลู่ลง ในที่สุดจะเหี่ยวและตายในที่สุด อาการเหี่ยวมีหลายสาเหตุ
       - เหี่ยวเพราะขาดน้ำจะเป็นช่วงแดดจัด ถ้าเรารดน้ำสักพักจะหาย
      -ถ้าเหี่ยวแต่น้ำสมบูรณ์ แสดงว่าระบบรากมีปัญหา เช่นรากปม รากเป็นแผล รากขาด เชื้อรา หรือระบบท่อน้ำภายในอุดตัน
13.อาการแตกพุ่ม 
      จะแสดงอาการบริเวณตาดอก และตาใบ ที่จะเจริญเป็นกิ่งก้าน มีใบมากกว่าปกติ มีขนาดเล็ก เป็นพุ่มกระจุกคล้ายไม้กวาด พืชบางชนิดเกิดกลีบดอกมีลักษณะคล้ายใบ สาเหตุจากเชื้อไมรโครพลาสม่า
14.อาการเน่าเละ
         เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย  เนื้อเยื่อจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เน่าเละ มีน้ำเมือก บางครั้งมีกลิ่นเน่าเหม็นรุนแรง ส่วนใหญ่มักเกิดกับพืชตะกูลกระหล่ำหรือตระกูลผักกาด
15.อาการแคระแกรน 
       เกิดจากเชื้อไวรัส  พืชจะเจริญไม่เต็มที่ ชงักการเจริญเติบโตต้น กิ่ง ก้าน ใบผลมีขนาดเล็ก ข้อปล้อง กิ่งก้านสั้น ใบเปลี่ยนสี และหงิกงอ
16.อาการรากเป็นปม 
        เมื่อถอนรากขึ้นมา รากจะมีอาการพองออกเป็นปม โดยพองออกจากภายใน มิได้พองด้านใดด้านหนึ่ง เกิดจากไส้เดือนฝอย 
17.อาการรากเป็นแผล
       จะพบว่ารากส่วนที่เป็นรากฝอยจะเป็นแผลกระจายอยู่ทั่วเกิดจากไส้เดือนฝอย
18.อาการผลเน่า
         ผลจะเป็นแผลสีดำหรือน้ำตาล ต่อมาจะขยายรุกลามจนทั่วผล ส่วนใหญ่มักอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยว มักเกิดจากเชื้อรา
19.อาการผลปริแตก
         ผลจะปริแตก มักไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แต่เกิดจากพืชได้รับน้ำไม่สม่ำเสมอ ถ้าพืชขาดน้ำ แล้วได้รับน้ำปริมาณมากแบบฉับพลันเช่นฝนตกหนัก ใขณะผลอ่อนผลจะแตก ถ้าเป็นผลแก่ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์น้ำตาลสูง ฝนตกหนักมาจะเกิดการดูดซึมน้ำมากจะทำให้ผลปริแตก
 20.อาการต้นกล้าในแปลงเน่า
       ต้นกล้าที่เราเพาะตายฟุบเป็นหย่อมๆ ถ้าหยิบต้นกล้ามาดู โคนกล้าติดรากจะเป็นแผล มีสีน้ำตาลเน่าแฟบ พบในแปลงที่กล้าพืชแน่น และมีความชื้นสูง เกิดจากเชื้อรา
  21 .อาการขาดธาตุอาหาร
 -ไนโตรเจน  พืชโตช้า แคระแกรน ใบมีสีเหลือง ต้นอ่อนชงักการเจริญเติบโต
 -ฟอสฟอรัส  ใบแก่มีสีม่วงแดง ขอบใบม้วน ผอมสูง ลำต้นบิด
-โปรเทสเซี่ยม  ใบแก่มีสีเหลืองซีด จะเป็นบริเวณขอบใบ
-แมงกานีส ใบจะเป็นสีเหลืองแต่เส้นใยยังเขียวอยู่ มีจุดสีเหลือง ปลายใบแห้ง
-แคลเซียม ใบอ่อนไม่คลี่จากกัน  ใบบิดเบี้ยวม้วนงอไปข้างหน้า
-โบรอน  ยอดใบไหม้โดยเฉพาะยอดอ่อน โดช้า ยอดอ่อนโตผิดปกติ
-กำมะถัน  อาการที่แสดงออก ต้นมีจะใบด่างเหลืองทั้งใบ 
-เหล็ก  ใบอ่อนเล็กกว่าปกติ จะเห็นเส้นใบมีสีเหลือง
-สังกระสี  ใบมีจุดสีเหลืองคล้ายโรคราสนิม
เรียนเกษตรง่ายๆกับครูชาตรีจะนำเสนอเรื่องเกษตรแบบง่ายๆเขาลองทำมาแล้วเลยเอามาบอกต่อ 99วัน99เรื่อง ท่านว่าดีไหม..ถ้าดี ช่วยกดติดตามที่เพจ Cha tisol หรือกดถูกใจที่เพจ เรียนเกษตรง่ายๆกับครูชาตรี นะครับแล้วเราจะได้สื่อสารกับง่ายๆถ้ามีเรื่องที่สนใจให้มาเรียนรู้กัน
#tiktok @theninwow
#ทำสวนปะหละ
#แม่ฉันทำสวน 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่