สวัสดีค่ะ นักอ่านทุกท่าน
วันนี้ยังขอเสนอบทความเก่าที่เคยขียนลงสื่อท้องถิ่น "สื่อตะวันตก" เมื่อปี 2556 อีกเรื่องหนึ่งค่ะ
เหตุผลที่เป็นบทความสั้นเพราะพื้นที่จำกัด  ส่วนประเด็นที่เก็บมาก็สั้นๆ เช่นกันเพราะจำกัดด้วยเวลา 
เนื่องจากขณะนั้นผู้เขียนยังดูแลผู้สูงวัยที่ป่วยติดเตียงที่บ้านด้วยค่ะ
ผ่านมาหลายปี ไม่ทราบว่าปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมากไหม 
ท่านใดไปเที่ยวมาแล้ว เข้ามาคุยกันได้นะคะ

ผู้เขียนเป็นคนสวนผึ้ง แต่ไม่ใช่โดยกำเนิดค่ะ
ได้ใช้ชีวิตที่นั่นในช่วงวัยประถมและมัธยมต้น
และมีหลายสิ่งที่ประทับใจด้วย จนคิดว่าจะเขียนเป็นนิยายสักเรื่อง
หวังว่าจะมีโอกาสนำมาวางใน Pantip บ้างค่ะ

จริงใจ
วรา  วราภรณ์
3 สิงหาคม 2563
......................................................................   

เรื่อง...ฉ่ำใจกับลมหนาวบนเขากระโจม  
โดย วรา  วราภรณ์  

          ลมหนาวปี 2556 มาเยือนแบบไม่เกรงใจใคร กรุงเทพฯที่ไม่เคยต่ำกว่ายี่สิบองศาก็ยังมีโอกาสเย็นยะเยือกไปด้วย ทีนี้คนเมืองที่ขลุกอยู่กับคอนกรีตมานานก็ย่อมอยากสัมผัสหยาดน้ำค้างและกระไอหมอกตามป่าเขากันบ้างใช่ไหมล่ะคะ

            ในฐานะคนสวนผึ้งที่อยู่ติดพรมแดนไทย-สหภาพเมียนมาร์ ผู้เขียนขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสสายลมหนาวให้ฉ่ำใจบนเทือกเขาตะนาวศรีในเขตจังหวัดราชบุรีที่มีชื่อว่า เขากระโจม เมื่อราวห้าสิบปีก่อนมีคนไทยขึ้นไปทำเหมืองแร่ดีบุกกันบนนั้น แต่ปัจจุบันเลิกสัมปทานไปแล้ว พื้นที่นั้นจึงอยู่ในความรับผิดชอบของกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 137 

            จากพื้นราบของอำเภอสวนผึ้งที่ค่อยไต่ระดับขึ้นไปสู่เขากระโจมรวมเป็นระยะทางเกือบสามสิบกิโลเมตร การเดินทางมีสีสันอย่างมาก โดยเฉพาะระยะสิบกิโลจากปากทางจนถึงยอดเขา ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น เพราะมีทั้งลาดผาสูงชัน และถนนดินที่เป็นทางน้ำ (ป่า) ผ่าน แถมบางตอนต้องลุยห้วย เรียกว่านั่งแทบไม่ติดเบาะเลยเชียว  

            ราวสี่สิบนาทีก็จะได้ขึ้นไปถึงจุดชมทิวทัศน์บนเขาซึ่งไม่กว้างขวางนัก เป็นลานกลางแจ้งอยู่ในบริเวณเดียวกับฐานที่ตั้งของ ตชด. ที่แสดงอาณาเขตว่า “สุดเขตประเทศไทยภาคตะวันตก” มีพื้นที่พักแรมแบบนอนเต็นท์พร้อมสุขาที่เรียบง่าย ขณะที่ใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดจากพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับท่านที่รีบตื่นเพื่อคอยชมแสงตะวันแรก พ่อค้า (ตชด.) เขาก็มีเครื่องดื่มร้อนพร้อมปาท่องโก๋บริการเสร็จสรรพ ถ้วยละ 20 บาทค่ะ และหากใครเย็นจนใบหูชาและปวดหนึบๆ อาจได้โอกาสซื้อหมวกและผ้าพันคอไหมพรมที่คุณ ตชด.เอาขึ้นไปขายด้วยความห่วงใยพร้อมทั้งเป็นรายได้เข้ากองทุนด้วยเลย อ้อ ที่ระลึกอย่างเสื้อยืดพิมพ์ชื่อและภาพเขากระโจมก็มีให้เลือกช็อปอีกต่างหาก

          เสน่ห์ของเขากระโจมคือ เส้นทางที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและสีสันกับคุณภาพอากาศที่สดสะอาดกว่าพื้นราบจนรู้สึกได้ เพราะขนาดไม่ใช่ฤดูหนาว อุณหภูมิเช้ามืดยังเพียงแค่ 16 องศา และไม่ว่าท่านจะเดินทางมาอย่างไร สุดท้ายก็สามารถขึ้นเขากระโจมได้เพราะมีรถบริการอยู่ที่จุดปากทางขึ้นเขา

            การเดินทางที่ทำให้ผู้เขียนได้ขึ้นไปสัมผัสอากาศบนยอดเขากระโจมเป็นครั้งแรกในเช้ามืดวันนั้นได้รับความเอื้อเฟื้อจากคุณเอก เจ้าของรถกระบะคันเก่ง แห่ง “ไอดินกลิ่นหมอก” รีสอร์ตหลังกะทัดรัดที่ตั้งอยู่เชิงเขาริมธาร ห่างจากทางขึ้นเขากระโจมไม่ไกลมากนัก โดยมีบริการกางเต็นท์และรถนำชมจุดท่องเที่ยวละแวกนั้น อย่างสวนกุหลาบ สวนกล้วยไม้ น้ำตก และธารน้ำร้อนด้วย

          หากคนเมืองใหญ่อยากมาสูดอากาศบ้านป่าด้วยการเดินทางระยะสั้นๆ ขอเชิญที่เขากระโจม สวนผึ้ง ราชบุรีนะคะ  
           
 

หลังดงกล้วยป่าแลเห็นเวิ้งฟ้าและแนวเทือกเขาฝั่งพม่าที่อยู่ไกลออกไป

  
ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ยังมีให้เห็นใกล้ฐานที่ตั้ง ตชด.บนเขากระโจม

ลายพิมพ์เขากระโจมบนเสื้อยืดที่ระลึกราคาไม่แพง


ขบวนรถนักท่องเที่ยวทยอยไต่ลงเขาภายหลังสูดอากาศบริสุทธิ์จนช่ำปอด

(ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านค่ะ)