สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ขอมารีวิวเครื่องหนีบผม ghd นะคะ
ghd มีออกมาหลายรุ่นมาก แต่รุ่นที่เราซื้อคือรุ่น platinum plus ต้องบอกก่อนว่าไม่เคยรู้จัก ghd มาก่อน และเพราะคิดว่าเครื่องหนีบผมยี่ห้อไหนๆก็เหมือนกัน ปกติจะซื้ออยู่ในราคาแระมาน 800 - 2,000 บาท ไม่เกินนี้ และที่เราเคยใช้มาทั้งหมดมักจะมีปัญหาที่เกิดขึ้นเหมือนๆกันคือ
1. หนีบแล้วเหมือนไฟฟ้าสถิตตรงเส้นผม
2. ส่วนมากใช้เกิน 8 เดือนขึ้นไป จะเริ่มไม่ร้อนเหมือนตอนแรกๆ ต้องเร่งระดับไฟมากขึ้น
3. ตรงหัวที่หนีบถ้าเอามือไปโดน ถึงจะฝั่งข้างนอกก็จะร้อนแบบเนื้อพองได้ (ใบหูพองไปหลายทีละค่ะ)
4. กินเส้นผม
5. บางทีเหมือนกลิ่นผมไหม้ แต่ไม่ไหม้นะ 5555
ปัญหาที่เกิด ไม่ได้กวนใจเราเท่าไร เพราะเราคิดว่าราคาประมาณนี้ ใช้ถึง 1 ปี ก็ถือว่าคุ้มกับราคามากแล้ว แต่เนื่องจากว่ามันเกิดปัญหาสะสมตรงที่พอเราหนีบผมไปเรื่อยๆ ผมเราเริ่มแห้ง ขาดง่าย เวลาหนีบแล้วมันตรงแบบไม่สมูท เราเลยเริ่มศึกษาหาที่หนีบผมที่ดีกว่าเดิม อ้อลืมบอก บำรุงผมก็แล้วนะคะ แต่ยังเป็น จนไปที่ร้านดูแลผมเค้าเลยแนะนำว่าที่หนีบผมที่แหละที่เป็นตัวปัญหา
เราได้หาข้อมูลทั้งจากอินเตอร์เนต ยูทูปของชาวต่างชาติ คำแนะนำจากทางร้าน จนถึงเวลาที่เราตัดสินใจซื้อ มีทั้งหมด 3 ตัวที่เล็งไว้
1. ตัวไอน้ำของ Philips moisture protect
2. ghd premium+
3. ที่หนีบผมไร้สายของ dyson
แต่เราก็มาเลือก ghd premium+ เราซื้อจากออสเตรเลีย ราคาเป็นเงินไทยประมาน 7 พันกว่าบาท คือที่ชอบเพราะสีขาว และรูปทรง ความถนัดมือ เราผมไม่ยาวมาก ประบ่า ขนาดกำลังดีเลย ราคานี้สำหรับเราเราถือว่าแพง แต่ว่าชอบตรงที่มันไม่กินเส้นผมเราเลย และความร้อนที่ออกมามันไม่ได้ร้อนแบบเหมือนเครื่องที่เราเคยใช้ จะบอกว่าไม่มีไฟฟ้าสถิตผมเลยคงเป็นไปไม่ได้ มีบ้างแต่เล็กน้อยมาก ผมที่หนีบออกมามันสมูทมาก ดูไม่ตรงแบบเด่ๆแบบตั้งใจเหมือนเมื่อก่อน มันดูแบบดูผมไม่แห้ง หรือเราอาจจะคิดไปเอง 555 เจ้าตัวนี้ปรับความร้อนไม่ได้นะคะ เครื่องจะประเมินความร้อนที่เหมาะกับผมเราเอง และเครื่องนี้ดูแลผมด้วย ไม่ทำให้ผมเสียแห้งฟู ถามว่ามันเป็นอย่างที่เคลมไหม เราเชื่อว่า 60% จริงค่ะ แต่อีก 40 นี่ขอเรากั๊กไว้ก่อนให้เราใช้ถึง 6 เดือนก่อน แล้วถึงจะตอบได้
เจ้าเครื่องนี้มากับประกัน 3 ปี เราคิดว่าถ้า 3 ปี กับราคานี้น่าลงทุนอยู่ แต่อย่าลืมถ้าซื้อมาต้องไปลงทะเบียนในเวปไซต์ก่อนนะคะ ถ้าถามว่าต้องมีไหม เราบอกเลยว่า ไม่ต้องก็ได้ เพราะ ถ้าจะหนีบให้ผมตรง เครื่องถูกกว่านี้ก็ทำได้ แต่ถ้าอยากได้เครื่องที่ไม่ทำลายผมเร็วเท่าเครื่องที่ราคาถูกกว่านี้ เราแนะนำนะ
** เราลองของ dyson มาแล้ว แต่เราคิดว่าราคาแพงเว่อไปมาก และผลลัพที่ออกมาไม่ได้แตกต่าง หรือมีอะไรที่ตื่นเต้นกว่ามาก เราเลยตัดออกนะคะ
** ก่อนหน้านี้เราใช้ของ REMINGTON ปัญหาที่เจอบ่อยๆของยี่ห้อนี้คือ ร้อนตรงหัวภายนอกแบบโดนทีสะดุ้งเลยค่ะ และก็กินเส้นผม ถามว่าทนไหม ถ้าระยะเวลาปีนึงก็ถึงนะนะคะ แต่ประสิทธิภาพลดลงตั้งแต่เกิน 8 เดือนแน่นอน บางรุ่นไม่ถึงด้วย
[CR] รีวิว เครื่องหนีบผม ghd platinum+
ghd มีออกมาหลายรุ่นมาก แต่รุ่นที่เราซื้อคือรุ่น platinum plus ต้องบอกก่อนว่าไม่เคยรู้จัก ghd มาก่อน และเพราะคิดว่าเครื่องหนีบผมยี่ห้อไหนๆก็เหมือนกัน ปกติจะซื้ออยู่ในราคาแระมาน 800 - 2,000 บาท ไม่เกินนี้ และที่เราเคยใช้มาทั้งหมดมักจะมีปัญหาที่เกิดขึ้นเหมือนๆกันคือ
1. หนีบแล้วเหมือนไฟฟ้าสถิตตรงเส้นผม
2. ส่วนมากใช้เกิน 8 เดือนขึ้นไป จะเริ่มไม่ร้อนเหมือนตอนแรกๆ ต้องเร่งระดับไฟมากขึ้น
3. ตรงหัวที่หนีบถ้าเอามือไปโดน ถึงจะฝั่งข้างนอกก็จะร้อนแบบเนื้อพองได้ (ใบหูพองไปหลายทีละค่ะ)
4. กินเส้นผม
5. บางทีเหมือนกลิ่นผมไหม้ แต่ไม่ไหม้นะ 5555
ปัญหาที่เกิด ไม่ได้กวนใจเราเท่าไร เพราะเราคิดว่าราคาประมาณนี้ ใช้ถึง 1 ปี ก็ถือว่าคุ้มกับราคามากแล้ว แต่เนื่องจากว่ามันเกิดปัญหาสะสมตรงที่พอเราหนีบผมไปเรื่อยๆ ผมเราเริ่มแห้ง ขาดง่าย เวลาหนีบแล้วมันตรงแบบไม่สมูท เราเลยเริ่มศึกษาหาที่หนีบผมที่ดีกว่าเดิม อ้อลืมบอก บำรุงผมก็แล้วนะคะ แต่ยังเป็น จนไปที่ร้านดูแลผมเค้าเลยแนะนำว่าที่หนีบผมที่แหละที่เป็นตัวปัญหา
เราได้หาข้อมูลทั้งจากอินเตอร์เนต ยูทูปของชาวต่างชาติ คำแนะนำจากทางร้าน จนถึงเวลาที่เราตัดสินใจซื้อ มีทั้งหมด 3 ตัวที่เล็งไว้
1. ตัวไอน้ำของ Philips moisture protect
2. ghd premium+
3. ที่หนีบผมไร้สายของ dyson
แต่เราก็มาเลือก ghd premium+ เราซื้อจากออสเตรเลีย ราคาเป็นเงินไทยประมาน 7 พันกว่าบาท คือที่ชอบเพราะสีขาว และรูปทรง ความถนัดมือ เราผมไม่ยาวมาก ประบ่า ขนาดกำลังดีเลย ราคานี้สำหรับเราเราถือว่าแพง แต่ว่าชอบตรงที่มันไม่กินเส้นผมเราเลย และความร้อนที่ออกมามันไม่ได้ร้อนแบบเหมือนเครื่องที่เราเคยใช้ จะบอกว่าไม่มีไฟฟ้าสถิตผมเลยคงเป็นไปไม่ได้ มีบ้างแต่เล็กน้อยมาก ผมที่หนีบออกมามันสมูทมาก ดูไม่ตรงแบบเด่ๆแบบตั้งใจเหมือนเมื่อก่อน มันดูแบบดูผมไม่แห้ง หรือเราอาจจะคิดไปเอง 555 เจ้าตัวนี้ปรับความร้อนไม่ได้นะคะ เครื่องจะประเมินความร้อนที่เหมาะกับผมเราเอง และเครื่องนี้ดูแลผมด้วย ไม่ทำให้ผมเสียแห้งฟู ถามว่ามันเป็นอย่างที่เคลมไหม เราเชื่อว่า 60% จริงค่ะ แต่อีก 40 นี่ขอเรากั๊กไว้ก่อนให้เราใช้ถึง 6 เดือนก่อน แล้วถึงจะตอบได้
เจ้าเครื่องนี้มากับประกัน 3 ปี เราคิดว่าถ้า 3 ปี กับราคานี้น่าลงทุนอยู่ แต่อย่าลืมถ้าซื้อมาต้องไปลงทะเบียนในเวปไซต์ก่อนนะคะ ถ้าถามว่าต้องมีไหม เราบอกเลยว่า ไม่ต้องก็ได้ เพราะ ถ้าจะหนีบให้ผมตรง เครื่องถูกกว่านี้ก็ทำได้ แต่ถ้าอยากได้เครื่องที่ไม่ทำลายผมเร็วเท่าเครื่องที่ราคาถูกกว่านี้ เราแนะนำนะ
** เราลองของ dyson มาแล้ว แต่เราคิดว่าราคาแพงเว่อไปมาก และผลลัพที่ออกมาไม่ได้แตกต่าง หรือมีอะไรที่ตื่นเต้นกว่ามาก เราเลยตัดออกนะคะ
** ก่อนหน้านี้เราใช้ของ REMINGTON ปัญหาที่เจอบ่อยๆของยี่ห้อนี้คือ ร้อนตรงหัวภายนอกแบบโดนทีสะดุ้งเลยค่ะ และก็กินเส้นผม ถามว่าทนไหม ถ้าระยะเวลาปีนึงก็ถึงนะนะคะ แต่ประสิทธิภาพลดลงตั้งแต่เกิน 8 เดือนแน่นอน บางรุ่นไม่ถึงด้วย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้