เวลาที่มืดมิดที่สุดก็คือใกล้สว่าง.. .. .. (ชินจัง talk talk)

กระทู้สนทนา
ถ้าเป็น"นักลงทุน"ทุกคนคงไม่กลัวอยู่แล้วแม้ในช่วงเวลาที่ ตลาดร่วงแรง.. ดาวโจนส์ร่วงแรง.. น้ำมันร่วงแรง..

ทุกอย่าง..

เราเคยผ่านมันมาหมดแล้ว..

รวมถึงวันที่เลวร้ายที่สุด ดาวร่วงวันละพันจุด เซตร่วงวันละร้อยจุด..

เราเจอมันมาแล้ว.. และวันนี้เราก็ยังอยู่..!!

ผลประกอบการไตรมาส2 การประกาศGDPอเมริกา แม้ตัวเลขเพิ่งเปิดเผย แต่นักวิจัยเขารู้ก่อนแล้ว นักลงทุนสภาบันหลักรู้อยู่แล้ว

การมารู้สึกตกใจในวันที่ตัวเลขออกมาแล้ว จึงไม่ใช่วิสัยธรรมชาติของ"นักลงทุน"ระยะไกล..

การที่หุ้นปรับฐานแรงๆ เป็นโอกาสให้เราปรับพอร์ตอีกครั้ง สลับสับเปลี่ยนหุ้น การที่เราได้เห็นงบของหุ้นบางตัวที่ออกมาก่อนแล้ว สามารถนำไปเทียบในอุตสาหกรรมเดียวกันได้ สามารถคาดการณ์งบที่จะออกมาได้ จากการประเมินว่าบริษัทที่เราสนใจอ่อนแอหรือแข็งแกร่งกว่าเพื่อนๆเขาที่งบออกมาแล้ว..

แม้หุ้นจะย่อจาก 1450 มา 1300 แต่ดัชนีก็ไม่สำคัญเท่าหุ้นรายตัว.. หุ้นหลายตัวขึ้นสวนตลาด ขึ้นเป็นเด้ง2เด้ง ในช่วงเพียง1-2เดือน ซิลลิ่งบ้าง ทำนิวไฮบ้าง หลายตัวงบออกมาดีกว่าคาดบ้าง กำไรสวนกระแสโควิดบ้าง..
หุ้นไหนที่จะอยู่รอดได้ หลังโรคจบ หลังวัคซีนมา ใครจะกลับมายืนและเติบโตได้ ใครที่ผู้บริโภคขาดไม่ได้ ต้องกินต้องใช้บริการ ต้องพึ่งพา ใครที่พัฒนาปรับตัวอยู่เสมอ ฯลฯ

ถ้าเรามัวแต่กลัวเพราะดัชนี เราก็จะพลาดโอกาสเข้าลงทุนหรือได้กำไรจากหุ้นเหล่านี้..!!

ทำไมเราต้องกลัว

เพราะ

...

...

" ในช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุด ต่อไปก็คือใกล้สว่างแล้ว "

โชคดี

แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่