ปัจจัย 4 ประการที่เป็นสิ่งสำคัญของมนุษย์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “ที่อยู่อาศัย” ซึ่งเมื่อถึงวัยที่สามารถทำงานหาเงินเองได้แล้ว ทุกคนล้วนมองที่อยู่อาศัยของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของ คอนโด บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม ต่างๆ แล้วก็มักจะมีคำถามอย่างหนึ่ง คือ เช่า หรือ ซื้อ แบบไหนดีกว่ากัน ?
❖ คำตอบที่ชัดเจนที่สุด คือ “ไม่มีวิธีที่ดีที่สุด” มีแต่วิธีที่เหมาะสมที่สุดต่างหาก เพราะแม้ว่าการซื้อบ้านจะให้ความรู้สึกว่าได้เป็น “เจ้าของบ้าน” ก็ตาม แต่แทบทุกคนก็จะใช้บริการสินเชื่อของสถาบันการเงินต่างๆ ทั้งนั้น และสิ่งที่ตามมาก็คือ รายจ่ายดอกเบี้ยจากสินเชื่อที่อยู่อาศัย ดังนั้นในรายจ่ายส่วนนี้ บางครั้ง การเช่า อาจจะเหมาะกับบางครอบครัวและช่วงจังหวะชีวิตของแต่ละคน ดังนั้นหากพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้ อาจจะช่วยในการตัดสินใจได้มากขึ้น
▪ เงินเฟ้อ : ที่อาจทำให้ราคาบ้านสูงขึ้นในอนาคต เช่น ซื้อบ้านราคา 3 ล้านบาทวันนี้ หากเงินเฟ้อเฉลี่ย 3% ต่อปี บ้านหลังนี้จะมีราคาประมาณ 4 ล้านบาท ในอีก 10 ปีข้างหน้า แต่หากเป็นการเช่าซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสัญญาแบบรายปี ค่าเช่าก็จะปรับสูงขึ้นตามเงินเฟ้อ เช่น ถ้าเงินเฟ้ออยู่ระดับ 3% ค่าเช่าปีนี้จาก 10,000 บาท/เดือน อาจปรับเป็น 10,300 บาท/เดือน ในปีหน้า
▪ ดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย : หากซื้อบ้านในช่วงที่ดอกเบี้ยขึ้นสูง นั่นหมายถึงภาระค่างวดบ้านแต่ละเดือนที่สูงขึ้นไปด้วย ทั้งนี้สถาบันการเงินบางแห่งอาจมีอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยคงที่ระยะยาว ส่วนมากอยู่ที่ 3 ปี แต่ก็มีบางแห่งให้ระยะเวลายาวถึง 5 ปี หรือ 10 ปี ก็จะช่วยให้สามารถวางแผนการเงินของครอบครัวได้ดีขึ้น ดังนั้นในช่วงดอกเบี้ยสูงๆ อาจไม่เหมาะกับการตัดสินใจซื้อบ้าน ในระหว่างนั้นอาจใช้วิธีการเช่าบ้านไปก่อนก็เป็นทางเลือกที่ดี
▪ เงินก้อนต่างกัน : ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหรือเช่าบ้าน ต่างก็ต้องใช้เงินก้อนบางส่วนด้วย ไม่ว่าจะเป็นเงินดาวน์ ค่าธรรมเนียมต่างๆ หรือเงินประกัน ซึ่งการซื้อบ้านหรือเช่าบ้านใช้จำนวนเงินก้อนแรกแตกต่างกัน
❖ สรุป : เช่า หรือ ซื้อ ไม่มีคำตอบที่แน่นอนว่าแบบไหนจะดีกว่ากัน ❖
แต่ละครอบครัวต้องคิดคำนวณเหตุผลและความจำเป็นที่เหมาะสมต่อสถานการณ์
ศึกษาข้อมูลให้มากที่สุดในการวางแผนรายจ่ายในอนาคต
เช่า กับ ซื้อ (บ้าน) แบบไหนดีกว่ากัน ?
▪ เงินเฟ้อ : ที่อาจทำให้ราคาบ้านสูงขึ้นในอนาคต เช่น ซื้อบ้านราคา 3 ล้านบาทวันนี้ หากเงินเฟ้อเฉลี่ย 3% ต่อปี บ้านหลังนี้จะมีราคาประมาณ 4 ล้านบาท ในอีก 10 ปีข้างหน้า แต่หากเป็นการเช่าซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสัญญาแบบรายปี ค่าเช่าก็จะปรับสูงขึ้นตามเงินเฟ้อ เช่น ถ้าเงินเฟ้ออยู่ระดับ 3% ค่าเช่าปีนี้จาก 10,000 บาท/เดือน อาจปรับเป็น 10,300 บาท/เดือน ในปีหน้า
▪ ดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย : หากซื้อบ้านในช่วงที่ดอกเบี้ยขึ้นสูง นั่นหมายถึงภาระค่างวดบ้านแต่ละเดือนที่สูงขึ้นไปด้วย ทั้งนี้สถาบันการเงินบางแห่งอาจมีอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยคงที่ระยะยาว ส่วนมากอยู่ที่ 3 ปี แต่ก็มีบางแห่งให้ระยะเวลายาวถึง 5 ปี หรือ 10 ปี ก็จะช่วยให้สามารถวางแผนการเงินของครอบครัวได้ดีขึ้น ดังนั้นในช่วงดอกเบี้ยสูงๆ อาจไม่เหมาะกับการตัดสินใจซื้อบ้าน ในระหว่างนั้นอาจใช้วิธีการเช่าบ้านไปก่อนก็เป็นทางเลือกที่ดี
▪ เงินก้อนต่างกัน : ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหรือเช่าบ้าน ต่างก็ต้องใช้เงินก้อนบางส่วนด้วย ไม่ว่าจะเป็นเงินดาวน์ ค่าธรรมเนียมต่างๆ หรือเงินประกัน ซึ่งการซื้อบ้านหรือเช่าบ้านใช้จำนวนเงินก้อนแรกแตกต่างกัน