มาแชร์ประสบการณ์รักษาโรคตาแห้ง รวมระยะเวลา 1 ปีพอดี เริ่มรักษาตั้งแต่ กรกฎาคมปี63
ครั้งแรกที่เริ่มไปหาหมอ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง เราไปด้วยอาการคันตา เคืองตามาก เจอคุณหมอผู้หญิงดูหน้าตาอ่อนวัย ยังวัยรุ่นอยู่ แต่ก็ทำการตรวจเช็คโดยใช้เครื่องมือจักษุแพทย์ทั่วไป ปรากฏว่าส่องดูตาแห้งมาก แต่ไม่ได้ให้ยารักษาตาแห้ง ให้แค่ยาหยอดตาสเตียรอยด์มาหยอด หยอดแค่วันเดียว หายเป็นปลิดทิ้ง ให้หยอด1สัปดาห์ แล้วนัดไปดู ตอนไปตรวจตาอีกครั้งหมอก็ยังไม่ได้ให้อะไรมาเพื่อรักษาตาแห้ง แค่บอกว่าหายแล้วนัดอีก1เดือนมาดูใหม่ ปรากฏว่าพอหลังจากเลิกหยอดสเตรียรอยด์ เป็นอีกแล้วคันตาเคืองตา ไปหาหมอเดิมอีก ให้สเตรียรอยด์มาอีก แต่ส่องตาดูบอกตาแห้งมาก แล้วให้สเตรียรอยด์มาอีก หยอดไปอีก7วันหายคันเคืองตา พอหยุดยาก็เคืองอีก ไปหาหมอที่ รพ.นี้3รอบด้วยกัน ให้สเตรียรอยด์มา3รอบ รอบสุดท้ายไม่หาย อาการคันตาเคืองตาแสบตามันเพิ่มขึ้นทุกวัน เครียดมากเลยคิดว่าเราควรจะเปลี่ยนไปหาหมอที่ศูนย์จักษุโดยตรงจะดีกว่า
เราเริ่มหาดูตามในเนตว่าหมอที่ไหนดีบ้าง จนมาเจอศูนย์จักษุแห่งหนึ่งแถวสยามค่ะ เลยลองเข้าไปหาดู เจอคุณหมอค่อนข้างจะมีอายุแล้ว ดุ ว่าเราทำไมปล่อยให้ตาแห้งขนาดนี้ ในวันนั้นเองคุณหมอได้จัดยาหยอดมาให้ ความจริงเป็นแค่น้ำตาเทียม เจลป้ายตา ขี้ผึ้งป้ายตา ให้ใช้แค่3ตัวนี้ 1.น้ำตาเทียม(ชนิดเข้มข้น) ใช้ทุก2ชั่วโมง 2.เจลป้ายตา ป้ายวันละ4ครั้ง 3.ขี้ผึ้งป้ายตาก่อนนอน คุณหมอนัดให้มาดูใหม่อีก1สัปดาห์
แปลกแต่จริง ใช้แค่3ตัวนี้เอง ตื่นมาตาไม่เคือง ไม่คัน หายเจ็บตาชั่วแค่ข้ามคืน แต่ยังคงต้องหยอดน้ำตาเทียมและป้ายตาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะส่องดูตาด้วยเครื่องมือแล้วตาไม่มีรอย ลืมบอกไปว่าตอนคุณหมอย้อมสีตาและส่องดูตา เราเป็นแผลที่กระจกตาด้วย
พอครบ1สัปดาห์ เราก็ไปย้อมสีตาและส่องตาดูใหม่ คุณหมอบอกว่าเรามาถูกทางแล้ว ตาดีขึ้นแต่ยังต้องรักษาต่อไปเรื่อยๆ เพราะยังคงเห็นความแห้งที่กระจกตา และแผลที่ตายังไม่หาย คุณหมอนัดอีกที1เดือน
พอครบ1เดือนไปย้อมสีตาและส่องดูตาใหม่อีกที ยังมีความแห้งอยู่ คุณหมอบอกถ้าไม่หยอดน้ำตาเทียมมันจะกลับมาเคืองตาอีก จะต้องทำอย่างเคร่องครัด แต่คุณหมอบอกดีขึ้นกว่าเดิม นัดใหม่อีก4เดือน
ไปหาครั้งหลังสุดวันที่25กรกฎาคม2563 คุณหมอได้ย้อมสีตาดูอีก ครั้งนี้คุณหมอบอก ย้อมสีไม่ติดแล้ว (หมายความว่าตาไม่แห้งแล้ว แผลก็หายหมดแล้ว)เราดีใจมาก เหมือนสวรรค์มาโปรดที่ได้เจอคุณหมอคนนี้ เพราะที่เราไปหา รพ.ที่แรกไม่ใช่ศูนย์จักษุ ไม่มีแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านตา เลยหลงรักษาแบบผิดๆมาหลายครั้ง เพราะตาแห้งมันต้องรักษาที่ต้นเหตุ เรามัวไปใช้แต่สเตรียรอยด์เลยหายแค่ขั่วครู่ชั่วยามแล้วก็เป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ
ในวันนี้วันที่ตาแห้งมันหายไปจากเราแล้ว เราแฮปปี้มากๆ (แต่คุณหมอแนะนำให้หยอดน้ำตาเทียมต่อไป แต่ใช้ตัวที่ไม่ต้องเข้มข้นก็ได้)เพื่อคงสภาพให้มันชุ่มชื้นอยู่ตลอดค่ะ
หวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์ต่อใครหลายๆคนที่ประสพปัญหาแบบเรานะคะ และขอบอกว่ามันต้องใช้เวลาในการรักษาค่ะอาจเป็นเดือนหรือเป็นปี แต่ห้ามใช้สเตรียรอยด์เด็ดขาด เพราะมันจะทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ลงค่ะ
ขอให้ทุกคนโชคดีนะคะ
หายจากโรคตาแห้งแล้วค่ะ
ครั้งแรกที่เริ่มไปหาหมอ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง เราไปด้วยอาการคันตา เคืองตามาก เจอคุณหมอผู้หญิงดูหน้าตาอ่อนวัย ยังวัยรุ่นอยู่ แต่ก็ทำการตรวจเช็คโดยใช้เครื่องมือจักษุแพทย์ทั่วไป ปรากฏว่าส่องดูตาแห้งมาก แต่ไม่ได้ให้ยารักษาตาแห้ง ให้แค่ยาหยอดตาสเตียรอยด์มาหยอด หยอดแค่วันเดียว หายเป็นปลิดทิ้ง ให้หยอด1สัปดาห์ แล้วนัดไปดู ตอนไปตรวจตาอีกครั้งหมอก็ยังไม่ได้ให้อะไรมาเพื่อรักษาตาแห้ง แค่บอกว่าหายแล้วนัดอีก1เดือนมาดูใหม่ ปรากฏว่าพอหลังจากเลิกหยอดสเตรียรอยด์ เป็นอีกแล้วคันตาเคืองตา ไปหาหมอเดิมอีก ให้สเตรียรอยด์มาอีก แต่ส่องตาดูบอกตาแห้งมาก แล้วให้สเตรียรอยด์มาอีก หยอดไปอีก7วันหายคันเคืองตา พอหยุดยาก็เคืองอีก ไปหาหมอที่ รพ.นี้3รอบด้วยกัน ให้สเตรียรอยด์มา3รอบ รอบสุดท้ายไม่หาย อาการคันตาเคืองตาแสบตามันเพิ่มขึ้นทุกวัน เครียดมากเลยคิดว่าเราควรจะเปลี่ยนไปหาหมอที่ศูนย์จักษุโดยตรงจะดีกว่า
เราเริ่มหาดูตามในเนตว่าหมอที่ไหนดีบ้าง จนมาเจอศูนย์จักษุแห่งหนึ่งแถวสยามค่ะ เลยลองเข้าไปหาดู เจอคุณหมอค่อนข้างจะมีอายุแล้ว ดุ ว่าเราทำไมปล่อยให้ตาแห้งขนาดนี้ ในวันนั้นเองคุณหมอได้จัดยาหยอดมาให้ ความจริงเป็นแค่น้ำตาเทียม เจลป้ายตา ขี้ผึ้งป้ายตา ให้ใช้แค่3ตัวนี้ 1.น้ำตาเทียม(ชนิดเข้มข้น) ใช้ทุก2ชั่วโมง 2.เจลป้ายตา ป้ายวันละ4ครั้ง 3.ขี้ผึ้งป้ายตาก่อนนอน คุณหมอนัดให้มาดูใหม่อีก1สัปดาห์
แปลกแต่จริง ใช้แค่3ตัวนี้เอง ตื่นมาตาไม่เคือง ไม่คัน หายเจ็บตาชั่วแค่ข้ามคืน แต่ยังคงต้องหยอดน้ำตาเทียมและป้ายตาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะส่องดูตาด้วยเครื่องมือแล้วตาไม่มีรอย ลืมบอกไปว่าตอนคุณหมอย้อมสีตาและส่องดูตา เราเป็นแผลที่กระจกตาด้วย
พอครบ1สัปดาห์ เราก็ไปย้อมสีตาและส่องตาดูใหม่ คุณหมอบอกว่าเรามาถูกทางแล้ว ตาดีขึ้นแต่ยังต้องรักษาต่อไปเรื่อยๆ เพราะยังคงเห็นความแห้งที่กระจกตา และแผลที่ตายังไม่หาย คุณหมอนัดอีกที1เดือน
พอครบ1เดือนไปย้อมสีตาและส่องดูตาใหม่อีกที ยังมีความแห้งอยู่ คุณหมอบอกถ้าไม่หยอดน้ำตาเทียมมันจะกลับมาเคืองตาอีก จะต้องทำอย่างเคร่องครัด แต่คุณหมอบอกดีขึ้นกว่าเดิม นัดใหม่อีก4เดือน
ไปหาครั้งหลังสุดวันที่25กรกฎาคม2563 คุณหมอได้ย้อมสีตาดูอีก ครั้งนี้คุณหมอบอก ย้อมสีไม่ติดแล้ว (หมายความว่าตาไม่แห้งแล้ว แผลก็หายหมดแล้ว)เราดีใจมาก เหมือนสวรรค์มาโปรดที่ได้เจอคุณหมอคนนี้ เพราะที่เราไปหา รพ.ที่แรกไม่ใช่ศูนย์จักษุ ไม่มีแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านตา เลยหลงรักษาแบบผิดๆมาหลายครั้ง เพราะตาแห้งมันต้องรักษาที่ต้นเหตุ เรามัวไปใช้แต่สเตรียรอยด์เลยหายแค่ขั่วครู่ชั่วยามแล้วก็เป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ
ในวันนี้วันที่ตาแห้งมันหายไปจากเราแล้ว เราแฮปปี้มากๆ (แต่คุณหมอแนะนำให้หยอดน้ำตาเทียมต่อไป แต่ใช้ตัวที่ไม่ต้องเข้มข้นก็ได้)เพื่อคงสภาพให้มันชุ่มชื้นอยู่ตลอดค่ะ
หวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์ต่อใครหลายๆคนที่ประสพปัญหาแบบเรานะคะ และขอบอกว่ามันต้องใช้เวลาในการรักษาค่ะอาจเป็นเดือนหรือเป็นปี แต่ห้ามใช้สเตรียรอยด์เด็ดขาด เพราะมันจะทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ลงค่ะ
ขอให้ทุกคนโชคดีนะคะ