หรือจะเป็นบุพเพ 9 : ข่าว

วันอังคาร ยามเช้า ต่อพงศ์ดึงสายตากลับมาจ้องมองซองพลาสติกในมืออีกครั้ง ก่อนจะเก็บกลับเข้าไปในลิ้นชัก แล้วขับรถไปทำงานตามปกติ

     ...หลังเลิกงาน ต่อพงศ์ตรงกลับบ้านโดยไม่แวะที่ไหน ระหว่างติดไฟแดงที่สี่แยกแห่งหนึ่ง  หญิงชราแบกคานหาบของผ่านหน้าเขาไป ไฟเขียวแล้ว 
แต่หญิงชรายังข้ามถนนไม่พ้นหน้ารถเขา  ต่อพงศ์ไม่ได้บีบแตรเร่ง เขารอได้ แต่ทางซ้ายของรถเขาเป็นเลนเลี้ยวซ้ายผ่านตลอด  รถกระบะที่แล่นมา
เห็นไฟเขียวจึงไม่ได้ชะลอ ปาดหน้าเฉี่ยวหญิงชราจนล้มฟาดเข้าหับหน้ารถเขา หาบของกระเด็นกระจาย แล้วรถกระบะคันนั้นก้แล่นหนีไปอย่างรวดเร็ว
ต่อพงศ์รีบลงมาดู เห็นหญิงชรานอนคอพับบนพื้นถนน สลบไม่ได้สติ เห็นเส้นผมหงอกขาวบางส่วนเป็นหย่อมสีแดง  เขาไม่รอเรียกรถพยาบาล เขาอุ้ม
หญิงชราใส่รถ พาไปโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ทันที หญิงชรายังไม่ฟื้น ติดต่อญาติไม่ได้ ต่อพงศ์จึงเซ็นรับเป็นเจ้าของไข้เอง  

     ขณะที่ต่อพงศ์กำลังจะขอตัวกลับ 

     "คุณคะ" พยาบาลวิ่งมาเรียกเขา "คุณยายฟื้นแล้ว โวยวายว่าจะกลับบ้านอย่างเดียวเลย จะให้ทำยังไงคะ"

     ต่อพงศ์จึงตามเข้าไปดู  ทั้งหมอและพยาบาลต่างช่วยกันพยายามปลอบหญิงชราให้นอนโรงพยาบาล แต่ว่า

     "หลานยายน่ะ หลานสาว" หญิงชราร้อง "มันแค่ 9 ขวบ ยายทิ้งมันไว้ไม่ได้ มันอยู่ที่บ้านคนเดียว" 

     ต่อพงศ์แตะที่ไหล่หญิงชรา

     "เดี๋ยวผมพามาให้ มานอนเฝ้าไข้ยายที่นี่ได้ใช่มั้ย  บ้านยายอยู่ไหนล่ะ"
 
     เมื่อได้ที่อยู่จากหญิงชรา ต่อพงศ์ก็ขอความช่วยเหลือจากตำรวจให้ไปรับเด็กหญิงด้วยกัน เพื่อป้องกันข้อหาพรากผู้เยาว์  เมื่อไปถึงบ้านตามที่
หญิงชราบอก ก็พบเด็กหญิงในชุดนักเรียนอยู่คนเดียวจริงๆ  ตัวเล็กจนไม่น่าเชื่อว่าอายุ 9 ขวบ มองตำรวจกับเขาที่บุกเข้าบ้านอย่างตื่นกลัว

     คิดถูกที่พาตำรวจมาด้วย  เด็กหญิงจึงยอมตามมา หลังจากเลี้ยงข้าวเด็กแล้ว จึงพาไปหาหญิงชราที่โรงพยาบาล
 
     เมื่อเจ้าของไข้กลับมา พยาบาลจึงมาอ่านชาร์ตที่หมอจดไว้ให้ทราบ

     "บาดแผลที่ศีรษะไม่เป็นอะไรมาก เอ๊กซ์เรย์แล้วกะโหลกไม่ร้าว ไม่มีเลือดคั่ง  กระดูกแขนซ้ายหัก 2 แห่ง กระดูกข้อศอกซ้ายแตก ใส่เฝือกให้แล้ว
เนื่องจากคนไข้อายุมาก น่าจะเข้าเฝือกประมาณ 4-5 เดือน  กระดูกสะโพกร้าว ไม่ต้องเข้าเฝือก แต่ต้องนอนจนกว่ากระดูกสะโพกจะสมานคงซักเดือนหรือ 2 เดือน ระหว่างนี้ คงลุกเดินไม่ได้ค่ะ"

     หญิงชราหน้าเสีย

     "แบบนี้ ยายก็ไปขายขนมไม่ได้น่ะสิ แล้วยายกับหลานจะอยู่ยังไงล่ะ จะเอาอะไรกิน" 

     น้ำตาของหญิงชราหลั่งริน หันมาทางต่อพงศ์ 

     "คุณคะ ไหนๆก็ช่วยยายมาแล้ว ช่วยดูแลหลานยายอีกซักคนเถอะ คุณก็คงเห็นสภาพบ้านยายแล้ว ว่าแทบไม่มีจะกิน หาเช้ากินค่ำไปวันๆ แม่มันเอามาทิ้งไว้ให้ยายตั้งแต่แบเบาะ แล้วไม่เคยกลับมาให้เห็นหน้าอีกเลย  คุณคะ นึกว่าเอาบุญเถอะ"

     ความจริง ต่อพงศ์คิดถึงสถานสงเคราะห์ แต่คิดอีกที ที่นั่นก็ไม่ใช่ที่ที่เหมาะจะให้เด็กเติบโตซักเท่าไหร่  คิดถึงฐานะของตัวเองแล้ว รับภาระปากท้องเพิ่มมาอีก 2 ปาก ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาหรอก  ต่อพงศ์ตัดสินใจได้แล้วจึงตอบว่า

     "ได้ครับ ยายกับหลานมาอยู่กับผมก็ได้"

     หญิงชราหัวเราะอย่างมีความสุขทั้งน้ำตา

     "ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ  คุณคะ นี่หลานยายจริงๆแล้วเป็นเหลนค่ะ ชื่อว่า เอิง  เอิง ไหว้คุณลุงเขาสิ"

     เด็กหญิงย่อตัวลงไหว้ตามคำสั่งอย่างน่าเอ็นดู

     ต่อพงศ์ยิ้ม  เขาคงตัดสินใจไม่ผิดหรอกนะ

..................................................................

     ที่โต๊ะทำงานของต่อพงศ์ในห้องพัก

     ในลิ้นชักที่ปิดไม่สนิท

     ในซองพลาสติกที่ต่อพงศ์จ้องมองอยู่เมื่อเช้า

     มีกระดาษที่ตัดมาจากหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ฉบับหนึ่ง  วันที่ในนั้น เป็นวันเดียวกับวันนี้  แต่เป็นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

     เป็นพาดหัวข่าวกรอบเล็กพร้อมภาพ

                      พ่อเลี้ยงโฉด!ข่มขืนไม่สำเร็จ
                      ใช้มีดแทงหน้าอกลูกเลี้ยงดับ!

................................................................................................................................................................................................................
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่