สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
กรุงเทพฯ ดีกว่าอยู่แล้ว
เอาแค่เรื่องดูหนัง ก็มีโรงให้เลือกเกือบร้อย
ตจว.มีไม่กี่โรง ดูทีต้องเจอคนรู้จัก ไปเดินห้างก็เหมือนกัน ต้องคอยทักทายคน
แล้วคนต่างจังหวัด ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย ถ้ารู้จักเลือกซื้อ ราคาก็พอๆกัน
แถวหน้าราม มีอาหารอร่อยๆ ถูกกว่า ต่างจังหวัดมากมาย เดือนละหมื่น ก็อยู่ได้
เอาแค่เรื่องดูหนัง ก็มีโรงให้เลือกเกือบร้อย
ตจว.มีไม่กี่โรง ดูทีต้องเจอคนรู้จัก ไปเดินห้างก็เหมือนกัน ต้องคอยทักทายคน
แล้วคนต่างจังหวัด ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย ถ้ารู้จักเลือกซื้อ ราคาก็พอๆกัน
แถวหน้าราม มีอาหารอร่อยๆ ถูกกว่า ต่างจังหวัดมากมาย เดือนละหมื่น ก็อยู่ได้
ความคิดเห็นที่ 50
เอาจริงๆนะ ความลำบากของการอยู่ กทม. กับความลำบากของการอยู่ต่างจังหวัด มันแตกต่างกัน และขึ้นอยู่กับว่าคุณจะจัดการมันยังไงมากกว่า เอาจากประสบการณ์โดยตรงของเราแล้วกันนะ
-ต่างจังหวัด ทุกอย่างมีเวลาของมัน คนตื่นตั้งแต่ตี 4 ตี 5 เวลา 2 ทุ่มคือมืดแล้ว ร้านรวงปิดหมด เราเคยหงุดหงิดมากเพราะไปซื้อปาท่องโก๋ไม่ทัน 8 โมงเช้า โดนคนอื่นเหมาตัดหน้าไปแล้ว และเจ้าอื่นก็ไม่มีเพราะมีอยู่เจ้าเดียว อยากกินต้องรอวันอื่น ในขณะที่ถ้าเป็น กทม. ร้านนี้หมด คุณเดินไปอีก 100 เมตรก็มีขาย จะตื่นตอนไหนก็มีของกิน จะดึกแค่ไหนก็มีของกิน
-อยู่ต่างจังหวัด คุณต้องอยู่กับครอบครัว สร้างคอนเนคชั่น สร้างเครือข่าย ทุกคนต้องพึ่งพากัน สมมุติคุณปวดท้อง ขับรถไม่ไหว อยากไป รพ. จะเดินไปหน้าบ้านแล้วโบกแท็กซี่บอกให้พาไป รพ. ที่ใกล้ที่สุดนี่ไม่มีนะ ต้องไปไหว้วานคนในบ้าน บอกเพื่อนบ้านให้ช่วยพาไปหน่อย แต่ถ้าคุณอยู่ กทม. เดินไปหน้าบ้านโบกแท็กซี่ได้เลย ถ้าคุณโสด อยู่คนเดียว สิ่งอำนวยความสะดวกมันเยอะกว่าอยู่แล้ว
-ระบบราชการ คุณจะเห็นความต่างเลย อย่างกรณีเราตอนอยู่ ตจว เคยได้รับจดหมายเรียกให้ไปเอาเงินคืนค่าแผง เราไปตอนบ่ายโมง กว่าพนักงานราชการจะกลับเข้าสำนักงานคือบ่ายโมงครึ่ง แล้วแต่ละคนมือไม้มีแต่ผลไม้ เอามานั่งกินทั้งที่เพิ่งพักเที่ยง นั่งชิลกันไปเหมือนรอเวลาเลิกงาน เราถามอะไรไปก็ไม่มีใครรู้ โยนคนนั้นคนนี้ไปหมด สุดท้ายคือ เรียกเราไปเพื่อให้ไปเซ็นรับทราบแกรกเดียว ส่วนเงินจะได้ตอนไหนตอบไม่ได้ ตรงกันข้ามกับที่เราไปเขตใน กทม. มีระบบการจัดการเป็นขั้นเป็นตอน เข้ามาเจอคนนี้ คนนี้ส่งไปชั้นนี้ ๆ เพื่อพบคนนี้ แจ้งตั้งแต่แรกเลยว่าเอกสารต้องใช้อะไร ข้อมูลมีครบหาได้ในออนไลน์ มีเบอร์ให้โทร. ปรึกษา ไปถึงใช้เวลาจัดการเอกสารไม่นาน ทุกคนก้มหน้างุด ๆ ตั้งใจทำงานเพื่อให้ได้กลับบ้านตรงเวลา
-ระบบการศึกษาเหมือนกัน เราเรียนใน รร. ขนาดใหญ่ของจังหวัด รร. แบบที่คนจังหวัดรอบ ๆ ต้องมาเรียนที่ รร. เราอ่ะ แต่พอเราเข้ามหาลัยระดับต้น ๆ ของประเทศ และไปเจอเพื่อนจาก รร. อื่น ทำให้เรารู้เลยว่า เด็ก กทม. พื้นฐานแน่นทุกคน โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่ไปต่อยอดได้ ในขณะที่เราต้องมาปูพื้นฐานใหม่หมด เพื่อนเรียนเขียน essay ตั้งแต่มัธยม เราเพิ่งมาเคยเขียน essay แบบคิดวิเคราะห์จริง ๆ จัง ๆ ตอนมหาลัย
เพื่อนที่เราว่านี่คือ เด็ก กทม. เรียน รร. รัฐปกตินะคะ อาจจะ รร. รัฐแบบสาธิต เตรียมบ้าง สตรีวิทย์บ้าง แต่ส่วนมากคือรัฐ ไม่ใช่อินเตอร์หรือโปรแกรมพิเศษ
-เรื่องกิจกรรมอีกค่ะ กทม. มีกิจกรรมเยอะแยะมากมายให้ทำนอกบ้าน งานอาร์ต งานศิลป์ คอนเสิร์ต งานจับมือ สัปดาห์หนังสือ สัปดาห์โน่นนี่นั่น ต่างจังหวัดคือ เงียบฉี่
อย่างที่บอกค่ะ ลำบาก กทม. กับ ลำบาก ตจว มันไม่เหมือนกัน อยู่ที่ว่าจะรับมือกับมันยังไง
-ต่างจังหวัด ทุกอย่างมีเวลาของมัน คนตื่นตั้งแต่ตี 4 ตี 5 เวลา 2 ทุ่มคือมืดแล้ว ร้านรวงปิดหมด เราเคยหงุดหงิดมากเพราะไปซื้อปาท่องโก๋ไม่ทัน 8 โมงเช้า โดนคนอื่นเหมาตัดหน้าไปแล้ว และเจ้าอื่นก็ไม่มีเพราะมีอยู่เจ้าเดียว อยากกินต้องรอวันอื่น ในขณะที่ถ้าเป็น กทม. ร้านนี้หมด คุณเดินไปอีก 100 เมตรก็มีขาย จะตื่นตอนไหนก็มีของกิน จะดึกแค่ไหนก็มีของกิน
-อยู่ต่างจังหวัด คุณต้องอยู่กับครอบครัว สร้างคอนเนคชั่น สร้างเครือข่าย ทุกคนต้องพึ่งพากัน สมมุติคุณปวดท้อง ขับรถไม่ไหว อยากไป รพ. จะเดินไปหน้าบ้านแล้วโบกแท็กซี่บอกให้พาไป รพ. ที่ใกล้ที่สุดนี่ไม่มีนะ ต้องไปไหว้วานคนในบ้าน บอกเพื่อนบ้านให้ช่วยพาไปหน่อย แต่ถ้าคุณอยู่ กทม. เดินไปหน้าบ้านโบกแท็กซี่ได้เลย ถ้าคุณโสด อยู่คนเดียว สิ่งอำนวยความสะดวกมันเยอะกว่าอยู่แล้ว
-ระบบราชการ คุณจะเห็นความต่างเลย อย่างกรณีเราตอนอยู่ ตจว เคยได้รับจดหมายเรียกให้ไปเอาเงินคืนค่าแผง เราไปตอนบ่ายโมง กว่าพนักงานราชการจะกลับเข้าสำนักงานคือบ่ายโมงครึ่ง แล้วแต่ละคนมือไม้มีแต่ผลไม้ เอามานั่งกินทั้งที่เพิ่งพักเที่ยง นั่งชิลกันไปเหมือนรอเวลาเลิกงาน เราถามอะไรไปก็ไม่มีใครรู้ โยนคนนั้นคนนี้ไปหมด สุดท้ายคือ เรียกเราไปเพื่อให้ไปเซ็นรับทราบแกรกเดียว ส่วนเงินจะได้ตอนไหนตอบไม่ได้ ตรงกันข้ามกับที่เราไปเขตใน กทม. มีระบบการจัดการเป็นขั้นเป็นตอน เข้ามาเจอคนนี้ คนนี้ส่งไปชั้นนี้ ๆ เพื่อพบคนนี้ แจ้งตั้งแต่แรกเลยว่าเอกสารต้องใช้อะไร ข้อมูลมีครบหาได้ในออนไลน์ มีเบอร์ให้โทร. ปรึกษา ไปถึงใช้เวลาจัดการเอกสารไม่นาน ทุกคนก้มหน้างุด ๆ ตั้งใจทำงานเพื่อให้ได้กลับบ้านตรงเวลา
-ระบบการศึกษาเหมือนกัน เราเรียนใน รร. ขนาดใหญ่ของจังหวัด รร. แบบที่คนจังหวัดรอบ ๆ ต้องมาเรียนที่ รร. เราอ่ะ แต่พอเราเข้ามหาลัยระดับต้น ๆ ของประเทศ และไปเจอเพื่อนจาก รร. อื่น ทำให้เรารู้เลยว่า เด็ก กทม. พื้นฐานแน่นทุกคน โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่ไปต่อยอดได้ ในขณะที่เราต้องมาปูพื้นฐานใหม่หมด เพื่อนเรียนเขียน essay ตั้งแต่มัธยม เราเพิ่งมาเคยเขียน essay แบบคิดวิเคราะห์จริง ๆ จัง ๆ ตอนมหาลัย
เพื่อนที่เราว่านี่คือ เด็ก กทม. เรียน รร. รัฐปกตินะคะ อาจจะ รร. รัฐแบบสาธิต เตรียมบ้าง สตรีวิทย์บ้าง แต่ส่วนมากคือรัฐ ไม่ใช่อินเตอร์หรือโปรแกรมพิเศษ
-เรื่องกิจกรรมอีกค่ะ กทม. มีกิจกรรมเยอะแยะมากมายให้ทำนอกบ้าน งานอาร์ต งานศิลป์ คอนเสิร์ต งานจับมือ สัปดาห์หนังสือ สัปดาห์โน่นนี่นั่น ต่างจังหวัดคือ เงียบฉี่
อย่างที่บอกค่ะ ลำบาก กทม. กับ ลำบาก ตจว มันไม่เหมือนกัน อยู่ที่ว่าจะรับมือกับมันยังไง
แสดงความคิดเห็น
ขอเหตุผลของคนที่อยู่ใน กทม แล้วลำบากแต่ก็ยังทนอยู่หน่อยครับ???
คำว่าลำบากของผมคือ
1.) ต้อง(รอ)รถเมล์เป็นชั่วโมงเพื่อเดินทางไปกลับ จากบ้าน ไปที่ทำงาน และอยู่(บน)รถเมล์อีก เป็นชั่วโมง บางวันฝนตกรถติดคูณ 2-3 เข้าไป ช่วงรอรถหรืออยู่บนรถ จะปัสสาวะ จะอุจจาระก็คงอึดอัดน่าดู ทนกันไปได้ยังไงครับ
2.) ที่อยู่อาศัย สำหรับคนที่มีห้องสบายๆอันนี้ไม่พูดถึงนะ บางคนอยู่ห้องรูหนู เข้าห้องไปไว้ใช้นอนอย่างเดียว อันนี้เคยมีประสบการณ์ ตอนเข้า กทม. ใหม่ๆ ห้องใหญ่กว่าเตียง 3 ฟุตนิดนึง + ห้องน้ำรวม
3.) เงินเก็บแทบไม่มี ถ้าจะใช้ชีวิตแบบปกติ (ปกติของผมคือ เดินทางด้วยแทกซี่ถ้าต้องรอรถนาน อยู่ห้องพักที่อยู่สบาย+มีความปลอดภัย(ไม่ได้หรูนะ) กินอยากกินอะไรก็กินได้ ห้างบ้าง ข้างทางบ้าน) เดือนนึงก็ประมาณ 25k-30k คนเงินเดือน 30k คือแทบไม่มีเก็บ นี่ยังไม่รวมพวก Gatget + ค่าบริการ ต่างๆนะ —-> เทียบตามมาตรฐานของผมแล้วกันครับ ชีวิตสบายของบางคนอาจจะต่ำหรือสูงกว่านี้
*สำหรับผมที่ชอบ กทม. ก็คือที่ที่มีโอกาส + แสงสี ที่ ตจว. สู้ไม่ได้
**คำตอบที่เคยได้จากคำถามบนกระทู้คือ 1.) อยู่เพื่อหาโอกาส 2.) อยู่บ้านที่ ตจว. แล้วลำบากกว่านี้ 3.) แต่งงานมีครอบครัว+ลงหลักปักฐานไปแล้วขยับลำบาก 4.) ทางบ้านปัญหาเยอะ เช่น พ่อแม่ทะเลาะกัน ติดการพนัน สังคมในตจว.ที่อาศัยอยู่ไม่ดี 9ล9 —-> มีคำตอบอื่นอีกไหม
***คนที่เข้ามา กทม. แล้วสบาย มีความสุข อันนี้ขอไม่พูดถึงนะครับ
เหตุผลที่ถาม—-> ถ้าชีวิตต้องลำบากแบบที่กล่าวมาข้างต้นและอยู่มาหลายปีแล้วยังไม่ดีขึ้น ทำไมไม่กลับไปอยู่บ้านดูแลพ่อแม่ ใช้ชีวิต ใช้ความรู้พัฒนาบ้านเกิดกัน
****ยาวหน่อยนะครับ อธิบายเยอะ เดี๋ยวจะมีคนหาว่าเหยียดดูถูก ถ้าไม่อธิบาย คำตอบทั่วๆไปอะพอรู้บ้างอยู่แล้ว แต่ผมว่าก็น่าจะมีคำตอบในใจหลายๆคนที่ผมยังไม่รู้และอยากจะรู้ ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าครับ