คำว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว คำๆนี้ทำให้หลายคนมีปัญหา เพราะรู้สึกว่าทำดีแต่ไม่เคยได้ดี
ชีวิตมีแต่ย่ำแย่ มีแต่ความตกต่ำลงในชีวิต จริงๆแล้วมันไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยระหว่างการทำความดีกับความสามารถในการเอาตัวรอด
ซึ่งเป็นผลจากกลไกการทำงานของสมองของแต่ละคน ที่มีศักยภาพแตกต่างกัน
คนเป็นโรคซึมเศร้ามักสะท้อนใจกับคำว่าทำดีแต่ไม่ได้ดี และในที่สุดก็ฆ่าตัวตาย
การยึดติดกับคำว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว มุ่งเน้นทำความดี แต่ไม่เน้นไปที่การแก้ไขที่สาเหตุของปัญหาแต่ละเรื่องที่เกิดขึ้น
เมื่อแก้ปัญหาไม่ทัน และไม่รู้ว่าต้นเหตุของปัญหาคืออะไร ก็เอาแต่โทษชีวิตของตัวเอง จนพบกับจุดจบที่ไม่พึงประสงค์ในที่สุด
ผมเชื่อว่าหลายคนคงมีปัญหาเรื่องนี้มากกกกกกกกกกก
แม้ว่าจะคิดแบบจริงๆจังๆ หรือคิดแบบที่ตัวเองไม่รู้ตัวว่าคิด
แต่คนที่มีสุขภาพจิตที่ดี จะไม่หมกมุ่นกับคำบางคำที่จะทำให้ตัวเองรู้สึกสะท้อนใจนัก
แม้ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆก็ตาม
คำว่าทำดีไม่เคยได้ดีนี่จะเป็นจุดเชื้อ
ที่สามารถนำไปสู่ประโยคที่ทำร้ายความรู้สึกของตัวเอง ที่ 2, 3, 4 ไปได้เรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุดเลยทีเดียว
แล้วก็จะทำให้สมองเต็มไปด้วยสารเคมีที่ทำให้รู้สึกทุกข์ วิตกกังวล ห่อเหี่ยวอย่างหนัก
หลายคนยึดหลักกับคำว่าทน ซึ่งแม่ผมก็ยึดหลักอยู่กับคำว่าทนมากๆ
เวลาเศร้าก็ซึมเศร้า ร้องห่มร้องไห้ไป พอผ่านไปก็กลับมารู้สึกดีไหม ยึดคติว่าการใช้ชีวิตต้องมีความอดทน
นี่อาจจะเป็นคำตอบของปัญหา แต่จริงๆแล้ว มันก็ไม่ใช่ เพราะคนที่เป็นโรคซึมเศร้าจะไม่สามารถบังคับตัวเองได้จริงๆ
จากผลกระทบที่มาจากสารเคมีในสมอง จะเป็นโรคนี้ในระดับน้อยหรือมาก มันก็คือมีความผิดปกติเหมือนๆกัน
คนอื่นๆไม่ควรไปโทษว่าพวกเขาคิดไปเอง หรือ โง่เองที่หาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้
ส่วนตัวพวกเขาเองก็ควรดิ้นรน หาอะไรบางอย่างที่ช่วยเซฟตัวพวกเขาให้รอดพ้นจากการคิดสั้นฆ่าตัวตายให้ได้
ถ้าเป็นในหนังสือที่ผมเขียน โรคซึมเศร้ามาจากสารพิษโลหะหนัก 100% โดยยึดตามข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เป็นหลัก
ส่วนใครจะยึดหลักใด มีมุมมองแบบไหน หรือยึดหลักในทางการแพทย์ที่ยังเป็นสีเทาๆ ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไรกันแน่
อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ เอาที่สบายใจ แต่ประเด็นที่สำคัญที่สุดก็คือ โรคนี้มันมีจริง มันไม่ใช่เรื่องที่คิดไปเอง
และมันส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ไม่ว่าคนๆนั้นจะรวยหรือจนก็ตาม
ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ชีวิตจริงทำแต่ความดีแต่ไม่เคยได้ดี เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนหลายคนนึกอยากฆ่าตัวตาย
ชีวิตมีแต่ย่ำแย่ มีแต่ความตกต่ำลงในชีวิต จริงๆแล้วมันไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยระหว่างการทำความดีกับความสามารถในการเอาตัวรอด
ซึ่งเป็นผลจากกลไกการทำงานของสมองของแต่ละคน ที่มีศักยภาพแตกต่างกัน
คนเป็นโรคซึมเศร้ามักสะท้อนใจกับคำว่าทำดีแต่ไม่ได้ดี และในที่สุดก็ฆ่าตัวตาย
การยึดติดกับคำว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว มุ่งเน้นทำความดี แต่ไม่เน้นไปที่การแก้ไขที่สาเหตุของปัญหาแต่ละเรื่องที่เกิดขึ้น
เมื่อแก้ปัญหาไม่ทัน และไม่รู้ว่าต้นเหตุของปัญหาคืออะไร ก็เอาแต่โทษชีวิตของตัวเอง จนพบกับจุดจบที่ไม่พึงประสงค์ในที่สุด
ผมเชื่อว่าหลายคนคงมีปัญหาเรื่องนี้มากกกกกกกกกกก
แม้ว่าจะคิดแบบจริงๆจังๆ หรือคิดแบบที่ตัวเองไม่รู้ตัวว่าคิด
แต่คนที่มีสุขภาพจิตที่ดี จะไม่หมกมุ่นกับคำบางคำที่จะทำให้ตัวเองรู้สึกสะท้อนใจนัก
แม้ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆก็ตาม
คำว่าทำดีไม่เคยได้ดีนี่จะเป็นจุดเชื้อ
ที่สามารถนำไปสู่ประโยคที่ทำร้ายความรู้สึกของตัวเอง ที่ 2, 3, 4 ไปได้เรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุดเลยทีเดียว
แล้วก็จะทำให้สมองเต็มไปด้วยสารเคมีที่ทำให้รู้สึกทุกข์ วิตกกังวล ห่อเหี่ยวอย่างหนัก
หลายคนยึดหลักกับคำว่าทน ซึ่งแม่ผมก็ยึดหลักอยู่กับคำว่าทนมากๆ
เวลาเศร้าก็ซึมเศร้า ร้องห่มร้องไห้ไป พอผ่านไปก็กลับมารู้สึกดีไหม ยึดคติว่าการใช้ชีวิตต้องมีความอดทน
นี่อาจจะเป็นคำตอบของปัญหา แต่จริงๆแล้ว มันก็ไม่ใช่ เพราะคนที่เป็นโรคซึมเศร้าจะไม่สามารถบังคับตัวเองได้จริงๆ
จากผลกระทบที่มาจากสารเคมีในสมอง จะเป็นโรคนี้ในระดับน้อยหรือมาก มันก็คือมีความผิดปกติเหมือนๆกัน
คนอื่นๆไม่ควรไปโทษว่าพวกเขาคิดไปเอง หรือ โง่เองที่หาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้
ส่วนตัวพวกเขาเองก็ควรดิ้นรน หาอะไรบางอย่างที่ช่วยเซฟตัวพวกเขาให้รอดพ้นจากการคิดสั้นฆ่าตัวตายให้ได้
ถ้าเป็นในหนังสือที่ผมเขียน โรคซึมเศร้ามาจากสารพิษโลหะหนัก 100% โดยยึดตามข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เป็นหลัก
ส่วนใครจะยึดหลักใด มีมุมมองแบบไหน หรือยึดหลักในทางการแพทย์ที่ยังเป็นสีเทาๆ ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไรกันแน่
อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับ เอาที่สบายใจ แต่ประเด็นที่สำคัญที่สุดก็คือ โรคนี้มันมีจริง มันไม่ใช่เรื่องที่คิดไปเอง
และมันส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ไม่ว่าคนๆนั้นจะรวยหรือจนก็ตาม