สถานที่ที่จะรีวิวเป็นไฮไลต์อันดับ 1 (เรียงอันดับตามความสนใจ ไม่ได้เรียงตามความสวยแต่อย่างใด) ของทริปเที่ยวยุโรปในฤดูร้อนเพื่อศึกษาธรรมชาติและตามหาทัศนียภาพที่เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายของแอลป์ออสเตรีย โดยมีแอลป์อิตาลี รวมถึงป่า ปราสาทและอารามในเยอรมันกับเนเธอร์แลนด์เสริมบ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งก็คือเส้นทางชมวิวอ่างเก็บน้ำชเลไกส์ชไปเชอร์ (Schlegeisspeicher) หรือ ชเลไกส์ ชเตาเซ (Schlegeis Stausee) จากมุมสูงค่ะ
ที่นี่เป็นหนึ่งในอ่างเก็บน้ำของซิลเลอร์ทาลแอลป์ อยู่ในรัฐทิโรลของออสเตรียแล้วก็ไม่ไกลจากทิโรลใต้ของอิตาลี ด้วยความที่มีทัศนียภาพที่มองจากบนเขาแล้วเหมือนเป็นหลุมยุบวูบลงไป ประกอบกับมีสะพานแขวนเหนือน้ำตกบนเขาที่เหมือนกับได้ยืนอยู่เหนือหลุมยุบ*รูปตัวยูนั้น (อันนี้แล้วแต่มุมกล้องเลย...) จึงทำให้ที่นี่เป็นปลายทางยอดนิยมของซิลเลอร์ทาลแอลป์
*หุบเขารูปตัวยู คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หุบเขาที่เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งเป็นเวลาหลายล้านปี มีลักษณะคล้ายรูปตัวยู พบได้ทั่วไปในโซนที่มีหรือเคยมีธารน้ำแข็ง ภูเขารอบๆ อ่างเก็บน้ำนี้ รวมถึงเลาเทอร์บรุนเนนน์ของสวิสก็เป็นหุบเขารูปตัวยูเหมือนกันค่ะ
หน้าตาจะประมาณนี้
2 ภาพทางซ้ายอยู่ในออสเตรีย ส่วนภาพขวาสุดอยู่ในอิตาลี
แต่ความสูงจากอ่างเก็บน้ำถึงกระท่อมบนเขา (hütte : ฮึทเทอ) คือ 607 เมตร (อันนี้ไม่ใช่ความสูงจากระดับน้ำทะเลนะคะ เป็นความสูงของกระท่อมบนเขาเมื่อวัดจากอ่างเก็บน้ำ) หรือถ้าจะเทียบให้เห็นภาพว่าสูงประมาณไหนก็คือ ต่ำกว่าโตเกียวสกายทรีที่สูง 634 เมตรประมาณ 20 กว่าเมตร แล้วก็ที่นี่ไม่มีเคเบิลคาร์ขึ้นไปด้วย จึงต้องเดินไต่เขาขึ้นไปเองเท่านั้น กว่าจะไปถึงวิวนั้นได้ก็เรียกได้ว่าเล่นเอาหืดขึ้นคอเลยทีเดียว
โดยวิธีไปสะพานนี้
อันดับแรกคือต้องไปให้ถึงอ่างเก็บน้ำชเลไกส์ชไปเชอร์ก่อนแล้วค่อยเดินขึ้นเขาไปโอลเปเรอร์ ฮึทเทอ (Olpererhütte) ซึ่งการเดินทางไปอ่างเก็บน้ำชเลไกส์ชไปเชอร์ด้วยรถสาธารณะ ถ้าเริ่มจากอินน์สบรูก (แต่ถ้าเริ่มจากที่นี่จริง ควรตื่นเช้ามากถึงมากที่สุด) คือ
1. ขึ้นรถไฟไปลงสถานีเยนบัค (Jenbach)
2. เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟท้องถิ่น ซิลเลอร์ทาลบาห์น (Zillertalbahn) (พอลงบันไดไปชั้นใต้ดินจะมีลูกศรบอกอยู่ค่ะ ว่าต้องไปทางไหน สถานีรถไฟมีลิฟต์ ถ้าใครมีกระเป๋าลากใบใหญ่ด้วยก็สามารถขึ้น - ลงลิฟต์แทนบันไดได้ แต่ก็ควรระวังด้วย เพราะบางทีลิฟต์ก็เสีย ต้องแบกกระเป๋าขึ้นบันไดเอง) โดยรถไฟขบวนนี้ซื้อตั๋วบนรถไฟได้ ส่วนใครใช้ยูเรลพาส รถไฟสายนี้ไม่เข้าร่วม ต้องจ่ายแยกต่างหาก
3. ลงที่สถานีสุดท้าย ไมเออร์โฮเฟน (Mayrhofen)
4. ป้ายรถบัสหน้าสถานีรถไฟมีหลายชานชาลา หาชานชาลาที่มีรถบัสสาย 4102 ปลายทางชเลไกส์ ชเตาเซ (Schlegeis Stausee) โดยรถบัสสายนี้ ขาไป ตอนเช้าคนค่อนข้างเยอะเพราะเป็นสถานที่ยอดนิยม อาจต้องยืน ขากลับไม่แน่ใจว่าคนเยอะหรือเปล่า (บางคนก็ไปเดินเขา - ค้างที่กระท่อมบนเขาหลายวัน) วันที่เราไป รถขากลับรอบสุดท้ายยังมีที่นั่งอยู่ สำหรับตั๋วรถ ซื้อกับคนขับรถได้เลย
ทั้งนี้ทั้งนั้น สามารถตรวจสอบเวลารถไฟและรถบัสได้จากเว็บหรือแอปการรถไฟออสเตรีย หรือถ้าเฉพาะตารางรถบัส สามารถหาได้จากเว็บท้องถิ่น ถ้าอ้างอิงเฉพาะตอนที่เราไป ป้ายรถบัสจะอยู่ชานชาลา C ขาไป รถบัสรอบเช้าสุดคือ 7:55 น. ส่วนขากลับจากอ่างเก็บน้ำ รถบัสรอบสุดท้ายคือ 18:00 น.
แผนที่โดยรวมของซิลเลอร์ทาล ถ่ายมาจากอ่างเก็บน้ำอีกแห่งที่ไม่ใช่ชเลไกส์ชไปเชอร์ ตรงที่วงกลมไว้คือเมืองต้นทางที่มีรถบัสกับโอลเปเรอร์ ฮึทเทอที่มีสะพานอยู่ โดยรถบัสจะจอดใกล้ๆ ร้านอาหารอ่างเก็บน้ำ
ในแผนที่ Bahnhof คือ สถานีรถไฟ ส่วนสัญลักษณ์ตัว H ในวงกลมสีเขียว คือ ป้ายรถบัส
วิวทะเลสาบอ่างเก็บน้ำแถวๆ ป้ายรถบัสและร้านอาหารที่อยู่ตรงข้าม ที่นี่สามารถเข้าห้องน้ำได้ แต่ต้องจ่ายเงินด้วย ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะ 0.5 ยูโร
ป้ายเหลืองนี้คือป้ายบอกทางเดินป่า วงกลมสีน้ำเงินคือโอลเปเรอร์ ฮึทเทอ
อธิบายป้ายเล็กน้อย
- วงกลมสีแดงกับสีดำตรงหน้าชื่อหมายถึงระดับความยาก สีน้ำเงิน (ไม่มีในภาพ) คือง่าย สีแดงคือปานกลาง และสีดำคือยาก
- รูปช้อนกับมีดหมายถึงมีร้านอาหาร
- 2h คือ ใช้เวลาเดินไปประมาณ 2 ชั่วโมง (ถ้าเดินไม่หยุดอาจจะ 2 ชั่วโมง แต่ถ้าหยุดพักหรือชมนกชมไม้ด้วย ก็อาจจะนานกว่านั้น อย่างในกรณีเรา จะหยุดรอให้คนไปหมดถึงจะถ่ายรูป ก็บวกเวลาเพิ่มไปด้วย 1 - 3 ชั่วโมง)
- 502 คือหมายเลขเส้นทาง เวลาเดินป่าบนแอลป์ออสเตรียกับเยอรมัน ในหลายเส้นทางจะมีป้ายเหลืองแบบนี้เป็นระยะๆ เพื่อบอกว่าเราจะต้องเลี้ยวทางไหน หรือต้องไปทางไหน ก็ดูป้ายและยึดตามหมายเลขเส้นทางที่เราจะไปเป็นหลัก
จากร้านอาหาร พอเดินเลียบอ่างเก็บน้ำไปทางภูเขาตามที่ป้ายเหลืองชี้ไปเรื่อยๆ ก็จะเจอเก้าอี้นั่งชมวิว ฝั่งตรงข้ามมีทางแยกด้วย แต่ซูมดูแล้วไม่ใช่ที่ที่จะไป
คร็อปป้าย เผื่อมองตัวหนังสือไม่ชัด
ถ้าดูจากแผนที่ ปลายทางของป้ายนี้คือกระท่อมที่ทำสี่เหลี่ยมครอบเอาไว้
เดินเลียบอ่างเก็บน้ำต่อไปจนถึงจุดนั่งชมวิวอีกแห่ง
น้ำในทะเลสาบที่นี่เป็นสีเทอร์ควอยส์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไม่รู้ว่าที่นี่จะคล้ายของแคนาดากับนิวซีแลนด์หรือเปล่านะคะ แต่ถ้าอ้างอิงจากทะเลสาบธารน้ำแข็งของแคนาดากับนิวซีแลนด์ที่เคยอ่านมาจากเว็บภาษาญี่ปุ่น เห็นว่าสาเหตุที่น้ำเป็นสีนี้ก็เพราะธารน้ำแข็งกัดเซาะหินของภูเขา แล้วพอธารน้ำแข็งละลาย ผงที่ถูกกัดเซาะก็ไหลลงไปด้วย และโดยปกติน้ำจะดูดกลืนแสงสีแดงเอาไว้ ดังนั้นแสงที่ไปกระทบกับผงหินที่อยู่ในน้ำ (ไม่แน่ใจว่าเป็นผงหินปูน (แคลเซียมคาร์บอเนต) หรือเปล่า) แล้วสะท้อนเข้ามาในตาเราจึงเป็นแสงสีน้ำเงิน - สีเขียว ก็เลยทำให้เราเห็นทะเลสาบเป็นสีนี้
ภาพนี้เป็นน้ำในทะเลสาบอีกแห่งหนึ่งของออสเตรีย เวลามองใกล้ๆ ตรงส่วนที่ตื้นๆ จะเป็นสีขาวขุ่น แต่พอมองไกลๆ จะเป็นสีเทอร์ควอยส์
แล้วก็เดินต่อไปอีกจนถึงลานจอดรถ ฝั่งตรงข้ามจะมีป้ายบอกทางอยู่ (ที่วงกลมสีแดงไว้)
อยู่แถวๆ นี้ของแผนที่
หน้าตาป้ายและทางเดินขึ้นเขา
รายละเอียดป้าย
1. จากป้ายจะเห็นว่ามี 3 เส้นทางที่สามารถไปโอลเปเรอร์ ฮึทเทอได้ โดยเส้นทางสีน้ำเงินหรือเส้นทางหมายเลข 502 ที่เป็นเส้นทางตรงจะใช้เวลาน้อยที่สุดคือประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที (แต่เนื่องจากต้องเดินไต่เขาขึ้นไปตรงๆ ถ้าไม่ได้ฟิตร่างกายมาก็จะหืดขึ้นคอมาก ต้องพักเป็นระยะๆ เวลาเดินจริงอาจจะต้องบวกเพิ่มไปด้วยประมาณ 1 - 3 ชั่วโมง)
2. เส้นทางนี้มีความต่างระดับประมาณ 600 *Hm หรือสูงจากอ่างเก็บน้ำประมาณ 600 เมตร (อ่างเก็บน้ำอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,782 เมตร ในขณะที่โอลเปเรอร์ ฮึทเทออยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,389 เมตร ส่วนไมเออร์โฮเฟนอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 633 เมตร)
3. ระดับความยากของเส้นทางคือสีแดงหรือปานกลาง
*Hm คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Höhenmeter ในภาษาเยอรมัน หรือ vertical metre ในภาษาอังกฤษ
เพิ่มเติมนิดนึงว่า ก่อนไปเดินป่าหรือขึ้นที่สูงทุกครั้ง ควรเช็กความสูงจากระดับทะเลของปลายทางที่อยากไปด้วย เพื่อจะได้พิจารณาว่าไปแล้วจะเกิดอาการแพ้ความสูงหรือเปล่า (เห็นว่าส่วนใหญ่จะเริ่มมีผลกับร่างกายที่ความสูง 2,500 เมตรขึ้นไป แต่จะเริ่มเป็นกันเยอะคือที่ความสูง 3,000 เมตรขึ้นไป ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่คนด้วย อย่างของเราอาจจะ 3,500 เมตรขึ้นไป ส่วนคนอื่นอาจจะ 4,000 เมตรขึ้นไปก็ได้)
[เดินเล่นบนแอลป์ออสเตรียโดยรถสาธารณะ] เส้นทาง 502 อ่างเก็บน้ำชเลไกส์ชไปเชอร์ - สะพานแขวนใกล้โอลเปเรอร์ ฮึทเทอ
สถานที่ที่จะรีวิวเป็นไฮไลต์อันดับ 1 (เรียงอันดับตามความสนใจ ไม่ได้เรียงตามความสวยแต่อย่างใด) ของทริปเที่ยวยุโรปในฤดูร้อนเพื่อศึกษาธรรมชาติและตามหาทัศนียภาพที่เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายของแอลป์ออสเตรีย โดยมีแอลป์อิตาลี รวมถึงป่า ปราสาทและอารามในเยอรมันกับเนเธอร์แลนด์เสริมบ้างเล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งก็คือเส้นทางชมวิวอ่างเก็บน้ำชเลไกส์ชไปเชอร์ (Schlegeisspeicher) หรือ ชเลไกส์ ชเตาเซ (Schlegeis Stausee) จากมุมสูงค่ะ
ที่นี่เป็นหนึ่งในอ่างเก็บน้ำของซิลเลอร์ทาลแอลป์ อยู่ในรัฐทิโรลของออสเตรียแล้วก็ไม่ไกลจากทิโรลใต้ของอิตาลี ด้วยความที่มีทัศนียภาพที่มองจากบนเขาแล้วเหมือนเป็นหลุมยุบวูบลงไป ประกอบกับมีสะพานแขวนเหนือน้ำตกบนเขาที่เหมือนกับได้ยืนอยู่เหนือหลุมยุบ*รูปตัวยูนั้น (อันนี้แล้วแต่มุมกล้องเลย...) จึงทำให้ที่นี่เป็นปลายทางยอดนิยมของซิลเลอร์ทาลแอลป์
*หุบเขารูปตัวยู คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่ความสูงจากอ่างเก็บน้ำถึงกระท่อมบนเขา (hütte : ฮึทเทอ) คือ 607 เมตร (อันนี้ไม่ใช่ความสูงจากระดับน้ำทะเลนะคะ เป็นความสูงของกระท่อมบนเขาเมื่อวัดจากอ่างเก็บน้ำ) หรือถ้าจะเทียบให้เห็นภาพว่าสูงประมาณไหนก็คือ ต่ำกว่าโตเกียวสกายทรีที่สูง 634 เมตรประมาณ 20 กว่าเมตร แล้วก็ที่นี่ไม่มีเคเบิลคาร์ขึ้นไปด้วย จึงต้องเดินไต่เขาขึ้นไปเองเท่านั้น กว่าจะไปถึงวิวนั้นได้ก็เรียกได้ว่าเล่นเอาหืดขึ้นคอเลยทีเดียว
โดยวิธีไปสะพานนี้
อันดับแรกคือต้องไปให้ถึงอ่างเก็บน้ำชเลไกส์ชไปเชอร์ก่อนแล้วค่อยเดินขึ้นเขาไปโอลเปเรอร์ ฮึทเทอ (Olpererhütte) ซึ่งการเดินทางไปอ่างเก็บน้ำชเลไกส์ชไปเชอร์ด้วยรถสาธารณะ ถ้าเริ่มจากอินน์สบรูก (แต่ถ้าเริ่มจากที่นี่จริง ควรตื่นเช้ามากถึงมากที่สุด) คือ
1. ขึ้นรถไฟไปลงสถานีเยนบัค (Jenbach)
2. เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟท้องถิ่น ซิลเลอร์ทาลบาห์น (Zillertalbahn) (พอลงบันไดไปชั้นใต้ดินจะมีลูกศรบอกอยู่ค่ะ ว่าต้องไปทางไหน สถานีรถไฟมีลิฟต์ ถ้าใครมีกระเป๋าลากใบใหญ่ด้วยก็สามารถขึ้น - ลงลิฟต์แทนบันไดได้ แต่ก็ควรระวังด้วย เพราะบางทีลิฟต์ก็เสีย ต้องแบกกระเป๋าขึ้นบันไดเอง) โดยรถไฟขบวนนี้ซื้อตั๋วบนรถไฟได้ ส่วนใครใช้ยูเรลพาส รถไฟสายนี้ไม่เข้าร่วม ต้องจ่ายแยกต่างหาก
3. ลงที่สถานีสุดท้าย ไมเออร์โฮเฟน (Mayrhofen)
4. ป้ายรถบัสหน้าสถานีรถไฟมีหลายชานชาลา หาชานชาลาที่มีรถบัสสาย 4102 ปลายทางชเลไกส์ ชเตาเซ (Schlegeis Stausee) โดยรถบัสสายนี้ ขาไป ตอนเช้าคนค่อนข้างเยอะเพราะเป็นสถานที่ยอดนิยม อาจต้องยืน ขากลับไม่แน่ใจว่าคนเยอะหรือเปล่า (บางคนก็ไปเดินเขา - ค้างที่กระท่อมบนเขาหลายวัน) วันที่เราไป รถขากลับรอบสุดท้ายยังมีที่นั่งอยู่ สำหรับตั๋วรถ ซื้อกับคนขับรถได้เลย
ทั้งนี้ทั้งนั้น สามารถตรวจสอบเวลารถไฟและรถบัสได้จากเว็บหรือแอปการรถไฟออสเตรีย หรือถ้าเฉพาะตารางรถบัส สามารถหาได้จากเว็บท้องถิ่น ถ้าอ้างอิงเฉพาะตอนที่เราไป ป้ายรถบัสจะอยู่ชานชาลา C ขาไป รถบัสรอบเช้าสุดคือ 7:55 น. ส่วนขากลับจากอ่างเก็บน้ำ รถบัสรอบสุดท้ายคือ 18:00 น.
แผนที่โดยรวมของซิลเลอร์ทาล ถ่ายมาจากอ่างเก็บน้ำอีกแห่งที่ไม่ใช่ชเลไกส์ชไปเชอร์ ตรงที่วงกลมไว้คือเมืองต้นทางที่มีรถบัสกับโอลเปเรอร์ ฮึทเทอที่มีสะพานอยู่ โดยรถบัสจะจอดใกล้ๆ ร้านอาหารอ่างเก็บน้ำ
ในแผนที่ Bahnhof คือ สถานีรถไฟ ส่วนสัญลักษณ์ตัว H ในวงกลมสีเขียว คือ ป้ายรถบัส
วิวทะเลสาบอ่างเก็บน้ำแถวๆ ป้ายรถบัสและร้านอาหารที่อยู่ตรงข้าม ที่นี่สามารถเข้าห้องน้ำได้ แต่ต้องจ่ายเงินด้วย ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะ 0.5 ยูโร
ป้ายเหลืองนี้คือป้ายบอกทางเดินป่า วงกลมสีน้ำเงินคือโอลเปเรอร์ ฮึทเทอ
อธิบายป้ายเล็กน้อย
- วงกลมสีแดงกับสีดำตรงหน้าชื่อหมายถึงระดับความยาก สีน้ำเงิน (ไม่มีในภาพ) คือง่าย สีแดงคือปานกลาง และสีดำคือยาก
- รูปช้อนกับมีดหมายถึงมีร้านอาหาร
- 2h คือ ใช้เวลาเดินไปประมาณ 2 ชั่วโมง (ถ้าเดินไม่หยุดอาจจะ 2 ชั่วโมง แต่ถ้าหยุดพักหรือชมนกชมไม้ด้วย ก็อาจจะนานกว่านั้น อย่างในกรณีเรา จะหยุดรอให้คนไปหมดถึงจะถ่ายรูป ก็บวกเวลาเพิ่มไปด้วย 1 - 3 ชั่วโมง)
- 502 คือหมายเลขเส้นทาง เวลาเดินป่าบนแอลป์ออสเตรียกับเยอรมัน ในหลายเส้นทางจะมีป้ายเหลืองแบบนี้เป็นระยะๆ เพื่อบอกว่าเราจะต้องเลี้ยวทางไหน หรือต้องไปทางไหน ก็ดูป้ายและยึดตามหมายเลขเส้นทางที่เราจะไปเป็นหลัก
จากร้านอาหาร พอเดินเลียบอ่างเก็บน้ำไปทางภูเขาตามที่ป้ายเหลืองชี้ไปเรื่อยๆ ก็จะเจอเก้าอี้นั่งชมวิว ฝั่งตรงข้ามมีทางแยกด้วย แต่ซูมดูแล้วไม่ใช่ที่ที่จะไป
คร็อปป้าย เผื่อมองตัวหนังสือไม่ชัด
ถ้าดูจากแผนที่ ปลายทางของป้ายนี้คือกระท่อมที่ทำสี่เหลี่ยมครอบเอาไว้
เดินเลียบอ่างเก็บน้ำต่อไปจนถึงจุดนั่งชมวิวอีกแห่ง
น้ำในทะเลสาบที่นี่เป็นสีเทอร์ควอยส์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วก็เดินต่อไปอีกจนถึงลานจอดรถ ฝั่งตรงข้ามจะมีป้ายบอกทางอยู่ (ที่วงกลมสีแดงไว้)
อยู่แถวๆ นี้ของแผนที่
หน้าตาป้ายและทางเดินขึ้นเขา
รายละเอียดป้าย
1. จากป้ายจะเห็นว่ามี 3 เส้นทางที่สามารถไปโอลเปเรอร์ ฮึทเทอได้ โดยเส้นทางสีน้ำเงินหรือเส้นทางหมายเลข 502 ที่เป็นเส้นทางตรงจะใช้เวลาน้อยที่สุดคือประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที (แต่เนื่องจากต้องเดินไต่เขาขึ้นไปตรงๆ ถ้าไม่ได้ฟิตร่างกายมาก็จะหืดขึ้นคอมาก ต้องพักเป็นระยะๆ เวลาเดินจริงอาจจะต้องบวกเพิ่มไปด้วยประมาณ 1 - 3 ชั่วโมง)
2. เส้นทางนี้มีความต่างระดับประมาณ 600 *Hm หรือสูงจากอ่างเก็บน้ำประมาณ 600 เมตร (อ่างเก็บน้ำอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,782 เมตร ในขณะที่โอลเปเรอร์ ฮึทเทออยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,389 เมตร ส่วนไมเออร์โฮเฟนอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 633 เมตร)
3. ระดับความยากของเส้นทางคือสีแดงหรือปานกลาง
*Hm คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เพิ่มเติมนิดนึงว่า ก่อนไปเดินป่าหรือขึ้นที่สูงทุกครั้ง ควรเช็กความสูงจากระดับทะเลของปลายทางที่อยากไปด้วย เพื่อจะได้พิจารณาว่าไปแล้วจะเกิดอาการแพ้ความสูงหรือเปล่า (เห็นว่าส่วนใหญ่จะเริ่มมีผลกับร่างกายที่ความสูง 2,500 เมตรขึ้นไป แต่จะเริ่มเป็นกันเยอะคือที่ความสูง 3,000 เมตรขึ้นไป ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่คนด้วย อย่างของเราอาจจะ 3,500 เมตรขึ้นไป ส่วนคนอื่นอาจจะ 4,000 เมตรขึ้นไปก็ได้)