‘เงินฝาก’ ท่วมระบบ แม้ดอกเบี้ยลดลง เหตุประชาชน-ภาคธุรกิจ ปิดความเสี่ยง ชะลอลงทุน หันนำเงินฝากแบงก์ ส่งผลปริมาณเงินฝาก 5 เดือนพุ่งกว่า 1.18 ล้านล้าน หรือราว 8.76% คาดแนวโน้มยังเพิ่มต่อเนื่อง
เงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สวนทางกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ปรับลดลง โดยข้อมูลล่าสุด ณ สิ้นเดือนพ.ค.2563 ธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบมียอดเงินฝากรวมกันที่ 14.63 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปลายปีที่ผ่านมา 1.18 ล้านล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 8.76%
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า สภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์ถือว่ายังค่อนข้างล้น เนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ และนำเงินเหล่านี้มาฝากไว้กับธนาคารพาณิชย์เพื่อหลบความเสี่ยง ส่งผลให้ปริมาณเงินฝากในระบบเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก
สำหรับ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย พบว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันปริมาณเงินฝากเพิ่มขึ้นราว 3-4% โดย ณ สิ้นเดือนพ.ค.2563 ธนาคารมีเงินฝากอยู่ประมาณ 2.16 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 1.99 แสนล้านบาท
“สภาพคล่องในวันนี้ถือว่าล้นเหลือเฟือ เพราะคนไม่รู้ว่าจะเอาเงินไปไหน ไปลงทุนอะไร แม้เวลานี้ดอกเบี้ยเงินฝากจะต่ำลง แต่เรายังเห็นเงินไหลเข้ามาฝากอย่างต่อเนื่อง มองไปข้างหน้าเชื่อว่าเงินฝากจะยังทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง แต่อาจลดลงบ้างในกรณีที่คนเริ่มคลายกังวลกับการลงทุนโดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นกู้เอกชน ซึ่งตอนนั้นเราอาจเห็นคนโยกเงินฝากไปลงทุนผ่านในกองทุนรวมกันมากขึ้น"
นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ถ้าดูปริมาณเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ จะพบว่า เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากช่วงนี้นักลงทุนต้องการลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอน อีกทั้งนักลงทุนยังอยู่ในโหมดระมัดระวังการขยายกิจการ หรือลงทุนในการทำธุรกิจใหม่ๆ ทำให้มีการนำเงินมาฝากในระบบธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้น เพราะการพักเงินไว้ในเงินฝาก จะมีความคล่องตัวสูง สามารถนำออกไปบริหารจัดการได้ง่าย มากกว่าลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่น
การนำเงินมาพักไว้ก็เพื่อรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัว และเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ที่เอื้อต่อการลงทุน ดังนั้นเชื่อว่า เงินฝากในระบบธนาคาร น่าจะอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องตลอดปีนี้
อย่างไรก็ตาม เงินฝากของธนาคารที่อยู่ในระดับสูง เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากธนาคารมีช่องทางบริหารจัดการเงินฝาก ตามช่องทางต่างๆได้ดีในปัจจุบัน จึงเชื่อว่าจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารจัดการเงินฝากในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ยอดเงินฝากของธนาคารกรุงเทพ ณ สิ้นเดือนพ.ค. มียอดคงค้างที่ 2.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นหากเทียบกับ สิ้นปีก่อน ที่เงินฝากอยู่เพียง 2.3 ล้านล้านบาท
นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า หากดูข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากของระบบธนาคารพาณิชย์ พบว่าปรับลดลงต่อเนื่อง ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา และจะเห็นดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ น่าจะปรับลดลงต่อเนื่อง ในไตรมาส 2 ตามการปรับดอกเบี้ยลงของดอกเบี้ยนโยบาย
อย่างไรก็ตามหากดูเงินฝากในเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะมี.ค. พบว่า ทั้งระบบธนาคารพาณิชย์ มีเงินฝากเพิ่มขึ้นถึง 7.5 แสนล้านบาทต่อเดือน และเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.38 แสนล้านบาท เดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นที่ 5.5 หมื่นล้านบาทต่อเดือน หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สะท้อนว่านักลงทุนและภาคธุรกิจยังมีความต้องการฝากเงินมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงมี.ค.ที่เกิดความกังวลจากการเทขายสินทรัพย์เสี่ยง มาไว้ในเงินฝาก
โดยเงินฝากที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ ครึ่งปีแรก เงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์เติบโตราว 12 % หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และคาดว่าสิ้นปีนี้ เงินฝากจะเติบโตต่อเนื่องที่ระดับ 9-12 % หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านล้านบาท ทำให้เงินฝากคงค้างในระบบธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นปีอยู่ที่ 14.6 ล้านล้าน ซึ่งเป็นระดับที่มากสุดในรอบ 9 ปีนับจากปี 2555
อย่างไรก็ตาม หากดูสภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์ที่อยู่ระดับสูง สะท้อนว่า แบงก์มีสภาพคล่องเพียงพอในการบริหารธุรกิจ และปล่อยสินเชื่อ ทำให้มีความต้องการเงินฝากลดลง ดูจากการทำแคมเปญเงินฝากที่เห็นลดลงต่อเนื่อง
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
‘เงินฝาก’ท่วมระบบแบงก์ เดือน พ.ค. ยอดแตะ 14.63 ล้านล้านเพิ่มขึ้น 8.76%
‘เงินฝาก’ ท่วมระบบ แม้ดอกเบี้ยลดลง เหตุประชาชน-ภาคธุรกิจ ปิดความเสี่ยง ชะลอลงทุน หันนำเงินฝากแบงก์ ส่งผลปริมาณเงินฝาก 5 เดือนพุ่งกว่า 1.18 ล้านล้าน หรือราว 8.76% คาดแนวโน้มยังเพิ่มต่อเนื่อง
เงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สวนทางกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ปรับลดลง โดยข้อมูลล่าสุด ณ สิ้นเดือนพ.ค.2563 ธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบมียอดเงินฝากรวมกันที่ 14.63 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปลายปีที่ผ่านมา 1.18 ล้านล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 8.76%
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า สภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์ถือว่ายังค่อนข้างล้น เนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ และนำเงินเหล่านี้มาฝากไว้กับธนาคารพาณิชย์เพื่อหลบความเสี่ยง ส่งผลให้ปริมาณเงินฝากในระบบเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก
สำหรับ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย พบว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันปริมาณเงินฝากเพิ่มขึ้นราว 3-4% โดย ณ สิ้นเดือนพ.ค.2563 ธนาคารมีเงินฝากอยู่ประมาณ 2.16 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 1.99 แสนล้านบาท
“สภาพคล่องในวันนี้ถือว่าล้นเหลือเฟือ เพราะคนไม่รู้ว่าจะเอาเงินไปไหน ไปลงทุนอะไร แม้เวลานี้ดอกเบี้ยเงินฝากจะต่ำลง แต่เรายังเห็นเงินไหลเข้ามาฝากอย่างต่อเนื่อง มองไปข้างหน้าเชื่อว่าเงินฝากจะยังทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง แต่อาจลดลงบ้างในกรณีที่คนเริ่มคลายกังวลกับการลงทุนโดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นกู้เอกชน ซึ่งตอนนั้นเราอาจเห็นคนโยกเงินฝากไปลงทุนผ่านในกองทุนรวมกันมากขึ้น"
นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ถ้าดูปริมาณเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ จะพบว่า เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากช่วงนี้นักลงทุนต้องการลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอน อีกทั้งนักลงทุนยังอยู่ในโหมดระมัดระวังการขยายกิจการ หรือลงทุนในการทำธุรกิจใหม่ๆ ทำให้มีการนำเงินมาฝากในระบบธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้น เพราะการพักเงินไว้ในเงินฝาก จะมีความคล่องตัวสูง สามารถนำออกไปบริหารจัดการได้ง่าย มากกว่าลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่น
การนำเงินมาพักไว้ก็เพื่อรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัว และเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ที่เอื้อต่อการลงทุน ดังนั้นเชื่อว่า เงินฝากในระบบธนาคาร น่าจะอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องตลอดปีนี้
อย่างไรก็ตาม เงินฝากของธนาคารที่อยู่ในระดับสูง เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากธนาคารมีช่องทางบริหารจัดการเงินฝาก ตามช่องทางต่างๆได้ดีในปัจจุบัน จึงเชื่อว่าจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารจัดการเงินฝากในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ยอดเงินฝากของธนาคารกรุงเทพ ณ สิ้นเดือนพ.ค. มียอดคงค้างที่ 2.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นหากเทียบกับ สิ้นปีก่อน ที่เงินฝากอยู่เพียง 2.3 ล้านล้านบาท
นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า หากดูข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากของระบบธนาคารพาณิชย์ พบว่าปรับลดลงต่อเนื่อง ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา และจะเห็นดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ น่าจะปรับลดลงต่อเนื่อง ในไตรมาส 2 ตามการปรับดอกเบี้ยลงของดอกเบี้ยนโยบาย
อย่างไรก็ตามหากดูเงินฝากในเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะมี.ค. พบว่า ทั้งระบบธนาคารพาณิชย์ มีเงินฝากเพิ่มขึ้นถึง 7.5 แสนล้านบาทต่อเดือน และเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.38 แสนล้านบาท เดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นที่ 5.5 หมื่นล้านบาทต่อเดือน หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สะท้อนว่านักลงทุนและภาคธุรกิจยังมีความต้องการฝากเงินมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงมี.ค.ที่เกิดความกังวลจากการเทขายสินทรัพย์เสี่ยง มาไว้ในเงินฝาก
โดยเงินฝากที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ ครึ่งปีแรก เงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์เติบโตราว 12 % หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และคาดว่าสิ้นปีนี้ เงินฝากจะเติบโตต่อเนื่องที่ระดับ 9-12 % หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านล้านบาท ทำให้เงินฝากคงค้างในระบบธนาคารพาณิชย์ ณ สิ้นปีอยู่ที่ 14.6 ล้านล้าน ซึ่งเป็นระดับที่มากสุดในรอบ 9 ปีนับจากปี 2555
อย่างไรก็ตาม หากดูสภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์ที่อยู่ระดับสูง สะท้อนว่า แบงก์มีสภาพคล่องเพียงพอในการบริหารธุรกิจ และปล่อยสินเชื่อ ทำให้มีความต้องการเงินฝากลดลง ดูจากการทำแคมเปญเงินฝากที่เห็นลดลงต่อเนื่อง
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ