อินทผลัม! ปลูกง่ายรายได้หลักแสน เพียง 5 ปีสร้างรายได้ให้เกษตรกรเมืองช้าง
สุรินทร์ – ที่สวนผลอินทร์ฟาร์ม อ.ปราสาท เปลี่ยนความคิดจากปลูกพืชไร่ธรรมดาๆ หลังกลับจากดูงานเมืองกาญจน์ หันมาปลูกอินทผลัม สร้างรายได้หลักแสนต่อเดือน
วันที่ 10 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตำบลหนองใหญ่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มีเกษตรกรหัวไวใจสู้เปลี่ยนจากปลูกอ้อย มันสำปะหลัง หันมาปลูก “อินทผลัม” พืชเศรษฐกิจที่กำลังมาแรก หลังกลับจากศึกษาดูงานที่จ.กาญจนบุรี ผ่านมา 5 สร้างรายได้หลักแสนต่อเดือน บนเนื้อที่กว่า 13 ไร่ ติดถนนเส้นโคกตะเคียน – พนมดงรัก พบเจ้าของสวน นายบุญช่วย ผลอินทร์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191/1 ม.9 เจ้าของสวนอินทผลัม “ผลอินทร์ฟาร์ม” เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ใช้พื้นที่แห่งนี้ปลูกมันสำปะหลังและอ้อยสลับกันมาทั้งชีวิต แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากราคาค่อนข้างต่ำและไม่แน่นอน จึงทดลองปลูกพืชอื่นๆที่จะสามารถสร้างรายได้ที่ดีกว่า และมีอายุเก็บเกี่ยวยาวนาน เพื่อหยุดระบบการลงทุนวนซ้ำไปซ้ำมาทุกๆปี โดยไปศึกษาดูงานที่จังหวัดกาญจนบุรีและนครราชสีมา หลังจากกลับมาก็ลงมือปลูกเลย อินทผลัมกินสด ซึ่งเป็นพืชที่มองดูแล้วน่าสนใจ มีราคาสูง เป็นที่จูงใจของเกษตรและตลาด อีกทั้งเป็นพืชที่ดูแลได้ง่าย มีถิ่นกำเนิดทางประเทศอาหรับที่แห้งแล้ง จึงมองว่า หากนำมาปลูกในที่ดินของตนซึ่งมีลักษณะเป็นดินร่วนปนทราย น่าจะได้ผลดีกว่า เพราะสภาพดินที่นี่สมบูรณ์กว่าถิ่นกำเนิดของอินทผลัมมาก โดยอินทผลัมมีอายุยืนกว่า 50 ปีเลยทีเดียวสามารถอยู่ถึงรุ่นลูกรุ่นหลานได้ จึงตัดสินใจลงทุนปลูกก่อนประมาณ 3 ไร่เป็นอินทผลัมกินสด พันธุ์บาฮี ราคาต้นพันธุ์ตกอยู่ที่ต้นละพันกว่าบาท จากนั้นก็ให้น้ำดูแลตามความเหมาะสม และที่สวนจะไม่มีการใช้สารเคมี ระวังเพียงด้วงและแมลงวันทองที่จะมากัดกินน้ำเลี้ยงในช่วงที่ออกช่อจั่นและติดลูก โดยใช้วิธีกำจัดด้วยการนำตาข่ายมากางคลุมลำต้นป้องกันด้วง กับห่อจั่นผลในช่วงที่ให้ผลผลิต ซึ่งก็จะทำให้ได้ผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพผ่านมาเพียง 4 ปี อินทผลัมในสวนรุ่นแรกก็ให้ผลผลิตเต็มต้น ประมาณ 100 กิโลกรัมต่อต้น รสชาติเป็นที่ชื่นชอบของตลาด เนื่องจากหวานกรอบอร่อย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากสภาพดินที่อุดมสมบูรณ์
นายบุญช่วยฯ กล่าวอีกว่า หลังจากที่ประสบความสำเร็จแล้วในรุ่นแรก ได้ตัดสินใจลงทุนปลูกเพิ่ม จนเต็มเนื้อที่ 13 ไร่ รวมตอนนี้มีอินทผลัมกว่า 970 ต้น โดยในแปลงของต้นจะปลูกระยะ 5 x 5 เมตร ช่วงแรกๆจะลงทุนถือว่าค่อนข้างเยอะ และอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อินทผลัมที่ปลูกจะให้ผลผลิตเพิ่มมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว ตอนนี้สามารถนำผลผลิตไปส่งตลาดได้แล้ว ราคาทุกวันอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 บาท ในแต่ละครั้งตนเก็บได้ 500 – 600 กก. ใช้เวลา 5 -6 วันเก็บครั้งหนึ่ง อินทผลัมจะสุกเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์และการดูแลรักษาที่ดี ซึ่งตนมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จจากพืชชนิดนี้อย่างเต็มที่แน่นอน นายบุญช่วยกล่าวอย่างอารมณ์ดี ////////////////
อินทผลัม! ปลูกง่ายรายได้หลักแสน เพียง 5 ปีสร้างรายได้ให้เกษตรกรเมืองช้าง
สุรินทร์ – ที่สวนผลอินทร์ฟาร์ม อ.ปราสาท เปลี่ยนความคิดจากปลูกพืชไร่ธรรมดาๆ หลังกลับจากดูงานเมืองกาญจน์ หันมาปลูกอินทผลัม สร้างรายได้หลักแสนต่อเดือน
วันที่ 10 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตำบลหนองใหญ่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มีเกษตรกรหัวไวใจสู้เปลี่ยนจากปลูกอ้อย มันสำปะหลัง หันมาปลูก “อินทผลัม” พืชเศรษฐกิจที่กำลังมาแรก หลังกลับจากศึกษาดูงานที่จ.กาญจนบุรี ผ่านมา 5 สร้างรายได้หลักแสนต่อเดือน บนเนื้อที่กว่า 13 ไร่ ติดถนนเส้นโคกตะเคียน – พนมดงรัก พบเจ้าของสวน นายบุญช่วย ผลอินทร์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191/1 ม.9 เจ้าของสวนอินทผลัม “ผลอินทร์ฟาร์ม” เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ใช้พื้นที่แห่งนี้ปลูกมันสำปะหลังและอ้อยสลับกันมาทั้งชีวิต แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากราคาค่อนข้างต่ำและไม่แน่นอน จึงทดลองปลูกพืชอื่นๆที่จะสามารถสร้างรายได้ที่ดีกว่า และมีอายุเก็บเกี่ยวยาวนาน เพื่อหยุดระบบการลงทุนวนซ้ำไปซ้ำมาทุกๆปี โดยไปศึกษาดูงานที่จังหวัดกาญจนบุรีและนครราชสีมา หลังจากกลับมาก็ลงมือปลูกเลย อินทผลัมกินสด ซึ่งเป็นพืชที่มองดูแล้วน่าสนใจ มีราคาสูง เป็นที่จูงใจของเกษตรและตลาด อีกทั้งเป็นพืชที่ดูแลได้ง่าย มีถิ่นกำเนิดทางประเทศอาหรับที่แห้งแล้ง จึงมองว่า หากนำมาปลูกในที่ดินของตนซึ่งมีลักษณะเป็นดินร่วนปนทราย น่าจะได้ผลดีกว่า เพราะสภาพดินที่นี่สมบูรณ์กว่าถิ่นกำเนิดของอินทผลัมมาก โดยอินทผลัมมีอายุยืนกว่า 50 ปีเลยทีเดียวสามารถอยู่ถึงรุ่นลูกรุ่นหลานได้ จึงตัดสินใจลงทุนปลูกก่อนประมาณ 3 ไร่เป็นอินทผลัมกินสด พันธุ์บาฮี ราคาต้นพันธุ์ตกอยู่ที่ต้นละพันกว่าบาท จากนั้นก็ให้น้ำดูแลตามความเหมาะสม และที่สวนจะไม่มีการใช้สารเคมี ระวังเพียงด้วงและแมลงวันทองที่จะมากัดกินน้ำเลี้ยงในช่วงที่ออกช่อจั่นและติดลูก โดยใช้วิธีกำจัดด้วยการนำตาข่ายมากางคลุมลำต้นป้องกันด้วง กับห่อจั่นผลในช่วงที่ให้ผลผลิต ซึ่งก็จะทำให้ได้ผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพผ่านมาเพียง 4 ปี อินทผลัมในสวนรุ่นแรกก็ให้ผลผลิตเต็มต้น ประมาณ 100 กิโลกรัมต่อต้น รสชาติเป็นที่ชื่นชอบของตลาด เนื่องจากหวานกรอบอร่อย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากสภาพดินที่อุดมสมบูรณ์
นายบุญช่วยฯ กล่าวอีกว่า หลังจากที่ประสบความสำเร็จแล้วในรุ่นแรก ได้ตัดสินใจลงทุนปลูกเพิ่ม จนเต็มเนื้อที่ 13 ไร่ รวมตอนนี้มีอินทผลัมกว่า 970 ต้น โดยในแปลงของต้นจะปลูกระยะ 5 x 5 เมตร ช่วงแรกๆจะลงทุนถือว่าค่อนข้างเยอะ และอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อินทผลัมที่ปลูกจะให้ผลผลิตเพิ่มมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว ตอนนี้สามารถนำผลผลิตไปส่งตลาดได้แล้ว ราคาทุกวันอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 บาท ในแต่ละครั้งตนเก็บได้ 500 – 600 กก. ใช้เวลา 5 -6 วันเก็บครั้งหนึ่ง อินทผลัมจะสุกเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์และการดูแลรักษาที่ดี ซึ่งตนมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จจากพืชชนิดนี้อย่างเต็มที่แน่นอน นายบุญช่วยกล่าวอย่างอารมณ์ดี ////////////////