ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า พ่อแม่ของเรา และครอบครัวเป็นชาวนา เกษตรกรที่ปลูกพืชตามเทศกาล หรือความต้องการของตลาด ที่คนภายในหมู่บ้านปลูกกัน
ตอนที่ครอบครัวตัดสินใจปลูกมันสำปะหลัง เพราะตอนนั้นราคามันสำปะหลังกิโลกรัมลัะ 2.50 บาท พ่อเราตั้งใจปลูกมันมาก ดูแลอย่างดี รดน้ำใส่ปุ๋ยอย่างดี แต่พอถึงเวลาเก็บเกี่ยวราคามันสำปะหลังกลับราคากิโลกรัมละ 1.40 บาท มันต่างกันมากนะ แถมเราต้องเสียค่าขนส่งอีก ที่จะเอามันสำปะหลังไปขาย เราจึงไม่แปลกใจเลยทำไมเกษตรกรบ้านเรา เมืองไทยเราจึงลืมตาอ้าปากไม่ได้ พอจะทำอะไร ปลูกอะไร ราคาตอนบอกให้ปลูกนี้แตกต่างกับตอนเก็บเกี่ยว คนที่เป็นผู้เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์นี่ เขาคิดแค่ว่า ถ้าเราไม่ขายกับเขา ปล่อยไว้มันสำปะหลังมันก็เน่าทิ้ง เงินก็ไม่ได้ แถมเสียแรง เสียเวลา เสียทุนที่ลงทุนไปอีก เขาเลยกำหนดราคาได้ต่ำมากส่ เขาจะรู้ไหมว่า ชาวนา เกษตรกรลำบากขนาดไหน เขาจะรู้ไหมว่าเกษตรกรหาเช้ากินค่ำอย่างเราจะแบกรับผลกระทบมากมายขนาดไหน หากินบนหลังคนจริงๆ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เกษตรกรเป็นหนี้สินได้ยังไง ในเมื่อลงทุนไปแล้ว กลับได้แค่ความว่างเปล่า
เราพิมพ์ในมือถือ ยางตัสอักษรพิทพ์ผิดแล้วลบไม่ได้ ขอโทษด้วยนะ ล้เข่วีน่