ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่สื่อและประชาชนสนใจในวงกว้างกันเลยทีเดียว สำหรับประเด็นเงินบริจาคช่วยไฟป่าที่เจ้าตัวออกมาชี้แจงล่าสุดด้วยสเตทเมนต์ที่มีอยู่ แต่ก็ยังเคลียร์ไม่ชัดเท่าไหร่ กลายเป็นที่มาของการตรวจสอบหลายหน่วยงาน กันเลยทีเดียว ในขณะนี้
ล่าสุดก็มีความเคลื่อนไหวทั้งในส่วนของทางด้านตำรวจที่ทนายดังได้ไปแจ้งความ และทางด้านปลัด อ.แม่ริม ก็ได้มีการเคลื่อนไหวเช่นกัน เพื่อให้ทางด้าน ฌอน ให้เข้าไปชี้แจงยืนยันความบรสุทธิ์ใจของตัวเอง และความโปร่งใสของเงินบริจาค ว่าทำบาทสตางค์ที่ประชาชนได้บริจาคได้ไปร่วมบุญถึงจุดหมายปลายทางวัตถุประสงค์ตั้งแต่แรกหรือไม่....
ข่าวล่าสุด....
ตำรวจมั่นใจ "ฌอน" ได้หมายเรียกแล้ว แต่ยังไม่ประสานเข้าพบ ง้างรอ 3 ข้อหา
https://www.sanook.com/news/8204866/
ไลฟ์โค้ชชื่อดังที่ตกเป็นข่าวกรณีเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่แต่ไม่มีการมอบเงินช่วยเหลือ ว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อหา ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค. โดยนัดหมายให้มาพบภายในวันที่ 14 ก.ค. โดยขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจาก นายฌอน ว่าจะเดินทางเข้าพบตามหมายเรียกหรือไม่
ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาอะไรบ้างนั้น ต้องรอให้เจ้าตัวเข้ามาพบพนักงานสอบสวนก่อน จึงจะพิจารณาแจ้งข้อหา ส่วนกรณีการออกมาชี้แจงเรื่องเงินบริจาคผ่านทาง เฟซบุ๊ก เมื่อวานนี้ (8 ก.ค.) เข้าข่ายความผิดใดหรือไม่นั้น ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม พร้อมระบุว่า นายฌอน คาดว่าจะได้รับหมายเรียก เนื่องจากตำรวจมีข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ชัดเจน และไม่พบเรื่องการหลบหนีอยู่ต่างประเทศ แต่จะเดินทางเข้าตามหมายเรียกหรือไม่ยังไม่ทราบ
ทนายรณณรงค์ ไม่คาดหวัง "ฌอน" จะมาให้ปากคำตามหมายเรียก 14 ก.ค.นี้
https://www.sanook.com/news/8204058/
นายรณณรงค์ กล่าวต่อว่า ตนเองไม่ได้มีความคาดหวัง ว่าในวันที่ 14 กรกฎาคม นี้ นายฌอน จะเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะหากนายฌอนไม่มา หรือไม่มีการประสานติดต่อขอเข้าพบกับพนักงานสอบสวน เมื่อมีการออกหมายเรียกครบ 2 ครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีการออกหมายจับ ตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งจนถึงขณะนี้ จากการพูดคุยสอบถามกับตำรวจ พบว่า ยังไม่มีรายงาน ว่าไลฟ์โค้ชได้ติดต่อขอเข้าชี้แจงข้อมูล หรือส่งตัวแทนเข้าพบกับทางตำรวจแต่อย่างใด
ปลัด อ.แม่ริม เช็กบิล ฌอนไลฟ์โค้ช
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1885837
ปลัด อ.แม่ริม สาวลึกตรวจสอบเส้นทางการเงิน “ฌอน บูรณะหิรัญ” ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ปมฉาวเงินบริจาคดับไฟป่า จ.เชียงใหม่ ส่วนผู้ใหญ่คนสนิทแฉฌอน อ้างไม่รู้ธรรมเนียมไทย เป็นไปไม่ได้และไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิด ขณะที่ ผบช.ตม.เผย ช่วงนี้ด่าน ตม.ปิดทุกด่านเชื่อว่ายังเก็บตัวอยู่ที่ไทย ด้าน “วิชา” แนะฌอนต้องออกมาแจงข้อมูลให้ชัดเจน ผู้ที่มีความสงสัยสามารถแจ้งความฐานฉ้อโกงประชาชนได้ทันที
หลายหน่วยงานเร่งตรวจสอบนายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชคนดังเกี่ยวกับเงินบริจาคช่วยดับไฟป่า จ.เชียงใหม่ ถึงแม้นว่านายฌอนจะโพสต์คลิปชี้แจงไปแล้ว แต่ยังมีอีกหลายประเด็นยังคลุมเครือเป็นที่น่าสงสัย กระทั่งตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ออกหมายเรียกมาสอบปากคำในวันที่ 14 ก.ค. หากเข้าข่ายความผิดมีโทษ 3 ข้อหา ประกอบด้วย พ.ร.บ.เรี่ยไร พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และฉ้อโกงประชาชน ขณะที่ปลัดอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ ทำหนังสือเรียกนายฌอนเข้ามาพบด้วยเช่นกัน
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 ก.ค. นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางเงินบริจาค กับรูปแบบการช่วยเหลือหน่วยงานต่างๆของนายฌอน ในเรื่องนี้ตนเห็นในเฟซบุ๊กของนายฌอนระบุว่า เคยชี้แจงกับหน่วยงานราชการ จ.เชียงใหม่มาแล้วเมื่อวันที่ 2 ก.ค. และวันที่ 4 ก.ค. ตนอยากรู้ว่าเป็นใคร เพราะที่ อ.แม่ริมและ อ.เมืองเชียงใหม่ไม่ได้รับเรื่อง ขอให้สื่อช่วยติดตามด้วย ตนคงไปติดตามไม่ได้ เพราะเร่งตรวจสอบบัญชีบริจาคของนายฌอนมีจำนวนมาก และเมื่อตรวจบัญชีต่างๆเสร็จแล้ว ในวันที่ 10 ก.ค.ตนจะไปธนาคารกสิกรในตัวเมืองเชียงใหม่ เพราะนายฌอนเปิดบัญชีไว้ ขอตรวจบัตรเครดิต หากมีการใช้บัตรเครดิตในเรื่องนี้ปิดเกมได้เลย
ปลัดแม่ริมตรวจบัญชี "ฌอน" พบเงินเข้าเกือบ 1.3 ล้าน ก่อนถอนออก-จ่ายบัตรเครดิต
https://www.sanook.com/news/8205186/
ปลัดแม่ริมจ่อแจ้งความยักยอก-ฉ้อโกง หลังตรวจบัญชีรับบริจาค พบจ่ายบัตรเครดิต-โยกเข้าบัญชีตัวเองกว่า 1.2 ล้าน แต่ยังให้โอกาสชี้แจงก่อน
นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เผยผลการตรวจสอบบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขารวมโชค จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบัญชีที่เปิดรับบริจาคของฌอน บูรณหิรัญ ระบุพบข้อสงสัยหลายอย่างที่อาจเข้าข่ายความผิด โดยบัญชีดังกล่าว มีเงินคงค้างบัญชีที่ 90,286 บาท และนับตั้งแต่เปิดรับบริจาคตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 3 เมษายน พบว่ามีเงินเข้าบัญชี 5,960 ครั้ง ยอดเงินรวม 1,338,889 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบพบยอดถอนทั้งหมด 7 ครั้ง พบรายละเอียด 6 ครั้ง เป็นเงิน 1,200,000 บาท
ในการถอนเงินที่พบ 4 ครั้งแรก เป็นวันที่ 3 และ 4 เมษายน เป็นการโอนจ่ายบัตรเครดิต 4 ครั้ง ครั้งละ 50,000 บาท รวม 200,000 บาท หลังจากนั้นวันที่ 7 เมษายน โอนเข้าบัญชีของฌอนธนาคารไทยพาณิชย์ สองครั้ง ครั้งละ 5 แสนบาท รวม 1 ล้านบาทการถอนและโอนเงินทั้งหมดนี้ เกินยอดคงค้างเดิมในบัญชีที่มีอยู่ 90,286 บาท ทำให้ต้องตรวจสอบว่าเงินส่วนเกินที่นำไปใช้ เป็นการนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ของการเปิดรับบริจาคช่วยไฟป่าหรือไม่ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบว่ามีการโอนเงินช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือดำเนินการจัดซื้อสิ่งของเพื่อช่วยไฟป่า มีเพียงการจัดซื้อหน้ากากอนามัยจากบริษัทเชียงใหม่เดลต้า จำนวน 224,998 บาท ในวันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งผ่านพ้นวิกฤตไฟป่าไปแล้ว
นายบุญฤทธิ์ กล่าวว่า ฌอนต้องเข้ามาชี้แจงให้ได้ว่าเงินที่นำไปใช้กว่า 1.1 ล้าน เอาไปทำอะไร มีหลักฐานแสดงหรือไม่ หากอธิบายไม่ได้ก็อาจเข้าข่ายยักยอกเงินของประชาชน เพราะผู้บริจาคโอนให้เพื่อให้ไปช่วยไฟป่า ไม่สามารถนำไปใช้ได้ตามอำเภอใจ ซึ่งในที่สุดหากฌอนไม่มาพบหรือส่งตัวแทนชี้แจง ตามกำหนดเวลาที่ให้ไวในวันที่ 17 กรกฏาคม ทางอำเภอแม่ริมก็เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ เนื่องจากเป็นท่องที่เกิดเหตุ ทั้ง ข้อหาเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต ยักยอกทรัพย์ หรือฉ้อโอง ซึ่งเอกสารบัญชีธนาคารจะถือว่าเป็นเอกสารที่ปรากฏต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว ซึ่งการแจ้งความเป็นความต้องการของชาวบ้านในพื้นที่ที่เรียกร้องให้ดำนินคดีไม่ให้เป็นตัวอย่าง
ขนส่งฯ แจงทะเบียนรถ "ฌอน" ของจริง
https://news.thaipbs.or.th/content/294419
กรมการขนส่งทางบก แจงการจดทะเบียนรถเลขสวยของ "ฌอน บูรณะหิรัญ" เป็นการซื้อทะเบียนต่อจากผู้ที่ประมูลเลขได้ในอดีต ไม่ใช่ทะเบียนปลอมหรือสวมทะเบียน
วันนี้ (9 ก.ค. 2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเพจดังตั้งข้อสังเกตทะเบียนรถเลขสวยของ "ฌอน บูรณะหิรัญ" นักสร้างแรงบันดาลใจ ที่นำทะเบียน มาติดกับรถ BMW i8 ว่า เป็นการสวมทะเบียนหรือไม่ เนื่องจากได้ไปตรวจสอบในช่องทางต่าง ๆ แล้ว พบสถานะยกเลิกเลขทะเบียน
ล่าสุด นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีฝ่ายปฎิบัติการ กรมการขนส่งทางบก ชี้แจงว่าเลขทะเบียนรถดังกล่าว เป็นทะเบียนที่มาจากการประมูลเลขสวยของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งมีผู้ประมูลไปก่อนหน้านี้หลายปี จากนั้น นายฌอน ต้องการใช้เลขทะเบียนดังกล่าว จึงมีการเจรจาขอซื้อกรรมสิทธิ์จากผู้ถือคนก่อนและตกลงซื้อขาย โดยเจ้าของป้ายทะเบียนได้ทำการส่งมอบทะเบียนให้กับนายฌอน จึงไม่ถือว่าเป็นทะเบียนปลอมหรือการสวมทะเบียน
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายฌอน ได้มอบหมายตัวแทนให้มาดำเนินการแจ้งโอนย้านกรรมสิทธิ์ให้เป็นชื่อของตนเองอย่างถูกต้อง แต่เนื่องจากช่วงเวลานั้นเอกสารการโอนย้ายยังไม่ครบถ้วนถูกต้อง ทำให้การโอนกรรมสิทธิ์ยังไม่เรียบร้อย อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ขณะนี้การดำเนินการโอนย้ายกรรมสิทธิ์ถือครองทะเบียนดังกล่าว เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว
ตามติดชีวิตฌอน ตร.คาดหมายเรียกถึงแต่ไร้เงา/ทนายดังคาดอาจไม่มาตามนัด/สุดจัดปลัดแม่ริมจ่อเช็กบิลแจ้งข้อหาอีก/รถทะเบียนจริง
ล่าสุดก็มีความเคลื่อนไหวทั้งในส่วนของทางด้านตำรวจที่ทนายดังได้ไปแจ้งความ และทางด้านปลัด อ.แม่ริม ก็ได้มีการเคลื่อนไหวเช่นกัน เพื่อให้ทางด้าน ฌอน ให้เข้าไปชี้แจงยืนยันความบรสุทธิ์ใจของตัวเอง และความโปร่งใสของเงินบริจาค ว่าทำบาทสตางค์ที่ประชาชนได้บริจาคได้ไปร่วมบุญถึงจุดหมายปลายทางวัตถุประสงค์ตั้งแต่แรกหรือไม่....
ข่าวล่าสุด....
ตำรวจมั่นใจ "ฌอน" ได้หมายเรียกแล้ว แต่ยังไม่ประสานเข้าพบ ง้างรอ 3 ข้อหา
https://www.sanook.com/news/8204866/
ไลฟ์โค้ชชื่อดังที่ตกเป็นข่าวกรณีเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่แต่ไม่มีการมอบเงินช่วยเหลือ ว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อหา ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค. โดยนัดหมายให้มาพบภายในวันที่ 14 ก.ค. โดยขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจาก นายฌอน ว่าจะเดินทางเข้าพบตามหมายเรียกหรือไม่
ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาอะไรบ้างนั้น ต้องรอให้เจ้าตัวเข้ามาพบพนักงานสอบสวนก่อน จึงจะพิจารณาแจ้งข้อหา ส่วนกรณีการออกมาชี้แจงเรื่องเงินบริจาคผ่านทาง เฟซบุ๊ก เมื่อวานนี้ (8 ก.ค.) เข้าข่ายความผิดใดหรือไม่นั้น ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม พร้อมระบุว่า นายฌอน คาดว่าจะได้รับหมายเรียก เนื่องจากตำรวจมีข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ชัดเจน และไม่พบเรื่องการหลบหนีอยู่ต่างประเทศ แต่จะเดินทางเข้าตามหมายเรียกหรือไม่ยังไม่ทราบ
ทนายรณณรงค์ ไม่คาดหวัง "ฌอน" จะมาให้ปากคำตามหมายเรียก 14 ก.ค.นี้
https://www.sanook.com/news/8204058/
นายรณณรงค์ กล่าวต่อว่า ตนเองไม่ได้มีความคาดหวัง ว่าในวันที่ 14 กรกฎาคม นี้ นายฌอน จะเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะหากนายฌอนไม่มา หรือไม่มีการประสานติดต่อขอเข้าพบกับพนักงานสอบสวน เมื่อมีการออกหมายเรียกครบ 2 ครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีการออกหมายจับ ตามกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งจนถึงขณะนี้ จากการพูดคุยสอบถามกับตำรวจ พบว่า ยังไม่มีรายงาน ว่าไลฟ์โค้ชได้ติดต่อขอเข้าชี้แจงข้อมูล หรือส่งตัวแทนเข้าพบกับทางตำรวจแต่อย่างใด
ปลัด อ.แม่ริม เช็กบิล ฌอนไลฟ์โค้ช
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1885837
ปลัด อ.แม่ริม สาวลึกตรวจสอบเส้นทางการเงิน “ฌอน บูรณะหิรัญ” ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ปมฉาวเงินบริจาคดับไฟป่า จ.เชียงใหม่ ส่วนผู้ใหญ่คนสนิทแฉฌอน อ้างไม่รู้ธรรมเนียมไทย เป็นไปไม่ได้และไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิด ขณะที่ ผบช.ตม.เผย ช่วงนี้ด่าน ตม.ปิดทุกด่านเชื่อว่ายังเก็บตัวอยู่ที่ไทย ด้าน “วิชา” แนะฌอนต้องออกมาแจงข้อมูลให้ชัดเจน ผู้ที่มีความสงสัยสามารถแจ้งความฐานฉ้อโกงประชาชนได้ทันที
หลายหน่วยงานเร่งตรวจสอบนายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชคนดังเกี่ยวกับเงินบริจาคช่วยดับไฟป่า จ.เชียงใหม่ ถึงแม้นว่านายฌอนจะโพสต์คลิปชี้แจงไปแล้ว แต่ยังมีอีกหลายประเด็นยังคลุมเครือเป็นที่น่าสงสัย กระทั่งตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ออกหมายเรียกมาสอบปากคำในวันที่ 14 ก.ค. หากเข้าข่ายความผิดมีโทษ 3 ข้อหา ประกอบด้วย พ.ร.บ.เรี่ยไร พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และฉ้อโกงประชาชน ขณะที่ปลัดอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ ทำหนังสือเรียกนายฌอนเข้ามาพบด้วยเช่นกัน
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 ก.ค. นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางเงินบริจาค กับรูปแบบการช่วยเหลือหน่วยงานต่างๆของนายฌอน ในเรื่องนี้ตนเห็นในเฟซบุ๊กของนายฌอนระบุว่า เคยชี้แจงกับหน่วยงานราชการ จ.เชียงใหม่มาแล้วเมื่อวันที่ 2 ก.ค. และวันที่ 4 ก.ค. ตนอยากรู้ว่าเป็นใคร เพราะที่ อ.แม่ริมและ อ.เมืองเชียงใหม่ไม่ได้รับเรื่อง ขอให้สื่อช่วยติดตามด้วย ตนคงไปติดตามไม่ได้ เพราะเร่งตรวจสอบบัญชีบริจาคของนายฌอนมีจำนวนมาก และเมื่อตรวจบัญชีต่างๆเสร็จแล้ว ในวันที่ 10 ก.ค.ตนจะไปธนาคารกสิกรในตัวเมืองเชียงใหม่ เพราะนายฌอนเปิดบัญชีไว้ ขอตรวจบัตรเครดิต หากมีการใช้บัตรเครดิตในเรื่องนี้ปิดเกมได้เลย
ปลัดแม่ริมตรวจบัญชี "ฌอน" พบเงินเข้าเกือบ 1.3 ล้าน ก่อนถอนออก-จ่ายบัตรเครดิต
https://www.sanook.com/news/8205186/
ปลัดแม่ริมจ่อแจ้งความยักยอก-ฉ้อโกง หลังตรวจบัญชีรับบริจาค พบจ่ายบัตรเครดิต-โยกเข้าบัญชีตัวเองกว่า 1.2 ล้าน แต่ยังให้โอกาสชี้แจงก่อน
นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เผยผลการตรวจสอบบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขารวมโชค จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบัญชีที่เปิดรับบริจาคของฌอน บูรณหิรัญ ระบุพบข้อสงสัยหลายอย่างที่อาจเข้าข่ายความผิด โดยบัญชีดังกล่าว มีเงินคงค้างบัญชีที่ 90,286 บาท และนับตั้งแต่เปิดรับบริจาคตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 3 เมษายน พบว่ามีเงินเข้าบัญชี 5,960 ครั้ง ยอดเงินรวม 1,338,889 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบพบยอดถอนทั้งหมด 7 ครั้ง พบรายละเอียด 6 ครั้ง เป็นเงิน 1,200,000 บาท
ในการถอนเงินที่พบ 4 ครั้งแรก เป็นวันที่ 3 และ 4 เมษายน เป็นการโอนจ่ายบัตรเครดิต 4 ครั้ง ครั้งละ 50,000 บาท รวม 200,000 บาท หลังจากนั้นวันที่ 7 เมษายน โอนเข้าบัญชีของฌอนธนาคารไทยพาณิชย์ สองครั้ง ครั้งละ 5 แสนบาท รวม 1 ล้านบาทการถอนและโอนเงินทั้งหมดนี้ เกินยอดคงค้างเดิมในบัญชีที่มีอยู่ 90,286 บาท ทำให้ต้องตรวจสอบว่าเงินส่วนเกินที่นำไปใช้ เป็นการนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ของการเปิดรับบริจาคช่วยไฟป่าหรือไม่ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบว่ามีการโอนเงินช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือดำเนินการจัดซื้อสิ่งของเพื่อช่วยไฟป่า มีเพียงการจัดซื้อหน้ากากอนามัยจากบริษัทเชียงใหม่เดลต้า จำนวน 224,998 บาท ในวันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งผ่านพ้นวิกฤตไฟป่าไปแล้ว
นายบุญฤทธิ์ กล่าวว่า ฌอนต้องเข้ามาชี้แจงให้ได้ว่าเงินที่นำไปใช้กว่า 1.1 ล้าน เอาไปทำอะไร มีหลักฐานแสดงหรือไม่ หากอธิบายไม่ได้ก็อาจเข้าข่ายยักยอกเงินของประชาชน เพราะผู้บริจาคโอนให้เพื่อให้ไปช่วยไฟป่า ไม่สามารถนำไปใช้ได้ตามอำเภอใจ ซึ่งในที่สุดหากฌอนไม่มาพบหรือส่งตัวแทนชี้แจง ตามกำหนดเวลาที่ให้ไวในวันที่ 17 กรกฏาคม ทางอำเภอแม่ริมก็เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ เนื่องจากเป็นท่องที่เกิดเหตุ ทั้ง ข้อหาเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต ยักยอกทรัพย์ หรือฉ้อโอง ซึ่งเอกสารบัญชีธนาคารจะถือว่าเป็นเอกสารที่ปรากฏต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว ซึ่งการแจ้งความเป็นความต้องการของชาวบ้านในพื้นที่ที่เรียกร้องให้ดำนินคดีไม่ให้เป็นตัวอย่าง
ขนส่งฯ แจงทะเบียนรถ "ฌอน" ของจริง
https://news.thaipbs.or.th/content/294419
กรมการขนส่งทางบก แจงการจดทะเบียนรถเลขสวยของ "ฌอน บูรณะหิรัญ" เป็นการซื้อทะเบียนต่อจากผู้ที่ประมูลเลขได้ในอดีต ไม่ใช่ทะเบียนปลอมหรือสวมทะเบียน
วันนี้ (9 ก.ค. 2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเพจดังตั้งข้อสังเกตทะเบียนรถเลขสวยของ "ฌอน บูรณะหิรัญ" นักสร้างแรงบันดาลใจ ที่นำทะเบียน มาติดกับรถ BMW i8 ว่า เป็นการสวมทะเบียนหรือไม่ เนื่องจากได้ไปตรวจสอบในช่องทางต่าง ๆ แล้ว พบสถานะยกเลิกเลขทะเบียน
ล่าสุด นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีฝ่ายปฎิบัติการ กรมการขนส่งทางบก ชี้แจงว่าเลขทะเบียนรถดังกล่าว เป็นทะเบียนที่มาจากการประมูลเลขสวยของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งมีผู้ประมูลไปก่อนหน้านี้หลายปี จากนั้น นายฌอน ต้องการใช้เลขทะเบียนดังกล่าว จึงมีการเจรจาขอซื้อกรรมสิทธิ์จากผู้ถือคนก่อนและตกลงซื้อขาย โดยเจ้าของป้ายทะเบียนได้ทำการส่งมอบทะเบียนให้กับนายฌอน จึงไม่ถือว่าเป็นทะเบียนปลอมหรือการสวมทะเบียน
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายฌอน ได้มอบหมายตัวแทนให้มาดำเนินการแจ้งโอนย้านกรรมสิทธิ์ให้เป็นชื่อของตนเองอย่างถูกต้อง แต่เนื่องจากช่วงเวลานั้นเอกสารการโอนย้ายยังไม่ครบถ้วนถูกต้อง ทำให้การโอนกรรมสิทธิ์ยังไม่เรียบร้อย อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ขณะนี้การดำเนินการโอนย้ายกรรมสิทธิ์ถือครองทะเบียนดังกล่าว เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว