ธปท. ประกาศลดดอกเบี้ย Non Bank มีผลดีหรือผลเสียมากกว่า? มาแชร์กันครับ

ตามที่จั่วหัวไว้เลยครับ ในมุมมองของผมจริงๆ มุมแรกนโยบายนี้ก็ดีนะครับ สำหรับคนที่ลำบากจริงๆ ตอนนี้อย่าว่าแต่ผ่อนรายเดือนเลย ใช้ชีวิตไปแต่ละวันก็ยังลำบาก การที่ประกาศลดดอกเบี้ยก็เหมือนช่วยให้ได้มีเวลาลืมตาอ้าปากขึ้นมาบ้าง ซึ่งมองในมุมนี้คนที่ได้ประโยชน์ก็คือประชาชนกลุ่มกลางๆ กับกลุ่มคนที่อยู่ในกลุ่มระดับพื้นกว่านั้น ซึ่งผมขออนุญาตเรียกว่ากลุ่มรากหญ้านะครับ จะได้พอเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น สองกลุ่มนี้แหละที่ได้ประโยชน์เต็มๆ
 
 แต่ในอีกมุม ผมดูๆ ไปแล้วมาตรการนี้คนที่ได้รับความเดือดร้อนที่สุด ก็น่าจะเป็นประชาชนกลุ่มกลางๆ และกลุ่มรากหญ้าเช่นเดียวกัน เพราะมาตรการนี้ดูเผินๆ ในภาพใหญ่ก็เหมือนๆ จะเป็นแค่การสร้างภาพให้ดูดีเหมือนกันและเหมือนเป็นการผลักภาระมาให้คนกลุ่มกลางๆ หรือกลุ่มรากหญ้าของประเทศซะมากกว่า ที่ในอีกมุมผมคิดแบบนั้น เพราะเมื่อมีการลดอัตราดอกเบี้ยทำให้สถาบันการเงินจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่ออย่างช่วยไม่ได้ เพื่อลดความเสี่ยงของ NPL ที่มีแนวโน้มว่าจะพุ่งขึ้น ถ้าหมุนเงินไม่ทัน สถาบันการเงินก็ล้มได้ง่ายๆ ที่สำคัญผมมองว่าส่วนใหญ่คนที่กู้เงินกับ Non Bank มักจะกู้ด้วยวงเงินที่ไม่ค่อยสูง ไม่ได้แบบกู้กันเป็นล้านๆ การอนุมัติสินเชื่อที่ได้ดอกไม่คุ้มวงเงินที่ให้กู้ จึงเป็นความเสี่ยงที่ไม่มีสถาบันการเงินไหนทำกันแน่ๆ ครับ ทีนี้พอคนจะไปกู้ก็กู้ยากขึ้นแล้ว แล้วทีนี้คนที่จำเป็นต้องกู้เงินมาใช้ในการประกอบธุรกิจ หรือใช้ในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่ก็กลุ่มกลางๆ หรือรากหญ้าแบบเราๆ นี่ละครับ พอเริ่มกู้ลำบากแล้วจะหันไปทางไหนกันดี อันนี้เริ่มน่าคิดแล้วครับ เริ่มเห็นภาพกันหรือยังครับมันเหมือนจะมีอะไรแอบแฝงอยู่ในมาตรการที่ภาพลักษณ์ดีตัวนี้อยู่เหมือนกัน
 
เอาจริงๆ ที่ผมพอทราบมา หลายสถาบันการเงินมีเงินในระบบเยอะนะครับ แต่ไม่สามารถปล่อยเงินกู้ได้ รวมถึงเงินกู้ที่ปล่อยไปก็ติดภาวะเศรษฐกิจช่วงโควิด ทำให้ไม่สามารถเก็บเงินคืนเข้าระบบได้เช่นกันเลยทำให้อยู่ในภาวะหยุดนิ่ง ยิ่งมาเจอกับการประกาศลดดอกเบี้ย Non Bank ที่เป็นทางเลือกเงินกู้ของกลุ่มกลางๆ หรือกลุ่มรากหญ้าเข้าไปอีก ทำให้โอกาสกู้น่าจะผ่านยากมาก ขนาดในระดับกิจการ ยังมีเงื่อนไขพิจารณาเยอะแยะมากมายแถมยังยืดเวลาการพิจารณาออกไปอีกต่างหาก แทบไม่ต้องพูดถึง Personal Loan กันเลยครับ
 

เมื่อกู้ในระบบยาก สถาบันการเงินไม่อนุมัติ ไม่ต้องพูดถึง Bank เลยนะครับ เพราะตาม Fact จริงๆ ผมมองว่าส่วนใหญ่คนที่กู้เงินกับ Non Bank  มีเปอร์เซ็นที่เคยกู้ Bank แล้วไม่ผ่านกันมาเยอะเหมือนกัน ทีนี้พอกู้ Bank ก็ไม่ได้ กู้ Non Bank ที่เคยได้ก็ยังลำบากขึ้นไปอีก คราวนี้ก็ต้องหันไปพึ่งพาแหล่งเงินกู้นอกระบบแทนอย่างไม่มีทางเลือกแล้วละครับ หลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อคนต้องหันไปกู้นอกระบบกันอย่างมากมาย อย่าเพิ่งมองว่ากู้นอกระบบเดี๋ยวนี้หากู้ยากนะครับ เพราะเราก็เห็นข่าวกันมาไม่น้อยเกี่ยวกับการถูกทำร้ายหรือการฆ่าตัวตายที่เกิดจากการติดหนี้นอกระบบ ดังนั้นมันยังมีอยู่จริงๆ ครับ หากู้ไม่ยากด้วย แต่เวลาต้องจ่ายคืนนี่สิ อย่างยากเลย ยังไงก็ไม่หมดเสียที เพราะแค่ดอกเบี้ยก็มหาโหดแล้ว นอกจากนี้พอคนไปกู้นอกระบบกันมากขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือตัวเลขการกู้ยืมหนี้ในระบบ และตัวเลข NPL ก็จะลดลงยังไงละครับ เปลือกนอกเหมือนจะดูดี เหมือนเศรษฐกิจดีขึ้น แต่ความจริงคือหนี้มันไปกองอยู่นอกระบบไม่สามารถตรวจสอบได้แล้วนั่นเอง 
 
จริงๆ แล้วเท่าที่ผมวิเคราะห์มาคนที่ได้ประโยชน์จริงจังกับมาตรการลดดอกเบี้ยครั้งนี้อาจจะเป็นกลุ่มเงินกู้นอกระบบก็เป็นได้นะครับ เหมือนรัฐหาลูกค้ามาเสิร์ฟให้ถึงที่ 5555 คนรวยยิ่งรวยขึ้น (เก็บดอกกันไป) ส่วนคนจนก็ยิ่งจนลง (จ่ายดอกกันไปต้นไม่ลด) แต่ทั้งหมดนี้ต้องบอกก่อนนะครับว่าเป็นการคิดและวิเคราะห์ของผมคนเดียวนะ คือพอเห็นข่าวแล้วหัวผมคิดต่อไปที่เรื่องนี้ทันทีเลย คิดอยู่คนเดียวไม่มีคนคุยด้วย เลยอยากมาแชร์ความคิดเห็นมาคุยกับเพื่อนๆ ดีกว่า แล้วเพื่อนๆ ในห้องนี้มีความคิดเห็นยังไง เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับผมยังไง เพิ่มเติมกันได้เลยนะครับ มาคุยกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่