คุณแม่เป็นเบาหวาน ฉีดอินซูลีนให้คุณแม่ แล้วเป็นก้อนบวมขึ้นมา จะอันตรายมั้ยคะ

ปกติไม่เคยฉีดค่ะ ครั้งนี้คุณแม่เข้าโรงพยาบาลจากอาการหัวใจล้มเหลว ช็อค ความดันตก ไม่ทราบว่ามันมีผลทำให้น้ำตาลในเลือดสูงด้วยรึเปล่า
หมอบอกว่ายากินเอาไม่อยู่ น้ำตาลสูง ต้องฉีดอินซูลีน ก่อนอาหารเช้าและเย็น
เราก็ฉีดตามที่พยาบาลสอน คือ เอานิ้วมือ 3 นิ้ววางทาบที่สะดือ ทาแอลกอฮอล์ ปักเข็ม 90 องศา แล้วดึงดูนิดนึง ไม่ให้มีเลือดตามขึ้นมา (พยาบาลบอกว่าถ้ามีเลือดออกตามเข็มขึ้นมา อาจจะอันตรายถึงขั้นพิการได้ค่ะ) แล้วฉีด 8 ยูนิต กดเข็ม นับ 1-10 แล้วคค่อยดึงเข็มออก

แต่ครั้งนี้ฉีดปุ๊บ พอดึงเข็มออก ตรงที่ฉีดก็บวมขึ้นมาเป็นก้อนทันที สักพักก้อนบวมก็ขยายใหญ่ขึ้น จนมีขนาดเส้นรอบวงประมาณ 3 ซม. และนูนขึ้นมาประมาณ 0.5 ซม. แบบนี้จะเป็นอะไรมั้ยคะ อันตรายมั้ยคะ และทำยังไงถึงจะหายคะ คุณแม่ทานยาละลายลิ่มเลือด, แอสไพรีน และ Clopidogrel ด้วยค่ะ รอยเข็มแผลเก่าก็ช้ำจนเป็นสีม่วงและเป็นก้อนแข็ง แต่ก็ไม่ใหญ่มากเท่าครั้งนี้ค่ะ 

***เพิ่มเติมค่ะ***

ลืมบอกไปค่ะ คุณแม่อายุ 70 ปี ป่วยติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลยค่ะ ขยับนิดนึงก็เหนื่อยค่ะ

ขออนุญาตถามเพิ่มเติมนะคะ ฉีดอินซูลีนจำเป็นต้องฉีดตรงเวลาเดิมทุกครั้งมั้ยคะ เช่น ถ้าวันนี้ฉีด เช้า 7.00 น. เย็นฉีด 15.00 น. พรุ่งนี้ฉีด 9.00 น. เย็นฉีด 17.00 น. แบบนี้ได้มั้ยคะ จะเป็นอะไรมั้ยคะ บางวันคนฉีดเหนื่อยจนลุกไม่ไหวอ่ะค่ะ

ที่บวมนี่เป็นเพราะอะไรคะ ปกติไม่บวมแบบนี้อ่ะค่ะ

และวันที่ไปหาหมอ หมอนัด เราต้องงดอาหารมั้ยคะ และต้องฉีดอินซูลีนไปมั้ยคะ 

รบกวนด้วยนะคะ ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

ท้องคุณแม่ค่ะ ตรงที่ฉีดเมื่อเย็นคือ ลอยล่างด้านขวาสะดือค่ะ ฉีดปุ๊บก็บวมเลย และมีเลือดไหลออกมาด้วยนิดนึงค่ะ
ตอนนี้มันแข็งเป็นก้อน และคุณแม่เจ็บมากด้วยค่ะ


เข็มที่ใช้ค่ะ


เพิ่มเติมค่ะ เราทราบสาเหตุทั้งหมดแล้ว รอยเขียวม่วงช้ำ เกิดจากเลือดออกใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นผลมาจากค่าเลือด INR ของแม่เราที่สูงไปถึง 9 จนตอนนี้คุณแม่เราได้จากเราไปแล้วค่ะ คนทั่วไปค่านี้จะอยู่ที่ 2-3 แต่ของแม่เราเกินไปเยอะเนื่องจากต้องกินยาละลายลิ่มเลือดในปริมาณที่สูง เพราะก่อนหน้านี้ คุณแม่เราหัวใจล้มเหลว เนื่องจากมีลิ่มเลือดไปอุดตัน คุณหมอจึงให้ทานยาละลายลิ่มเลือดในปริมาณที่สูงขึ้น และต้องกินยาแอสไพรีน และยา Clopidogrel ซึ่งทั้ง 2 ตัวนี้ก็ไปต้านการแข็งตัวของเกร็ดเลือดด้วยค่ะ ยิ่งไปเสริมฤทธิ์ยาละลายลิ่มเลือดเข้าไปอีก เลือดจึงออกง่ายมาก ก่อนหน้านี้ออกปากและจมูกด้วย สุดท้ายเลือดไปออกที่สมองเยอะจนทำให้สมองส่วนที่ควบคุมการหายใจทำงานไม่ได้ เราเฝ้าทะนุถนอมประคองแม่เรามาตลอด ดูแลอย่างดีทุกอย่าง และดูแลด้วยตัวเอง เพราะกลัวจ้างคนมาดูแลแล้วจะดูแลได้ไม่ดีเท่าเราที่เป็นลูกที่รักแม่ เสียใจมากที่สุดในชีวิตค่ะ แต่ก็ย้อนเวลาให้กลับคืนมาไม่ได้ สาเหตุที่คุณแม่หัวใจล้มเหลวในครั้งก่อนก็น่าจะมาจากการที่เราไม่ได้พาคุณแม่ไปหาหมอ เนื่องจากช่วงนั้นโควิด19 กำลังระบาดหนัก และโรงพยาบาลที่รักษาประจำก็มีผู้ป่วยโควิด 19 หลายคน เราจึงไม่อยากพาคุณแม่ไป แต่ให้ทางโรงพยาบาลจัดส่งยาทางไปรษณีย์ให้แทน จริงๆ คุณแม่ต้องไปเจาะเลือดดูค่าเลือด INR และเอ็กซเรย์ เราคิดว่าคุณแม่ไม่ได้มีอาการผิดปกติใดๆ มีแค่ทานอาหารแล้วอาเจียนมาตลอด เราดูแลจนคุณแม่ทานอาหารได้ เราจึงชะล่าใจ นี่น่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คุณแม่จากเราไปค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่