เคยมีเวลานั่งทบทวนตัวเองบ้างหรือไม่ในแต่ละวัน.. จากประสบการณ์ " คนที่มีทัศนคติลบ "

ตามหัวข้อกระทู้เลยนะครับ เราเคยเป็นเด็กคนนึง ที่มีความคิดลบๆ ในการใช้ชีวิตมาตลอด ทำอะไรมักจะมองเห็นแต่ปัญหา
ทำอะไรไม่สำเร็จ ชีวิตไม่ก้าวหน้าเลย ในเรื่องการงาน การใช้ชีวิต เรามักจะชอบพูดกับตัวเองอยู่บ่อยๆ ทุกครั้งที่เจอปัญหาว่า
" ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย " นี่เป็นคำพูดที่เราพูดกับตัวเองเสมอที่เจอปัญหา เราจมอยู่กับความคิดเหล่านั้นมาเรื่อยๆ
จนเรามองไม่เห็นอะไรดีๆในชีวิตเลย เห็นแต่ด้านที่ไม่ดีตลอด ทั้งๆที่เรามีคนรอบตัวมากมายที่พร้อมจะให้กำลังใจ คอยอยู่ข้างๆ
แต่ ความคิดลบๆของเรานี่แหละ ที่ทำคนเหล่านั้นหายไปโดยที่เราอาจจะไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ.. ทำให้เราเริ่มรู้สึกแย่กว่าเก่า
ว่าทำไมเวลาที่เราแย่ ไม่มีคนที่คอยอยู่ข้างๆเราเลย? (เริ่มดราม่าใช่มั้ยล่ะ555555) เราไม่เคยมองหาเหตุผลเลยว่าทำไมคนเหล่านั้นถึงหายไป
มันฟังดูเอาแต่ใจตัวเองนะ ใช่คนที่มีทัศนคติลบมักจะมองเห็นแต่ความผิดพลาดที่ทุกคนทำ ยกเว้นสิ่งที่ตัวเองทำ (อันนี้พูดจากสิ่งที่เราเคยเป็นโดยส่วนตัว)
เราโทษทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต มันเลวร้าวบ้าง แย่ไปบ้าง เราทุกคนก็ต้องเจอเรื่องที่ไม่ดีชวนหัวร้อนกันทุกคนแหละใช่มั้ย แต่มันก็อยู่ที่เราเองจะจัดการ
กับสิ่งเหล่านั้นยังไง จนวันนึงเราได้ไปเจอกับเหตุการณ์บางอย่าง เรียกได้ว่ามันคงเป็นจุดเปลี่ยนไปเลย เราสูญเสียบางอย่างที่สำคัญไปจากชีวิต..
วันนั้นมันมีคำที่ทิ้งท้ายไว้เพียงแค่ว่า
" ไม่มีใครอยากทนอยู่กับคนที่มีทัศนคติลบหรอกระ มันรู้สึกเหนื่อยที่เวลาคนนึงมีแต่ความคิดลบๆ แล้วอีกคนนึงต้องคอยดึงขึ้นมาตลอด
เธอไม่รับฟังความคิดเห็นคนอื่น อารมณ์ร้อน เธอโครตเอาแต่ใจตัวเองเลยรู้ตัวบ้างมั้ย !! " 
มันเป็นคำพูดของคนที่เรารักนะ ก่อนที่เขาจะทิ้งเราไปหลังจากวันนั้นเราก็ใช้เวลา นั่งทบทวนตัวเองจริงจังเลย ที่ผ่านมาเราเป็นยังไงบ้าง
พอเรามีเวลาทบทวนตัวเองได้ ก็เริ่มมีสติ มองโลกด้วยความเป็นจริงได้ (แบบไม่โลกสวย) เราเจอข้อเสียของตัวเองเยอะมากๆ
เราเอาแต่มองทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วยอารมณ์ ไม่ใช้เหตุผล , เรามองทุกอย่างเลวร้ายหมด หาทางออกไม่ได้ (ทั้งๆที่มันก็มีทางออก)
มัวแต่จมกับความคิดลบๆ ซึ้งความคิดของเรานั่นแหละที่ทำร้ายตัวเราเองไม่พอ ยังทำร้ายคนอื่นอีกด้วย มันทำให้เรามองเห็นได้ชัดว่า
ที่ผ่านมาเราเป็นคนที่มองโลกในแง่ลบม๊าก (ก.ไก่ล้านตัวเลย) เรื่องนี้สอนให้เราเรียนรู้ได้เลยว่า การที่เราจะทำอะไรแต่ละอย่างเราต้องคิดและมีสติให้มาก
คิดก่อนพูด ทำอะไรให้คิดถึงใจคนอื่น และมองถึงความเป็นจริงด้วย พยายามฝึกให้ตัวเองโฟกัสแต่พลังบวก คิดบวกอยู่บ่อยๆ
คงไม่มีใครเปลี่ยนตัวเองได้ไวหรอกใช่มั้ย ค่อยๆปรับกันไป สักวันเราจะเป็นคนที่มีแต่พลังงานบวกได้เอง เราเชื่อว่า ถ้าทุกคนคิดดีผลที่ตามมาคือความสุข
ถ้าเรายังคิดลบๆ เราก็จะมองเห็นแต่ปัญหา เห็นแต่ข้อเสียอยู่เหมือนเดิมในทุกๆอย่าง การที่เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ต้องเริ่มจากการพัฒนาตัวเราเองก่อน
ให้คิดซะว่ามันคือการเรียนรู้ที่จะพาเราไปสู่ความสำเร็จ ค่อยๆคิด ค่อยๆแก้ไขกันไป ชีวิตเรายังไม่สายที่จะเริ่มต้นใหม่นะครับ
อยากให้คนที่กำลังเป็นเหมือนเราในตอนนี้ได้อ่านและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ เพราะเราก็เคยเป็นคนนึงที่มีความคิดลบแบบนี้มาก่อน
กว่าจะรู้ตัวและ คิดเปลี่ยนแปลงตัวเองเราก็สูญเสียคนรอบตัวดีๆไปมากมาย มันอาจจะสายไปสำหรับใครบางคน
แต่อย่าไปคิดว่าเราเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร เพราะมันดีกับตัวเราเอง เมื่อเราเลิกคิดลบ เราจะมองเห็นแต่สิ่งที่ดีรอบตัว มองเห็นแนวทางการแก้ไข
มองทุกอย่างด้วยความจริงได้ เราก็จะเจอแต่ความสุข หาหนังสือดีๆ มาอ่านเป็นแรงบันดาลใจสักเล่ม ฟังคนที่มีทัศนคติบวกเขามีวิธีการอย่างไร / แนวทาง
อย่างไรที่มองโลกในแง่บวกได้ (แบบไม่โลกสวย) หมั่นให้อภัยตัวเอง ให้อภัยคนอื่น อย่างสมเหตุ สมผล อะไรที่คิดว่าตัวเองเคยผิดพลาดมาแล้ว
ให้ละทิ้งมันไปแล้วเริ่มใหม่นะครับ หากมีบางอย่างที่รู้สึกว่า เปลี่ยนที่คนอื่นไม่ได้ ก็เปลี่ยนที่ตัวเองนี่แหละ..
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่พยายามเปลี่ยนเหมือนกันกับเรานะ

ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่านครับรักคุณ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่