คดี Iam ฟ้องแนทเธอรีน เทียบฎีกา

หลังจากที่ได้อ่านเอกสารคำฟ้องของ Iam (มีคนเผยแพร่ออกมาแล้ว) มีคนแนะนำฎีกาหนึ่งซึ่งคิดว่าน่าจะพอยกมาเทียบเคียงกับกรณีนี้ได้

เริ่มที่ข้อเท็จจริงเท่าที่รวบรวมจากโซเชี่ยลก่อน ใครที่ติดตามอยู่ข้ามได้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แล้วยกคำพิพากษาฎีกาที่ 6681/2562 ที่เหตุคล้ายกัน มีเนื้อหาโดยย่อดังนี้

     แม้ ป.พ.พ. มาตรา 423 ไม่ได้บัญญัติว่าเป็นการกล่าวหรือไขข่าวต่อบุคคลที่สาม แต่การกล่าวหรือไขข่าวที่แพร่หลายได้ก็ต้องมีบุคคลที่สามอยู่ การพูดคนเดียวไม่มีคนได้ยินย่อมไม่เป็นการกล่าวให้แพร่หลาย ดังนั้นถ้ามีคนแอบฟังโดยคนพูดไม่รู้ การพูดดังกล่าวถือไม่ได้ว่าเป็นการจงใจกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลาย เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า พ. เป็นผู้เริ่มต้นการตั้งโปรแกรมสนทนาผ่านบัญชีเฟสบุ๊ค เมสเซนเจอร์ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ให้บริการส่งข้อความและข้อมูลมัลติมีเดียสนทนาโต้ตอบกันผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่เข้าในระบบเพื่อพูดคุยกัน โปรแกรมสนทนาดังกล่าวเป็นแบบระบบปิดมีสมาชิกเพียง 3 คนคือจำเลยทั้งสองและ พ. บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าไปดูหรืออ่านข้อความสนทนาได้ การสนทนาดังกล่าวที่มีการพูดถึงโจทก์และพนักงานอื่นรวมอยู่ด้วยจึงเป็นการกล่าวที่จำเลยทั้งสองและ พ. ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันสนทนาร่วมกันโดย พ. เข้าร่วมสนทนากับจำเลยทั้งสองหลายครั้ง จึงมิใช่เป็นการที่จำเลยทั้งสองกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลาย ส่วนการที่โจทก์แอบดูและอ่านข้อความสนทนาและนำไปเผยแพร่ให้บุคคลอื่นรับทราบเอง ย่อมไม่ทำให้การสนทนาระหว่างกลุ่มบุคคลทั้งสามเป็นการกล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายให้บุคคลอื่นรับทราบได้ การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์

หากยึดตามฏีกานี้ จะได้ข้อสรุปว่า
การที่แนทเธอรีนคุยกับแฟนคลับผ่านโปรแกรม Facebook Messenger เป็นการส่วนตัว ไม่นับว่าเป็นการ "ไขข่าวแพร่พลาย" ตาม ปพพ 423 แต่อย่างใด

หมายเหตุ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

จนแล้วจนรอด ก็รอดูกันต่อไปว่า ผลของคดีนี้จะสร้างบรรทัดฐานให้กับเคสในอนาคตต่อไป ได้หรือไม่ หากว่าเมมเบอร์คนอื่นๆที่ต้องการจะออกจากIam ก่อนหมดสัญญา ติดตามกันต่อไป...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่